“แกร็บวิน”บุกกระทรวงคมนาคมยื่น 4 ข้อวอนชะลอคำสั่งห้ามวิ่งรับงาน
ประกาศกรมการขนส่งทางบก ที่กำหนดแกร็บวินรูปแบบใหม่ที่จะเปิดให้กับพาร์ทเนอร์คนขับป้ายเหลืองที่มีคุณสมบัติตามที่ระบุเท่านั้น คือ
1.ต้องมีใบขับขี่สาธารณะ และจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ
2.สามารถรับงานได้เฉพาะในเขตที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และ
3.อัตราค่าโดยสารจะเป็นอัตราเดียวกับวินมอเตอร์ไซค์
ข้อเรียกร้องต่อกระทรวงคมนาคม คือ
1.ขอให้มีการพิจารณาเรื่องกำหนดเวลา 30 วันที่จะนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลออกจากบริการ (GrabBike win) ออกไปจนกว่ากรมการขนส่งทางบกจะมีมาตรการรองรับหรือกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมสำหรับรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่น
2.ขอให้มีกฎหมายรองรับผู้ให้บริการขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่นอย่างถูกต้อง โดยมีเงื่อนไขดังนี้ คือ ไม่จำเป็นต้องมีสังกัดวินมอเตอร์ไซด์ เพราะมีค่าใช้จ่ายเรื่องเสื้อวินราคาสูง และหากให้ไปรวมกับวินมอเตอร์ไซค์ที่มีอยู่แล้ว อาจก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างวินมอเตอร์ไซค์และผู้บริการขับขี่รถมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เป็นป้ายเหลืองแค่ใบขับขี่สาธารณะก็เพียงพอ
3.ขอให้อัตราค่าโดยสารเป็นไปตามราคาปัจจุบันเพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าของชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆและ 4.ขอให้สามารถใช้เกณฑ์ในการวิ่งรับส่งแบบเดียวกันกับแท็กซี่ โดยไม่จำเป็นต้องแต่งโซนหรือแบ่งเขต และเวลา 30 วันไม่เพียงพอ เพราะได้ประโยชน์กลุ่มๆเดียวประชาชนประชุมผู้ขับเดือดร้อนจึงขอให้ยืดเวลาออกไปก่อน จะแก้กฎหมายหรือร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ ขอให้มีมติออกมา ซึ่งกฎหมายต้องเปลี่ยนไม่ใช่ได้ประโยชน์เพียงกลุ่มเดียว อย่างไรก็ตาม เข้าใจเป็นอย่างดีว่ากระบวนการใดๆต้องใช้เวลา แต่ขอให้มาสอบถามพวกเราก่อน
ขณะที่นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าเรื่องราคาค่าโดยสารเราได้พูดคุยกับทางแอพฯแล้ว ว่าจะขอให้แยกค่าบริการออกจากค่าโดยสารเพื่อให้ชัดเจนว่าสิ่งที่เป็นค่าโดยสารจริงๆที่จะได้แล้วไม่โดนหักมันเป็นอย่างไรให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันเรามีกฎหมายเรื่องรถสาธารณะจึงอยากให้เข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าทางกรมไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร เพียงต้องการทำให้เข้าระบบเพื่อทำให้ถูกต้อง
Credit:
https://www.banmuang.co.th/news/economy/285382
อยากถามว่ากฏหมายเขาบังคับเขตที่ลงทะเบียนไปทำไมครับ ตัดเรื่องวินกับแกร๊บออก ประชาชนได้อะไรจากกฏข้อนี้
ส่วนเรื่องใบขับขี่สาธารณะ ป้ายเหลือง ค่าโดยสาร ผมมองว่าแฟร์แล้ว ทำธุรกิจอย่างเดียวกันก็ควรแข่งขันบนกฏเดียวกัน