ผมจำได้ว่ามันมีหลายเคสที่มีการฟ้องเรื่อง การแอบคุยกับนักเตะก่อนยื่นข้อเสนอซื้อตัว.
แต่จากข่าวที่ผมตามๆมา เหมือนสมัยนี้ ดีลกับนักเตะเสร็จก่อน แล้วค่อยยื่นซื้อกับสโมสร. ไม่ผิดกฏแล้วเหรอครับ

ไม่ผิดถ้าทีมรับรู้และอนุญาติให้คุย

นักเตะมักจะได้สัญญาณว่าหาทีมคุยได้เลย ยกตัวอย่าง AWB ที่มีข่าวไฟเขียวให้ย้ายได้ ใครจะมาคุยก็คุยได้เลยยังไม่ต้องยื่นซื้อก็ได้

แต่มันจะผิดถ้าไปแอบคุยกับนักเตะโดยที่ทีมไม่รู้ ถ้าความแตกก็จะโดนแบบเคส ฟานไดจ์ เป็นตัวอย่างทีมเจ้าของนักเตะยังไม่ทันได้รับรู้ต้องขอโทษขอโพยก่อนซื้อจริงในตลาดถัดมา

คุยกันว่า สนใจนะ สนใจย้ายมาไหม สอบถามค่าตัว กับพวกเอเย่นต์

สุดท้ายการย้าย อยู่ที่สโมสรยอมรับค่าตัว หรือเปล่า

แต่อย่าไป สวมเสื้อแข่งของทีมที่จะมาซื้อตัวเอง หรือ ให้ทีมโฆษก ออกมาปั่นรายวัน นะ อันนั้นไม่ผิดแต่ไม่น่าดู

ทำกันเป็นปกติครับ ยังไงก็ต้องติดต่อนักเตะก่อนอยู่แล้ว

อยู่ๆจะไปดีลสโมสรเสร็จสรรพ ปรากฏนักเตะไม่อยากมาก็เสียเวลาฟรีสิ

ถ้าดีลปกติ สโมสรก็ทำหลับหูหลับตา มองข้ามไป ไม่ได้เอามาดราม่า

ที่มันมีปัญหาเพราะบางดีลสโมสรไม่อยากขาย(หรืออยากดึงราคา)

แต่อีกทีมยุให้นักเตะงอแง เลยต้องตอบโต้โดยออกข่าวประจานไรงั้น

จริงๆก็ทำแบบนี้มานานแล้วแหละฮะ เพียงแต่ไม่มีสโมสรไหนดักฟังโทรศัพท์ตอนคุยกับเอเยนต์ได้

คือตามกฏมันต้องติดต่อกับทีมต้นสังกัดก่อน รอทีมอนุญาตถึงได้คุยกับนักเตะ..ไปหลังไมค์ก่อนก้คือผิด

ผิดตามกฏแต่มันก็จำเป็นแหละ ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่านักเตะสนใจย้ายมั๊ย แล้วเรียกร้องค่าเหนื่อยเกินกว่าทีมจะจ่ายไหวรึเปล่า

ซึ่งถึงทีมต้นสังกัดจะคิดว่ามันผิด แต่เวลาคราวตัวเองต้องไปติดต่อนักเตะคนอื่นบ้างก็ทำวิธีเดียวกัน ก็เลยไม่ค่อยมีใครเสียเวลาไปฟ้อง

ยกเว้นแต่แบบไม่อยากขายจริงๆ ปักป้าย not for sell at any price แล้วยังมาติดต่อลับหลังเพื่อปั่นให้นักเตะงอแง นี่อาจจะไม่ยอม

ผิดกฎดิ แต่ใครๆก็ทำกันนี่แหละ
แต่ถ้าไปเล่นกับตัวที่เขาไม่ได้อยากขายก็ เตรียมโดนเล่นได้เลย

ไม่ผิดถ้าสโมสรต้นสังกัดรับรู้ อนุญาติให้คุย

ไม่ใช่นัดคุยเองได้เลย .. นึกว่ากรณี vvd ซิครับ หรือ เด็ดกว่านั้นหน่อยก็กรณีนัดโซล แคมป์เบลมาคุยยื่นของเสนอให้หลังหมดสัญญา แม้สุดท้ายแคมป์เบลจะย้ายไปแบบฟรีเอเย่นต์ก็เถอะ แฟนสเปอร์อย่างเดือดเลยพออาเซนอลเปิดตัวแคมป์เบล

ก็เคยมีเคส โมดริช ไง ที่ ไปคุยกับโรมันตกลงทุกอย่างกันจบเรียบร้อบยแล้ว

สเปอร์รู้ก็บล๊อคดีลทิ้ง

เคสโซล แคมป์เบลล์นั่นตามกฏเค้าคุยได้ตั้งแต่ 1 มกราละคับ
แต่ที่แฟนสเปอเดือดนั่นเพราะย้ายไปทีมคู่อริ

ขนาด R9 ตอนบาร์ซ่าส่งคนไปบุกแคมป์ทีมชาตที่ไมอามี่ อย่างกับหนัง

กรณีVVDผมว่าตอนนั้นที่โดนฟ้องน่าจะเป็นเพราะฝั่งลิเวอร์ใช้เหตุผลว่านักเตะอยากย้ายเต็มแก่แล้วมาต่อรองค่าตัวด้วยหรือป่าว

ผมเข้าใจว่า ปกติแม้ไม่เป็นไปตามกฏแบบ100% แต่สโมสรปลายทางก็คุยกับนักเตะผ่านเอเยนต์อยู่แล้ว

ส่วนใหญ่ผ่านจากสโมสรมาแล้วทั้งนั้นแหล่ะ เลยไม่มีปัญหา

เช่น กรณีของทีมผมนี่ชัด เลยช่วงนี้ก่ะ บาสโตนี่ สเปอแจ้งแล้วว่าอยากได้นะ อินเตอร์ก็เออออไปตามมารยาท

เลยถึงได้ไปกล่อมเจ้าตัวได้ แต่เจ้าตัวไม่อยากย้าย แต่ทางเอเยนต์เหมือนเองไปทางสเปอแล้วเลยมีการช่วยโน้มน้ามทั้งปล่อยข่าวสารพัดแต่สุดท้ายแล้ว บาสโตนี่ แจ้งกับ บอร์ดแล้วว่าไม่อยากย้ายทุกอย่างก็จบ

สคริเนียร์ นี่ก่ะเหมือนกัน สโมสรบอกถ้าได้ 80 ล้านพร้อมปล่อย แล้วมีข่าวว่ายื่นสัญญาให้พร้อมเกือบ 2 เท่าจากที่ได้รับที่อินเตอร์ แต่ยังตกลงค่าตัวไม่ได้ แถมเจ้าตัวก็นิ่งๆ ไม่หือไม่อืออะไร ถ้าตกลงค่าตัวได้ก็ here we go วันสองวันได้เลย แต่นี่ยังไม่ได้และอาจไม่เกิดขึ้นด้วย

ไอ่ที่เป็นปัญหาน่าจะตกลงค่าตัวไม่ได้นี่แหล่ะ แบบไม่พร้อมจ่ายเยอะเกินไปนะ เอเยนต์+นักเตะช่วยหน่อย อะไรประมาณนี้แบบไอ่ตู้หาทมางย้ายกลับมาอินเตอร์ทำนองนี้

นึกถึงเคส แอชลี่ โคล ตอนที่ มูแอบไปคุยกะโคลที่โรงแรม โดยที่สโมสรไม่รุ่เรื่อง เปนเรื่องราวใหญ่โตเลย อันนั้นน่าจะแอบสโมสร

แต่อย่าง เฆซุส นั่น นอล เจรจากับนักเตะแบบที่แจ้งสโมสรก่อน สโมสรไม่ได้ทักท้วงอะไร ก็ถือว่าไม่ผิด

ผิดแหละ ถ้าการคุยกันก่อนมันไม่ได้ผ่านการรับทราบจากสโมสรนะ ยิ่งถ้าเป็นตัวที่เค้าไม่อยากขายนี่โดนแน่

แต่ถ้าเป็นตัวที่เฉยๆ สโมสรน่าจะรับทราบก่อนอยู่แล้วว่าน่าจะมีการย้ายจากเอเยนต์ ก็แบบ ให้คุยกับเอเยนต์ไป คุยได้คุยไป เดี๋ยวมาจัดการเรื่องสัญญากันทีหลัง

ในยุคที่เอเย่นต์นักเตะเป็นใหญ่ ก็เป็นเรื่องปกติล่ะครับ สโมสรมีข้อโต้แย้งน้อยลง สนใจคนไหนก็โทรไปหาเอเย่นต์ก่อนถ้ามีแววก็ได้คุยกันกับนักเตะ แล้วก็ไปคุยกับสโมสรอีกที สโมสรมีแค่จะปล่อยหรือไม่ปล่อยแค่นั้นเอง ฟ้องร้องไปก็มีแต่เสียเวลาปล่าวๆ