ธุรกิจ Food Delivery ในปัจจุบันนี้ กำลังเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการ Food Delivery ลดน้อยลงตามไปด้วย
เนื่องจากผู้คนเริ่มออกไปใช้ชีวิตกันจนแทบจะเป็นปกติอีกครั้ง ทั้งนี้ ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คน ที่เกือบจะกลับไปเป็นปกตินี้ ทำให้ไรเดอร์กว่า 94% มองว่าตนเองได้รับผลกระทบ โดยไรเดอร์กว่า 70% ได้รับออร์เดอร์ประมาณ 5-15 ออร์เดอร์ต่อคน เพียงเท่านั้น

สวนทางกับจำนวนไรเดอร์ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเครื่องชี้วัดธุรกิจจัดส่งอาหารไปยังที่พักของ LINE MAN Wongnai ได้แสดงให้เห็นว่า จำนวนไรเดอร์ในเดือนมกราคม ปี 2022 นั้น เพิ่มขึ้นจากในเดือนมกราคม ปี 2020 ถึง 4.7 เท่า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นกว่า 54% ก็ได้ส่งผลกระทบต่อไรเดอร์เป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของต้นทุนในการขนส่งอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยไรเดอร์เกือบครึ่งหนึ่ง ต้องจ่ายเงินค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 50-70 บาทต่อวัน นอกจากนี้ น้ำมันแพง ยังได้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ ของตัวไรเดอร์เองอีกด้วย ทำให้ไรเดอร์กว่า 70% ต้องใช้เวลาทำงานและรับออร์เดอร์ให้มากขึ้น เพื่อให้รายได้กลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้านี้

จากผลกระทบทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้เอง ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดการณ์ว่า ธุรกิจ Food Delivery จะขยายตัวเพียง 1.7-5% ในปีนี้ ไปอยู่ที่มูลค่า 77,000-80,000 ล้านบาท จากที่เคยขยายตัวถึง 46.4% เมื่อปี 2021
ซึ่ง ณ ตอนนี้ทั้งตัวแพลตฟอร์มเอง ก็ได้พยายามออกมาตรการช่วยเหลือไรเดอร์ โดยให้ไรเดอร์ทำงานที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เช่น การจัดส่งพัสดุ การสั่งซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมทั้งปรับระบบการกระจายงานให้มีประสิทธภาพมากขึ้น ส่วนภาครัฐ ก็อยู่ในระหว่างการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อช่วยกำกับดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ Food Delivery

ที่มา https://www.facebook.com/BillionMoneyTH/photos/a.332420487199698/1484775351964200/

เดี๋ยวก็มีคนมาบอกให้ปั่นจักรยานแทน

เช่ารถมอไซไฟฟ้า เห็นมีขับอยู่หลายคนแถวบ้านน

เดี็ยวนี้เห็นขับมอไซส์ไฟฟ้ากันทั้งนั้นเลย
เคยถามคนมาส่งเขาบอกยี่ห้อ aj ซื้อคัน4หมื่น
กับอีกคนคลิกไฟฟ้าเขาบอกส่งไปแปลงมา 3หมื่นนิดๆ

สมัครคันไหนต้องเอาคันนั้นขับครับ

ผมที่วิ่ง​ หลังเลิกงาน​ประจำ​ 18.30น.จ-ศ​ มาวิ่ง​ grab
บอกได้เลยว่าจุกครับค่าน้ำ​มันแมร่งแพงจริงๆ

จนตอนนี้ผมต้องไปวิ่ง​ ส-อ​ อย่างเดียวแทนล่ะ

ปัญหาใหญ่กว่าคือคนน่าจะสั่งน้อยลงจริงๆมั้ง เข้าใจว่าถ้างานยังดี น้ำมันแพงก็ยังพอไปได้ แต่โดยรวมถ้าการเงินไม่ดี คนก็อาจจะกินประหยัดขึ้น ทำกินเองมากขึ้น

แต่หลายครั้งผมสั่งกินระยะหลังๆ Grab ยังส่งหลาย Order ในรอบเดียวอยู่เลย แอบเซ็งบางทีรอนาน

อาจจะมีผลกระทบกันไปตามพื้นที่ ที่ Riderหนาแน่น

จักรยานมหาเศรษฐีต้องมาแล้ว

หมดโควิด ทำให้ยอดน้อยลงจริงๆ

ประกอบกับส่วนลดที่น้อยลง ไรเดอร์เยอะขึ้น มีหลายเจ้าลงมาเล่นมากขึ้น

คนกลับ office หมดแล้ว

ค่ารอบน้อยด้วยครับ
น้ำมัน ลิตร 45 บาท
ค่ารอบ 28 บาท

ผมเลิกวิ่งได้2เดือนละครับ แต่ละวันนั่งหงอย กดงานยาก
พวกใช้โปรแกรมโกงก็เยอะ ว่าจะลองหามาใช้บ้างแล้ว

งานน้อยลงจริง ขนาดอยู่โซนของกินงานยังน้อยเลย

ผมที่นั่งสองแถวกลับบ้าน แล้วเส้นบ้านผมนี่แหล่งอาหาร ไม่รู้อาจจะคิดไปเองแต่เห็นไรเดอร์ นั่งจับกลุ่มกันมากขึ้น เพื่อรอออเดอร์

ออเดอร์น้อยลงน่าจะจริง ส่วนนึงคือคนออกใช้ชีวิตปกติค่อนข้างเยอะแล้ว แล้วหลังๆถ้าสั่งร้านมันแพงด้วย คงกลับมาทำอาหารกินเองกันด้วย เพราะรู้สึกว่าใช้แอพแล้วแพงกว่าตอนโควิดอีกปัจจุบัน เข้าใจว่าต้นทุนมันมากขึ้นด้วย

ผมเลิกขับตั้งแต่มาทำงานประจำที่นี่ 2ปีได้ล่ะ

พอมาสังเกตช่วงนี้นะหลังที่คนกลับมาทำงาน + เปิดเทอม

ผมทำงานสาทรเลิกงาน ติดนรกแตก ติดสาสมาก ขนาดมอไซยังไม่มีช่องให้ลอดอ่ะ

นึกสภาพนี่ถ้าไม่มีงานประจำยังขับไรเดอร์นี่โคดเหนื่อยอะ รอบเย็นๆ กว่าจะได้สักงาน คิดก็เพลียละ งานประจำห้องแอร์ดีกว่า 55