เดปายซัดชัยทดเจ็บ! "กังหัน" เฉือนเวลส์ 3-2 นำฝูงกลุ่ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เนเธอร์แลนด์ ที่เปิดบ้านขึ้นนำ เวลส์ 2-1 ก่อนมาเสียจุดโทษช่วงทดเจ็บแล้วโดนตีเสมอ 2-2 แต่สุดท้ายยังมาได้ซูเปอร์ซับอย่าง เมมฟิส เดปาย ยิงประตูชัยนาที 90+3 เฉือนชนะ 3-2 นำเป็นจ่าฝูงกลุ่มที่ 10 แต้ม
เนเธอร์แลนด์
Starting Formation: 3-4-3
2.
ยอร์ดาน เตเซ่

46'
15.
ฮันส์ ฮาเตบัวร์

46'
16.
วินเซนต์ ยานส์เซ่น

72'
12.
โนอา ลัง

72'
ตัวสำรอง
6.
สเตฟาน เดอ ไฟรจ์

46'
7.
สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น

72'
10.
เมมฟิส เดปาย

72'
22.
เดนเซล ดุมฟรีส์

46'
ฟุตบอลเนชันส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม A4
สนาม เดอ ไคป์
อังคาร ที่ 14 มิถุนายน 2565
กรรมการ โฮราติอู เฟซนิช
เนเธอร์แลนด์
3
2
เวลส์
1-0 โนอา ลัง 17'
2-0 โคดี้ กัคโป 23'
3-2 เมมฟิส เดปาย 90+3'
2-1 เบรนแนน จอห์นสัน 16'
2-2 แกเร็ธ เบล 90+2' (Pen.)
เนเธอร์แลนด์ เจ้าบ้านยังนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มมีอยู่ 7 แต้ม วันนี้จะส่ง ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น กลับมาลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงและ มัตไธจ์ส เดอ ลีกท์ ที่ไม่ฟิตจากนัดที่แล้วจะได้ออกสตาร์ตเช่นกัน
ส่วน เวลส์ ทีมเยือนอยู่อันดับบ๊วยของกลุ่มวันนี้ เวย์น เฮนเนสซีย์ จะได้เฝ้าเสาต่อและจะไม่มี โจ อัลเลน ที่บาดเจ็บจากนัดที่แล้ว
ยานส์เซ่น ได้ขึ้นโขกบอลไม่เข้าเป้า
เริ่มเกมมาเจ้าบ้านโหมบุกและได้ทักทายจากจังหวะที่ ฮาเตบัวร์ ทางขวาเปิดบอลเข้ามาให้ ยานส์เซ่น ขึ้นโขกกลางประตูแต่บอลยังหลุดเสาขวาออกไป
ลัง ส่องนอกกรอบเข้าซอง เฮนเนสซีย์
จังหวะนี้ กัคโป แตะบอลให้ ลัง หน้ากรอบได้ลองด้วยขวาแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว เฮนเนสซีย์ รับติดมือไม่มีปัญหา
ลัง พลิกซัดอย่างสวย! กังหันนำแล้ว 1-0
เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ยานส์เซ่น ทางขวาแตะบอลให้ ลัง หน้ากรอบพลิกเข้าไปถึงหัวกระโหลกก่อนจะพลิกหนีอีกจังหวะแล้วซัดด้วยขวาบอลพุ่งตุงตาข่ายไม่เหลือ
กัคโป หวดไม่เหลือ! เจ้าบ้านนำห่าง 2-0
เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่างไปอีกจากจังหวะที่ กัคโป ได้บอลกลางสนามแล้วลากฝ่ามาถึงหัวกระโหลกก่อนจะซัดเองไปติดบล็อคมาเข้าทางได้ซ้ำกลางประตูเสียบเสาขวาเข้าไปไม่เหลือ
จอห์นสัน กดหาย! เวลส์ตีไข่แตกเร็ว 2-1
จากจังหวะที่ทีมเยือนตัดบอลได้กลางสนาม วิลสัน แทงให้ จอห์นสัน หลุดเข้าไปตรงกลางก่อนจะซัดด้วยขวากลางประตูผ่านตัว ซิลเลสเซ่น เสียบมุมซ้ายเข้าไปไม่เหลือ
เจ้าบ้านยังได้ครองบอลบุกแต่ไม่มีจังหวะอะไรเพิ่ม
หลังยิงกันเร็วเกมเริ่มไม่เร่งเท่าเดิม ฝั่งเจ้าบ้านยังครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่ทีมเยือนก็เริ่มมีจังหวะได้สวนมากขึ้นแต่ทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูเพิ่ม
ยานส์เซ่น ส่องซ้ำหน้ากรอบบอลเฉียดเสา
ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นจากจังหวะที่ ยานส์เซ่น ได้เก็บตกหน้ากรอบส่องด้วยซ้ายสวนเข้าไปแต่บอลสุดท้ายยังเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
กัคโป สอดหลุดไปซัดติดเซฟ เฮนเนสซีย์
จังหวะนี้ ยานส์เซ่น แทงบอลหน้ากรอบให้ กัคโป สอดหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวาก่อนจะได้ซัดหน้าเสาแรกบอลสุดท้ายไปติดเซฟ เฮนเนสซีย์ เต็มๆ
สมิธ ลองส่องฟรีคิกบอลข้ามคาน
ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกหน้ากรอบตรงกลางประตูแล้วเป็น สมิธ วิ่งมาส่องด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกไปอีก
จอห์นสัน ลากมาซัดเองไม่ผ่าน ซิลเลสเซ่น
จังหวะนี้ จอห์นสัน ได้บอลทางขวาก่อนจะลากฝ่าเข้ามาถึงกลางประตูแล้วได้ซัดบอลตรงกรอบแต่ยังไม่ผ่าน ซิลเลสเซ่น ล้มตัวคว้าติดมือ
ลัง ลากมากดแฉลบเกือบหาย เฮนเนสซีย์ ยังปัดทัน
จากจังหวะที่ ลัง ลากบอลตัดจากซ้ายเข้ามาซัดด้วยขวาหน้ากรอบบอลสุดท้ายแฉลบกองหลังเกือบเปลี่ยนทางเข้าประตูแต่ เฮนเนสซีย์ ยังล้มตัวพุ่งไปปัดออกมาทัน
ยานส์เซ่น ปั่นเกือบหาย เฮนเนสซีย์ ยังพุ่งปัดทัน
จังหวะนี้เป็น ยานส์เซ่น ได้บอลหน้ากรอบตรงหัวกระโหลกก่อนจะวางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ บอลเกือบโค้งเข้าประตูแต่ เฮนเนสซีย์ ยังพุ่งไปปัดแล้วคว้าติดมือทัน
โธมัส วิ่งมาซัดในกรอบโล่งๆ ไม่ผ่านมือ ซิลเลสเซ่น
จากจังหวะที่ จอห์นสัน ซัดบอลกลางประตูไปติดบล็อคมาเข้าทาง โธมัส ที่สอดมาทางขวาได้วิ่งมาซ้ำโล่งๆ บอลก็ยังไปติดเซฟเข้ามือ ซิลเลสเซ่น
เบิร์กไวจ์น ลงมาได้ซัดบอลไม่เข้าเป้า
จังหวะนี้ กัคโป แทงบอลให้ เบิร์กไวจ์น ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองกระชากหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวาก่อนจะซัดหน้าเสาผ่านปากประตูออกไปไม่ได้ลุ้น
เดปาย ซัดหน้ากรอบบอลเหินข้ามคาน
เดปาย ที่ลงมาเป็นสำรองมีจังหวะได้บอลหน้ากรอบก่อนจะล็อคหาจังหวะเข้าขวาแล้วปั่นเต็มๆ บอลยังแรงเหินข้ามคานออกไปอีก
เบล ซัดโทษทดเจ็บ! เวลส์ไล่เจ๊าไปเลย 2-2
ท้ายเกมมีจังหวะที่ มาลาเซีย ไปโดดใช้แขนชน โรเบิร์ตส์ ในกรอบเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันทีไปเช็ค VAR ก็ยืนยันคำเดิม แล้วเป็น เบล ซัดเข้าไปไม่เหลือตีเสมอสุดดราม่า
เดปาย ซูเปอร์ซับ! ยิงแซงแปปเดียว 3-2
เกมเหมือนจะจบแต่เจ้าบ้านยังไม่ยอมมาได้ประตูชัยจาก เดปาย จากจังหวะที่โหมบุกเข้ามาแล้วกองหลังทีมเยือนสกัดมาตกหน้าเจ้าตัวกลางประตูได้ซัดด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ
เวลส์
Starting Formation: 4-4-2
6.
โจ โรดอน

67'
23.
เวส เบิร์นส์

46'
16.
แมตธิว สมิธ

63'
20.
ดาเนียล เจมส์

70'
ตัวสำรอง
2.
คริส กันเตอร์

67'
10.
อารอน แรมซีย์

63'
11.
แกเร็ธ เบล

70'
14.
คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์

46'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Wed Jun 15, 2022 03:51, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ