ทำไมอายุขั้นต่ำในการเลือกตั้งต้อง 18 ปี
หลายคนเข้าใจว่าเพราะเป็นอายุที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 19 บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์
ซึ่งหลายคนสับสนระหว่างการบรรลุนิติภาวะกับการมีวุฒิภาวะ การบรรลุนิติภาวะคือการที่กฏหมายรับรองบุคคลให้พ้นจากความรับผิดชอบของรัฐในฐานะผู้เยาว์ และมีความสามารถทางนิติที่จะสามารถประกอบกิจกรรมและธุรกรรมตามกฏหมายต่าง ๆ ได้
ในขณะที่สิทธิในการเลือกตั้งจะเกี่ยวข้องกับวุฒิภาวะมากกว่า ซึ่งรวมไปถึงความสามารถในการแยกแยะข้อมูล การพิจารณาข้อมูล และความสามารถในการตัดสินใจอย่างมีเหตุและผล
จริง ๆ วุฒิภาวะกับนิติภาวะก็ไม่ได้ไม่เกี่ยวข้องกันซะทีเดียวและมีความเชื่อมโยงกันอยู่ และส่วนใหญ่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้ก็มักกำหนดให้การบรรลุนิติภาวะย่อมมาพร้อมกับการมีวุฒิภาวะ ดังนั้นในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกอายุขั้นต่ำในการมีสิทธิเลือกตั้งและอายุที่บรรลุนิติภาวะจึงเป็นตัวเลขเดียวกันคือ 18 ปี
แล้วทำไมต้อง 18 ปี เชื่อว่าหลายคนคิดว่าเพราะเป็นช่วงอายุที่เยาวชนจะมีวุฒิภาวะมากพอและกลายเป็นผู้ใหญ่ แต่ความจริงแล้วเหตุผลเบื้องหลังคือสงครามโลกครั้งที่ 2
ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงหลังจบสงคราม (before 1945) เกือบทุกประเทศกำหนดอายุในการเลือกตั้งขั้นต่ำไว้ที่ 21 ปี แต่เมื่อเกิดสงครามโลกและสงครามเย็นที่เป็นผลพวงต่อมาขึ้น มีการเกณฑ์คนที่อายุมากกว่า 18 ปีไปร่วมรบ หลังจากนั้นถึงได้เกิดการตั้งคำถามและการรณรงค์เรียกร้องว่าทำไมคนที่ออกไปร่วมรบและสละชีวิตเพื่อชาติได้ ถึงไม่สามารถเลือกตั้งได้
(อ้างอิง:
https://www.nhpr.org/politics/2020-10-23/ask-civics-101-why-is-our-voting-age-18 )
ตั้งแต่ปี 1960-1970 อเมริกาและหลายประเทศในยุโรปทำการแก้กฏหมายอายุขั้นต่ำในการเลือกตั้งจาก 21/20 มาเป็น 18 ปี หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อง voting age ในหลายประเทศเรื่อยมา ญี่ปุ่นเพิ่งแก้จาก 20 เป็น 18 เมื่อปี 2016, มาเลเซียแก้จาก 21 เป็น 18 เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา