ติดต่อเจ้าหนี้โดยตรงเพื่อหาแนวทางแก้ไขเลยคับ

อาจจะลงเอยด้วยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ผ่อนหนักเป็นเบาลงหน่อย

ดีกว่าหาวิธีหัวหมอแบบข้างต้นครับ แน่นอนว่าในทางทฤษฏี สามารถทำได้โดยไม่ถูกยึด

แต่ค่าปรับ ค่าทวงถาม ตามมาหัวบานแน่นอน

ของชอบไฟแนนซ์เลยครับ ได้ดอกเบี้ย ผมเคยจ่ายแบบสเต็ปนี้แหละ ดอกอาน

น่าจะใช้ความรู้จากการเป็นไฟแนนซ์เก่ามาแนะนำเพื่อนสมาชิกนะครับ ไม่มีใครอยากมีหนี้เสียหรอก

ทำแบบนี้ไปเลื่อยๆเวลาโอนเล่มดอกบานแน่ๆ

ผมเคยเป็นกรณีนี้กับบ้านนะครับ
อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ลองประเมินดู

ผมค้างจ่าย 1 เดือน, เข้าเดือนที่ 2 กำลังจะพ้น 2 ไปหา 3
ผมรู้ล่ะว่าไม่ไหวแน่ เลยติดต่อไปธนาคาร แจ้งเรื่องไปคร่าว ๆ ว่าโทรมาทำไม

เจ้าหน้าที่ได้ทวนชื่อ บอกผมเลยว่า กำลังจะดำเนินการโทรหาพอดีเลย
ก็ปรับโครงสร้างกันไป หลัก ๆ เค้ากันยอดดอกเบี้ยไว้เป็นหนี้ใหม่ 1 ก้อน
แล้วปรับยอดค่างวดรายเดือนผมจาก หมื่นสอง (ประมาณ) เหลือ แปดพันนิด ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รู้สภาพและบอกว่า มันลงไปกว่านี้ไม่ได้แล้วจริง ๆ ไม่งั้นมันจะไม่พอดอก แล้วดอกจะวิ่งทบไปทบมาจนยอดปลายทางบานอยู่ดี

ผมก็ ok ดีกว่าไม่ได้ลดเลย
เค้าให้ผม 2 หรือ 3 ปีจำไม่ได้แล้ว

จากนั้นจะกลับมาใช้เรทเท่าเดิม เพิ่มเติมคือยอดคงค้างที่พักไว้ ทยอยจ่าย 10 งวด (น่าจะงวดละพันกว่าบาท, ถ้าจำไม่ผิด)

ทุกวันนี้สภาพเป็นปกติแล้ว แต่ที่ไม่ปกติคือ ผมทำรายการจ่ายผ่าน mobile banking ของธนาคารไม่ได้เลย
เพราะเหมือนกับว่า บัญชีภายในเค้าทำเลขบัญชีบางอย่างหรือ status ใหม่ ทำให้ผมต้องจ่ายที่สาขาอย่างเดียว

ผ่อนไม่ไหวก็ขายไปครับ ขาดทุนนิดหน่อยดีกว่าโดนฟ้องเสียเครดิต

ไม่ไหวอย่าไปฝืน

ไม่ไหวอย่าฝืน ถ้าจำเป็นต้องใช้ ขายปลดหนี้เก่า หาถูกๆมาใช้ไปก่อน เศรษฐกิจแบบนี้เกรงว่าทางไฟแนน ก็ไม่อยากผ่อนปรนให้เท่าไหร่ อย่าคิดจะเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเลยดีกว่า

มันทำได้แต่หัวหมอใช่ไหมครับ

ครึ่งทางแล้วครับ

ค่าทวงถามนี่ไม่รู้เค้าคิดยังไงนะครับ คือเพื่อนผมตอนแรกจ่ายช้าแต่กี่เดือนอันนี้ไม่ทราบแล้วมีเบอร์แปลกโทรมาคือเบอร์พวกไฟแนนซ์สุดท้ายก็มีคิดค่าทวงถาม พอจบงวดนี้ปุ้ปเดือนต่อๆไป ก็ยังมีค้างอีกก็มีเบอร์แปลกโทรมาอีกเลยตัดสินใจไม่รับกลายเป็นว่าไม่มีค่าทวงถาม

เมื่อหลายปีก่อน แบงค์ส้มคิดเป็นครั้ง ครั้งละ 400 มั้งถ้าจำไม่ผิดนะครับ แล้วคิดดู เดือนนึง โทรกี่ครั้ง

เข้ากลุ่มเฟส รถผ่อนต่อไม่ไหว ไปหาขายในนั้น วันหน้า

พร้อมๆก็ค่อยไปดาวใหม่ อย่าไปคิดมาก เอาสภาพคล่องไว้ก่อนครับ

จ่ายยังไงก็ได้ให้ค้างไว้ที่ 2 งวดครับ

รถจะไม่โดนยึด แต่ถ้าไม่ไหวควรติดต่อแบง ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แบงจะเอา ยอดที่ค้างอยู่ทั้งหมด มาคำนวนค่างวดให้ใหม่ เช่น ค้างอยู่ 800000 ก็เอามาคำนวนใหม่ที่ 60 งวด 72 งวด 84 งวด อะไรก็ว่าไปแล้วแต่ตกลง โดยที่ไม่คิดค่าปรับล่า และค่าทวงถาม ดีกว่าไปขอรีไฟแนน ถ้ารีไฟแนน เวลาไปจ่ายค่างวด ต้องเสีย vat7% แยกออกไปอีก

ไม่น่าใช่ ผมเคยค้างสองงวดพอเข้างวดสามก็จ่ายงวดนึงเพื่อไม่ให้ครบสาม แต่ส่งงวดนึงค้างสองงวดค่อยจ่ายอีกงวดเพื่อค้างต่ออีกสองไม่น่าได้เพราะจ่ายงวดนึงงวดต่อไปก็มาทบเรื่อยๆก็ต้องจ่ายทุกงวดอยู่ดี
ช่วงโควิดไฟแนนซ์เขามีพักชำระหนี้หรือลดค่างวดไม่ลองโทรไปถามดูก่อนอะครับ

อย่าปล่อยให้ครบสามแล้วไฟแนนซ์ส่งเรื่องให้บริษัททวงนอกนะครับค่าทวงแพงชิหาย ถ้าไม่ไหวจริงก็อย่าค้างงวดแล้วคืนรถไป ไม่งั้นก็หาคนมาเปลี่ยนสัญญาผ่อนต่อหรือขายรถให้เต๊นท์ปิดไฟแนนซ์ให้(ถ้าราคาได้มากกว่ายอดไฟแนนซ์นะ)​

ตอบตามที่ผมเจอไฟแนนซ์ทวงมานะครับ
การนับการผิดนัดชำระจะนับจากวันที่เราค้างงวดแรก
ตัวอย่าง ผ่อนเดือนละ 10,000 บาท สมมติต้องชำระวันที่ 1 ม.ค.
งวด 1 ม.ค. ไม่จ่ายนับเป็นผิดนัดชำระ 1 งวด 10,000 บาท
ต่อมา 1 ก.พ. เราไม่จ่ายอีก นับเป็นผิดนัดชำระ 2 งวด 20,000 บาท
กำลังจะถึง 1 มี.ค. จะถึงผิดนัดชำระ 3 งวด
สมมติ 25 ก.พ. เรากลัวโดนยึด รีบไปจ่ายก่อน 1 งวด 10,000 บาท
สถานะเราไม่ได้เป็นค้างชำระ 1 งวด 10,000 บาทนะครับ
แต่สถานะของเราจะกลายเป็น ค้างชำระ 2 งวด 10,000 บาท
พอถึงวันที่ 1 มี.ค. ท่านจะกลายเป็นค้างชำระ 3 งวด 20,000 บาท
ทางไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยึดได้ เพราะท่านค้างชำระ 3 งวด

ดังนั้น หากท่านต้องการไม่ให้ค้างชำระ ท่านต้องเคลียร์เป็น 0 ก่อนถึงวันผิดนัดชำระงวดที่ 3
ดังตัวอย่างก่อนหน้านี้ ท่านค้างมา 2 งวดแล้ว 20,000 บาท
จากงวด 1 ม.ค. และ 1 ก.พ. เท่ากับก่อนวันที่ 1 มี.ค. ท่านต้องหาเเงิน 20,000 ไปเคลียร์
แบบนั้นจะกลายเป็น 0 ท่านก็จะค้างงวดวันที่ 1 มี.ค. กับ 1 เม.ย. ได้อีก
แล้วไปจ่ายอีกทีตอนก่อน 1 พ.ค. 20,000 บาท

เท่าที่ผมเคยคุุยมาคือประมาณนี้ครับ ทั้งบ้านและรถ