ความรักคือการเข้าใจซึ่งกันและกันครับ ที่ท่านไม่ชอบมันไม่ผิด แสดงว่าไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน แนะนำให้หาผู้หญิงที่ไลฟ์สไตล์ตรงกับเราจะไม่ได้เหนื่อย สถานการณ์ท่านปัจจุบันคือฝืนอยู่ ถ้าไม่ปรับ Mindset ตัวเอง ไม่รอดแน่ๆ

เลิกเลยครับ

ผมว่าความรักมันต้องมีความคาดหวังเข้ามาครับ หรือแม้แต่ทุกความสัมพันธ์ สิ่งที่ต้องเริ่มจากตัวเราก็คือ ลดความคาดหวัง เหตุผลก็เพราะสิ่งที่ใจคิดมันเกิดจากตัวเรา ว่าเราอยากให้เค้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
มันจะตรงข้ามกับความหวัง คือหวังที่อยากเห็นคนรักของเรามีความสุข คือปรารถนาให้อีกฝ่ายได้ดี เป็นสุข หรือการที่เค้าเป็นตัวของตัวเอง

แต่ก็ไม่ได้ถึงขึ้นที่ยอมให้อีกฝ่ายมาทำร้ายเรานะครับ เช่น การเบียดเบียนกัน มันก็ไม่ใช่
เพราะรักที่ดีจะต้องมีความรักตัวเองอยู่เช่นกัน การยอมในที่นี้จึงหมายถึงการเสียสละความสุขบางอย่างของเรา แต่ไม่ใช่ให้อีกฝ่ายมาริดรอนความสุขของเราไป ซึ่งมันอาจจะฟังดูยาก แต่ก็พอได้ดูแล้วแท้จริงนั้น ตัวคุณเองเป็นคนกำหนดหรือเขาเป็นคนกำหนด

และก็เชื่อนะครับ ว่าหากเราได้เจอคนที่ใช่ และเขาก็รักเราจริง ๆ เขาจะไม่ยอมให้ตัวเราต้องเสียสละความสุขอะไรของเรามากมาย เพราะเขาก็ปรารถนาให้ตัวเรามีความสุขเหมือนกัน เหมือนที่เราก็อยากให้เขามีความสุข

ดังนั้นแล้ว เขาก็จะพยายามในส่วนของเขาที่จะไม่ให้เราต้องเสียสละ และพยายามอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้รักหมดหัวใจ

ค่อยปรับค่อยจูน เปิดใจให้กว้าง เปิดมุมมอง เห็นความสุขของคนที่เรารักดูนะครับ
ลองฟังมากขึ้น รับสิ่งที่แตกต่าง โดยปราศจากการตัดสิน จะช่วยให้ความรักความใกล้ชิดดีขึ้นได้ครับ

ผมเบื่อช็อปปิ้ง กับ ถ่ายรูป ชอปปิ้งนี่เดินวนอยู่นั่นดูโน่นนี่นั่นอยู่นั่น ผมคือคิดไว้แล้วว่าจะซื้อไรเดินไปซื้อจบกลับ

ถ่ายรุปตอนไปเที่ยวไปกินข้าว ถ่ายมุมโน่นนี่นั่นร้อนจะตาย5อยู่แล้วออกไปถ่ายรุปกลางแดด อยู่ห้องแอร์ดีๆไม่ชอบ

ผมเบื่ออย่างเดียวถ่ายรูป ถ้าไปนี่ผมไปได้หมดแต่ผมชอบอยู่กับบรรยากาศตอนนั้นมากกว่าถ่ายรูปคิดว่ามันเสียเวลา แต่ผมก็ทำให้นะบางทีเราไม่ต้องชอบทุกอย่างหรอกแต่ก็แฟร์กันบ้างผมก็มีกิจกรรมที่แฟนไม่ชอบเช่นนั่งกินเหล้าแล้วชอบลากแฟนไปด้วย

แต่ไอรูปเนี๊ยะมันมีคุณค่าเมื่อเวลาผ่านไปนะแฟนผมทำคลิปที่ผมกับแฟนไปกินข้าวบลาๆแล้วผมก็ชอบหงุดหงิดว่าถ่ายอยู่ได้ พอเอามาดูมันกลับมีความหมายมากๆเลย

ถ้าเขาไม่ชอบก็แปลว่าไลฟ์สไตล์เขาทั้งคู่ไม่ตรงกัน ไม่ใช่มาให้เปลี่ยนตัวเองให้ชอบกับทุกการกระทำของอีกฝ่าย

คนเราไม่เป็นแบบที่ตัวเองเป็น ใส่หน้ากากไปก้ได้ไม่นานหรอก

แรกๆมันก็พอไหวแหละ แต่ถ้านานๆไปก็จะรู้สึกฝืน อึดอัด สุดท้ายก็เลิก

ดูจากที่เขาอธิบาย เป้าหมายตอนนี้คือพยายามสร้างเนื้อสร้างตัว กิจกรรมพวกนั้นมันผลาญเงินชัดๆ

จะให้เขารู้สึกดีกับกิจกรรมที่ตรงข้ามกับความรู้สึกเขาได้ไง

ไลฟ์สไตล์มันต่างกัน แต่ก็ยังดีมีเวลาให้

ตามนี้ คนละครึ่งทาง

หากิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ก็ยิ่งดี

วันนี้ตาเธอ วันนี้ตาฉัน

แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ว่าจะยอมรับกันได้มากแค่ไหน

ผมไม่ค่อยมีปัญหา เพราะผมไม่คบผู้หญิงประเภทนี้ตั้งเเต่ต้นอยู่เเล้ว 555

ไม่รู้สิ ผมเป็นคนชอบผู้หญิงประเภทนี้อยู่แล้ว เพราะผมก็ชอบไปนู้นไปนี้ ถือซะว่าได้พักผ่อนไปในตัว เข้าใจนะว่ากำลังสร้างเนื้อสร้างตัวแต่ก็ออกไปหากิจกรรมผ่อนคลายอย่างอื่นทำบ้าง ถ้าท่านไม่ชอบผู้หญิงสไตล์นี้ก็เลิกไปครับ แค่นั้นแหละ หาคนที่เข้ากับสไตล์คุณให้ได้หรือจะมาบอกว่าคนที่จะเข้ากับเราได้หายากก็โสดต่อไปครับ เรื่องแบบนี้มันต้องปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่จะให้คนใดคนหนึ่งปรับแค่คนเดียว

ผมก็ไม่อินแต่ ก็พาครอบครัวเที่ยวตลอดจนไม่มีเวลาไปไหนส่วนตัวเลย

ผมเลิกเลย ญ แบบนี้ นิสัยกลัวตกเทรนด์ หมกมุ่นกับโซเชี่ยล
ทิ้งครับทิ้ง

หาจุดร่วม และดูเงื่อนไข
เช่น ใครอยากไปทำกิจกรรมอะไรก็ไป ผช เตะบอล ผญ ไปเที่ยวทะเล ไปคาเฟ่กับเพื่อน
แต่ในส่วนกิจกรรมที่ทำร่วมกันก็ต้องแบ่งเช่น
ผชนั่งดูบอล ผญนั่งดูเป็นเพื่อนอาจจะนั่งเล่นโทรศัพท์ก็ได้มีหยอกล้อกันบ้างบลาๆ
ผญอยากไปทะเลกับแฟนอารมณ์โมเม้นต์ ฝั่งผชก็ตามใจเถอะ
คือคิดง่ายๆ ถ้าคบแล้วต้องแชร์ความรู้สึก อย่าเห็นแก่ตัว
หากลำบากใจที่จะทำกิจกรรมจริงๆ
เลิกแล้วหาคนที่มีสไตล์คล้ายกัน
จบ.

คาเฟ่ตอนแรกผมก็ไม่อิน พอแฟนพาน้องสาวอายุ17ไปด้วย เลยเริ่มอินแล้วงับ

แล้วแต่คนแหละ



แฟนผม ก็ไม่ได้ชอบถ่ายรูป เที่ยวก็เน้นไม่แพง เอาคุ้มค่า งบไม่เกิน2พัน เป็นต้น


แต่แมวนี้ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ไป2-3ที่ สุดท้ายได้แมวมาเลี้ยงเอง ผมก็กลายเป็นทาสมันไปละ 55 ทาสแมวววว