ขออนุญาตตอบตรงๆนะครับ คือ "กลิ่นไม่ดี"
----------
ท่านลองแกล้งมีงานประชุมสำคัญต่างจังหวัดสัก 3 วันครับ แต่ต้องวางแผนให้เนียนเลยนะ
แล้วแจ้งกำหนดการไปให้แฟนท่านทราบล่วงหน้าสัก 1 สัปดาห์ครับ

โดยเตรียมการกับที่ทำงาน และเพื่อนสนิทไว้ให้หมด จากนั้น ขอยืมชุดเพื่อนแล้วแอบสืบ เลยครับ
ตามเก็บรายละเอียดให้หมด กินข้าวที่ใหน เข้าบ้านเวลาใหน ถึงที่ทำงานเวลาใหน

ต้องหาเพื่อนช่วย(แต่ต้องคุยกับเพื่อนเรื่องผลลัพท์ดีๆนะเผื่อท่านจับได้แล้ว ท่านดันให้อภัยเพื่อนนี่หอนได้เลยนะ)

ผมเคยแบบนี้เลย มันระแวงผมทุกอย่าง
หาว่าผมหวงโทรศัพท์ สุดท้ายมันเองที่แอบคุย โคตรเลว
ผมเลยรีบจัดหนักงัดอย่างเดียว ก่อนบอกเลิก

สำหรับผมก็คงแปลก

คบกันมายี่สิบกว่าปี แต่งมาแล้วสิบปี

โทรศัพท์นี่ต้องเรียกว่าไม่มีความลับเลย แลกกันใช้ได้ตลอด ยิ่งเคสท่านคือปกติเค้าเช็คท่าน แล้วอยู่ดีๆ ไม่ให้เช็คคืน มาหวงของตัวเอง มันทำให้ดูแปลก

คือถ้าแบบไม่เคยเช็คกันอยู่แล้ว ให้พื้นที่ส่วนตัวกันอยู่แล้ว มันก็คงปกติอ่ะ แต่อยู่ดีๆ มีอะไรเปลี่ยนไปจากปกติ มันก็คือแปลก

ถ้าไม่ลำบากเรื่องเงินลองจ้างนักสืบดูไหมครับ อาจต้องหาแบบที่น่าเชื่อถือหน่อย แต่ผมก็ไม่เคยใช้บริการนะ

ส่วนตัวนะ โอกาสสูงที่จะคุยกับคนอื่นครับหรือมีกิ๊กครับ

เป็นผมถ้าเจอแบบนั้นผมหยิบมือถือมาดูเลยนะ ไม่ชอบคาใจอะ

ปล. แฟนผมไม่มีแบบนั้นอะ จะดูก็เปิดดูได้เลย และผมแทบไม่เคยเช็ค

ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ตลอดตั้งแต่จีบ จนแต่งงานกัน
ผมไม่เคยนอกใจทั้ต่อหน้า ลับหลัง แม่แค่ครั้งเดียว
มีแต่เขาที่มี ผช เข้าหา มาจีบ คมาคุย ตั้แต่ตอนจีบ จนแต่งงาน ก็ยังมี ผช เข้ามาอยู่เสมอ
ผมเคยท้อใจนะ แต่ด้วยความเชื่อใจไว้ใจ เขาก็ทำดีมาตลอด จนมารอบนี้ เขาเปลี่ยนไป

1.เขาเช็คโทรศัพท์คุณ
-อันนี้ไม่แปลก อาจจะเคยโดนแฟนเก่านอกใจ เลยระแวง

2.เขาหวงโทรศัพท์จนทะเลาะกับคุณหนัก
-อันนี้น่าเป็นห่วง จากประสบการณ์ส่วนตัวผมแบบนี้มีคนอื่นแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าคุยเล่นๆ หรือกะชิ่งแล้วเท่านั้น

อ่านกระทู้นี้แล้วอย่าเพิ่งใจร้อนไปหาเรื่องละกันครับ เด๋วเสียเหลี่ยม
แต่งงานกันมาห้าปีแล้ว ถ้ายังไม่มีลูกผมว่าจะมีจุดที่เบื่อชีวิตคู่กันไปเองอยู่ช่วงนึง

เพื่อพิสูจน์ความจริง
ผมแนะนำให้เก็บข้อมูลที่เป็นข้อมูลเชิงประจักต์ เช่น แชท ประวัติการโทร หรือรูปภาพไว้
ถ้าตอนนี้เค้าเปลี่ยนรหัสทั้งหมดก็ต้องหาวิธีอื่นในการเข้าถึง เช่น คอม โน๊ตบุ๊ค น่าจะยังเหลือคุ้กกี้ที่ล๊อคอินค้างไว้
แต่ท่านต้องทำทุกอย่างอย่างใจเย็นและเชื่อว่าภรรยายังไม่มีใครจนกว่าจะมีหลักฐานครับ

น่าสงสารจังครับ จขม
แต่งงานมา 5 ปี ไม่รุ้อายุแค่ไหนแล้ว มาเจอเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ ซวยชิบหายเลย

ผมคบกับแฟนอยู่ด้วยกันมา 8 ปี หมั้นอย่างเดียว
มันก็ขอโทรศัพท์ผมดูนานๆทีนะ ซึ่งผมบริสุทธิ์ใจสุดๆเลย
มันมาเช็คบ่อยช่วงนี้ตั้งแต่ผมย้ายงานก็มีพี่คนนึงที่ทำงานชอบแชทมาคุย ส่งรูปนู่นนี่นั่น มา
มันก็ขอเช็คตลอด กลัวผมมีลับลมคมใน

ผมก็บอกอย่างบริสุทธิ์ใจคำเดียวคำเดิม ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วผมพูดแบบไหนผมก็ยังพูดเหมือนเดิม
"เวลาวันๆแทบจะไม่มีอยู่แล้ว ยังจะให้มีชู้อีกหรอ ชีวิตนี้มี 2 ทางเลือก คบกับมึงอยู่หรืออยู่คนเดียวแค่นั้น ไม่อยากวุ่นวายต้องมามัวๆหลบๆซ่อนชู้หรอก เงินก็ไม่มีไปเลี้ยงชู้หรอกไม่อยากมี ไม่อยากทำ"

ของท่าน คบกันแต่งงานกันแล้ว เรื่องแบบนี้คาใจครับ
ถามคุยให้รู้เรื่อง เคลียร์ใจ ให้ 100% นัดเวลาคุยเลย มันเกิดอะไรขึ้น จะแก้ปัญหายังไงต่อ

มาอัพเดตด้วยนะครับ

มีอะไรในกอไผ่แน่นอนครับทรงนี้ อยู่ที่ท่านแล้วละครับว่าจะจัดการยังไงดี

ผมก็ไม่อยากพูดมากอ่ะ เดี๋ยวของเข้าตัว
แต่ว่าผมว่ามันต้องสืบอ่ะ แบบนี้เอาจริงๆ

ขนาดผมคบกับแฟนมา3ปียังไม่มีความลับอะไรต่อกันเลยนะครับท่าน ไม่ได้บอกให้ระแวงนะ แต่สำหรับผมผมไม่โอเค

อ่านมาถึงตรงนี้ยิ่งชัดเลยครับ มีผู้ชายเข้าหาตลอด ขนาดแต่งยังมี แล้วมาเจอเคสหวงโทรศัพท์ขั้นหนัก แถมยังเปลีย่นไปอีก สุ่มเสี่ยงมากๆ มันไม่ปกติ

เปิดใจเลยท่าน
มาทรงนี้ยังไม่มีลูกด้วยกันแน่นอน
บอกเค้าเลยว่าถ้าเบื่อ ถ้าอยากเลิก ก็บอกตรงๆ
ไม่โกธร ไม่โมโห ไม่ทะเลาะกัน
จะไปรีบไป อย่าเสียเวลากันเลย อย่ามาเปลืองเวลาชีวิตกันเลย
เค้าอยากไปหาใครก็ตามใจ ไม่รั้งไว้

คือแบบถ้ามันไม่ดีขึ้นมา ก็สู้ๆนะครับ

เป็นผมช่วงแรกก็ เปลี่ยนพาสทุกอย่างของเราก่อน สังเกตุห่างๆ

ถ้ามั่นใจมือที่3มีหลักฐานเก็บใว้รอบวก