คอร์เรอาปิดกล่อง! "ตราหมี" ส่งท้ายเฉือนโซเซียดาด 2-1 จบที่ 3
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แอตเลติโก้ มาดริด ที่การันตีตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ไปแล้ว วันนี้ปิดท้ายด้วยการบุกมาเฉือนชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 จากประตูของ โรดริโก้ เด ปอล และ อังเคล คอร์เรอา ทำให้พวกเขาจบด้วยอันดับ 3 ในซีซั่นนี้
เรอัล โซเซียดาด
Starting Formation: 4-3-1-2
18.
อันโดนี่ โกโรซาเบล

72'
6
4.
อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้

81'
6
17.
ราฟินญ่า

63'
6
23.
อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ

72'
6
19.
อเล็กซานเดอร์ อิซาค

63'
6.5
ตัวสำรอง
2.
โฆเซบา ซัลดูอา

72'
6
7.
ปอร์ตู

63'
6
11.
อัดนาน ยานาไซจ์

63'
6
14.
จอน กูริดี้

81'
6.5
37.
นาอิส ดัวอาห์ร่า

72'
6
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
สนาม เรอาเล่ อารีน่า
อาทิตย์ ที่ 22 พฤษภาคม 2565
กรรมการ ฆวน มาร์ติเนซ
เรอัล โซเซียดาด
1
2
แอตเลติโก้ มาดริด
0-1 โรดริโก้ เด ปอล 50'
0-2 อังเคล คอร์เรอา 69'
เรอัล โซเซียดาด เจ้าบ้านจบอันดับ 6 และคว้าตั๋วยูโรป้า ลีกเป็นที่แน่นอนแล้ว สภาพทีมวันนี้จะไม่มีตัวเจ็บอย่าง มิเกล โอยาร์ซาบัล, ดาบิด ซิลบา, อันเดร์ บาร์เรเนตเซีย, การ์ลอส เฟร์นานเดซ, นาโช มอนเรอัล ที่เหลือไม่มีปัญหา
แอตเลติโก้ มาดริด ทีมอันดับ 3 ของตาราง พวกเขาการันตีตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วเช่นกัน วันนี้จะไม่มี เจา เฟลิกซ์, โธมัส เลอมาร์, ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ แต่จะได้ เรนาน โลดี้ พ้นโทษแบนกลับมามีชื่อเป็นสำรอง
เกมผ่านมา 10 นาทียังไม่มีจังหวะได้ลุ้น
เกมเริ่มมาได้ 10 นาที ทั้งสองฝั่งยังพลัดกันครองบอลบุกเข้าพื้้นที่อันตรายได้บ้างแต่ก็ยังไม่มีจังหวะเข้าทำพอได้ลุ้นเป็นประตูสักหน
เลอ นอร์มองด์ ชาร์จหน้าปากประตูไม่โดนบอล
เกมผ่านมากว่า 15 นาทีกว่าจะมีจังหวะเข้าทำได้ลุ้นหนแรกจากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวาของเจ้าบ้าน อิยาร์ราเมนดี้ เปิดมาในกรอบถึง เมริโน่ หน้าเสาซ้ายโขกตั้งเข้ากลางให้ เลอ นอร์มองด์ วิ่งมาล้มตัวชาร์จไม่โดนบอล
อิซาค กระชากเข้าในกรอบสุดท้ายลื่นเอง
เกมก็ยังไม่มีจังหวะอะไรเพิ่มคราวนี้เป็น อิซาค กระชากจากหน้ากรอบล็อคเข้าไปอย่างสวยแต่จังหวะสุดท้ายดันลื่นไปล้มมือไปโดนบอลฟาวล์ไปเอง
ราฟินญ่า ได้ซ้ำโล่งๆ ดันแป๊ก
จังหวะน่าได้ประตูขึ้นนำของเจ้าบ้าน ซอร์ล็อธ กระชากหลุดมาในกรอบฝั่งขวาแล้วเปิดเข้ากลาง โอบลัค ปัดไม่ดีมาเข้าทาง ราฟินญ่า ได้วิ่งมาซ้ำโล่งๆ แต่ก็ดันเสียจังหวะแป๊กไปสะกิดบอลชนเสาย้อนมาเข้ามือ โอบลัค ไปอีก
ราฟินญ่า ซัดโล่งๆ ก็ยังหลุดกรอบอีก!
โอกาสน่าได้ประตูอีกครั้งของเจ้าบ้าน ซอร์ล็อธ ตัวหัวกระโหลกแตะบอลให้ ราฟินญ่า หลุดเข้าไปกลางประตูโล่งๆ แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังแปบอลหลุดเสาซ้ายออกไปอีก
ราฟินญ่า ลากมาซัดเองยังไม่เข้าเป้า
โอกาสติดต่อกันของ ราฟินญ่า จังหวะนี้พลิกบอลจากทางขวาลากมาถึงหน้ากรอบก่อนจะซัดด้วยขวาบอลสุดท้ายก็ยังหลุดเสาขวาออกไป
คุนญ่า ซัดเกือบหายบอลชนคานเต็มๆ!
โอกาสแรกของทีมเยือนในเกมและน่าได้ประตูขึ้นนำ เฟลิเป้ แตะบอลให้ คุนญ่า ลากเข้ามาซัดหน้ากรอบเต็มๆ บอลแฉลบข้ามตัว เรมิโร่ แล้วไปชนคานเต็มๆ เด้งออกมา
เด ปอล กดหาย! ตราหมีนำจนได้ 1-0
ครึ่งหลังทีมเยือนแก้เกมบุกต่อเนื่องและมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ กรีซมันน์ แตะบอลย้อนให้ เด ปอล หน้ากรอบฝั่งขวาวิ่งมาซัดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยมซ้ายเข้าไปไม่เหลือ
กรีซมันน์ หลุดมาซัดโล่งๆ ติดเซฟ เรมิโร่
ทีมเยือนน่าได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่ การ์ราสโก้ พาบอลลากจากซ้ายเข้ามาในกรอบก่อนจะแตะให้ กรีซมันน์ วิ่งหลุดเข้ามาในกรอบฝั่งขวาแล้วซัดโล่งๆ ไปติดเซฟ เรมิโร่
คอร์เรอา ลงมาซัดเลย! ตราหมีนำห่าง 2-0
ทีมเยือนมาได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ การ์ราสโก้ โยนบอลจากขวาเข้ามาตรงกลางแล้วเป็น โกเก้ จิ้มต่อให้ คอร์เรอา ได้ซัดด้วยขวาเสียบเสาขวาเข้าไปไม่เหลือ
ดัวอาห์ร่า ลงมาลองซัดบอลข้ามคาน
จังหวะนี้ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาอย่าง ดัวอาห์ร่า มีจังหวะได้บอลหน้ากรอบแล้วลองซัดด้วยขวาบอลยังเหินข้ามคานออกไปไกล
เฟลิเป้ ได้โขกเข้ามือ เรมิโร่
จากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวาของทีมเยือน การ์ราสโก้ เปิดเข้ามาให้ เฟลิเป้ ได้ขึ้นโขกหน้าเสาซ้ายแต่บอลยังไปตรงตัว เรมิโร่ รับติดมือ
กูริดี้ โขกซ้ำจ่อๆ! เจ้าบ้านตีไข่แตก 2-1
จากจังหวะฟรีคิกหน้ากรอบของเจ้าบ้าน ยานาไซจ์ ปั่นไปติดเซฟ โอบลัค ปัดมาเข้าทาง กูริดี้ โขกซ้ำจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือเจ้าบ้านตีไข่แตกจนได้
หมี ส่งท้ายบุกสอย โซเซียดาด 2-1
จบเกม แอตเลติโก้ มาดริด ที่การันตีตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ไปแล้ว วันนี้ปิดท้ายด้วยการบุกมาชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 จากประตูของ โรดริโก้ เด ปอล และ อังเคล คอร์เรอา ทำให้พวกเขาจบด้วยอันดับ 3 ในซีซั่นนี้
แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 3-5-2
5.
โรดริโก้ เด ปอล

86'
8
4.
เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย
7.5
8.
อ็องตวน กรีซมันน์

86'
6.5
19.
มาเตอุส คุนญ่า

63'
6
ตัวสำรอง
9.
หลุยส์ ซัวเรซ

86'
-
10.
อังเคล คอร์เรอา

63'
7
11.
โธมัส เลอมาร์

86'
-
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Mon May 23, 2022 05:02, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ