[MUFC] สรุปทุกเหตการณ์ของแมนยูฯ ในฤดูกาลนี้
Credit: Laurie Whitwell, @UnitedZone, @mufcmpb
- จบฤดูกาลของแมนยูฯ ไปด้วยผลได้เสียประตู = 0
- เป็นฤดูกาลที่คะแนนต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
- Edison Cavani ได้เล่นเกมส์สุดท้ายในสีเสื้อ Manchester United แล้ว
- De Gea ยืนยันที่จะอยู่ต่อกับทีมต่อไปในอนาคตแน่นอน 100%
-----------------------------------------------------------------------------
ต่อจากนี้จะเป็นบทความของ Laurie Whitwell นักข่าว Tier 1 จาก The Athletic UK
ยาวมากๆๆ หน่อยนะครับ แต่ค่อนข้างน่าสนใจและมีประโยชน์มากๆ สำหรับแฟนผีฯ
- ผู้ที่เป็น Data Analyse ให้เราในตลอดระยะเวลาครึ่งฤดูกาลหลังคือ Lars Kornetka
- Lars Kornetka คือผู้ช่วยของ Rangnick ตอนที่อยู่ที่ Lokomotiv Moscow ซึ่งตัวเค้านั้นจะคอย Analyse และวิเคราะห์ระบบการเล่นผ่าน Ewan Sharp, ผู้ซึ่งติดต่อกับ Chris Armas ผ่าน Airpods (จะสังเกตได้ว่าตัว Armas ใส่หูฟังตลอด) ซึ่งการช่วยนี้ ไม่ได้รับเงินแม้แต่นิดเดียว
- ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความกังขาขึ้นมาในใจของ Staff หลายๆ คน รวมถึง Paul Brand ผู้ซึ่งเป็น Head Performance Analyse ของทีม เนื่องจากตัว Rangnick เลือกที่จะรอฟังคำตอบจาก Lars Kornetka มากกว่า
- และการช่วยของ Lars Kornetka นี้ อาจจะส่งผลเสียมากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะกว่าจะได้ Report ก็นานมาก ยกตัวอย่างเช่น; ก่อนที่จะเจอเกมส์ Brentford ในกลางสัปดาห์ ทีมงานพึ่งจะได้รับข้อมูลวิเคราะห์ของ Brentford ก็เกือบเที่ยงคืนวันศุกร์ก่อนที่แมนยูฯ จะเปิดบ้านพบกับ West Ham ในวันถัดไป
- Christ Armas ได้พบและพูดคุยกับ SAF ในวันที่เจอกับ Young Boy ซึ่งตัวเค้าได้พยายาม Present ตัวเองอย่างมากว่าทำอะไรมา ผ่านที่ไหนมา แต่ SAF ยิ้มและตอบกลับไปว่า "จะทำงานที่นี้ คุณต้องมีของมากกว่านี้นะ"
- Ralf Rangnick ได้มีการถามไปยังบอร์ดบริหารว่า ทำไมไม่มีการบริหารความเสี่ยงในกรณีที่นักเตะบางคนอาจจะออกจากฤดูกาลหน้า อย่างในกรณีของ Nemanja Matic ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะย้ายออกในฤดูกาลหน้า, ทำไมบอร์ดถึงไม่ทุ่มงบประมาณในการซื้อ CDM มาก่อนหน้านี้?
- แต่กลับกัน บอร์ดกลับใช้เงินจำนวนถึง 90 ล้านปอนด์ในการซื้อนักเตะอย่าง Amad, Pellestri, และ VDB เข้ามา ซึ่งเป็นนักเตะที่แทบจะไม่ได้เป็นตัวจริงเลยแม้แต่น้อย แทนที่จะเป็นนักเตะตำแหน่ง CDM ที่สามารถการันตีตัวจริงได้แน่ๆ
- Staff หลายๆ คนในแมนยูฯ ได้รู้สึกว่า Rangnick ให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการ (ในบทความเขียนว่า Wider Lanscape ซึ่งอาจจะหมายถึงมุมมองกว้างสำหรับแมนยูฯ ซึ่งอาจจะหมายถึงว่าตัว Ralf เองพยายามจัดการภาพรวมในเชิงการบริหาร) มากกว่าผลงานในสนาม
- ซึ่ง Staff หลายๆ คนพยายามที่จะโน้มน้าวให้เค้าจดจ่อกับการฝึกฝน แต่เมื่อได้รับเข้าทำงานในตำแหน่งทั้งฝ่ายบริหารและผู้จัดการ ตัว Rangnick อาจจะรู้สึกว่างานต่างๆ ไม่สามารถแยกจากกันได้อย่างสิ้นเชิง
- การ Training ของ Ralf Rangnick จะโฟกัสไปที่การนำบอลกลับมาเป็นของทีมให้เร็วที่สุด และใช้โอกาสแรกหลังจากได้บอลกลับมาเปลี่ยนเป็นบุกให้รวดเร็ว
- ซึ่งจุดเด่นของการเล่นแแบบนี้ จะเด่นในการเล่นพื้นที่แคบ แต่ตัวผู้เล่นในทีมส่วนใหญ่ต้องการเล่นแบบ "Verticality" มากกว่า (คิดว่าน่าจะเป็นแบบโยนยาว สวนกลับแบบ Vertical)
- ในส่วนของแนวความคิดนักเตะ ได้มีนักเตะระดับ Senior แบ่งเป็น 2 คนมีแนวความคิดคนละอย่าง: ฝั่งแรกคือต้องการฝึกฝนมากขึ้นในเรื่องรูปแบบ Formation, การเข้าทำ, และ drilled ต่างๆ ส่วนอีกฝั่งคิดว่าการฝึกฝนให้มีความสุขและความสนุกสนาน มีอิสระในการฝึกจะดีกว่า
- Rangnick ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับสัญญาของนักเตะต่างๆ ว่าทำไมถึงได้มีเม็ดเงินเยอะขนาดนี้, ทำไมนักเตะหลายๆ คนถึงได้ค่าเหนื่อยที่มหาศาล ซึ่งคำตอบที่ได้จาก Fletcher ก็คือ "เค้าได้เพิ่มขึ้นเพราะผลงานในสนามดี" ซึ่งนโยบายการบริหารสัญญานักเตะนี้ มาจาก "เบื้องบน"
- ซึ่งเป็นนโยบายนี้เป็นที่คิดค้นมาจาก Ed Woodward และ Matt Judge และได้รับการปกป้อง/สนับสนุนโดย Joel Glazer เพื่อปกป้องมูลค่าการตลาด
- หลังจากนี้ Rangnick และ ETH จะพบปะเพื่อพูดคุยแผนในอนาคต และกำหนดระบบการเล่นและการวางแผนการซื้อขาย เพื่อเสนอต่อบอร์ดให้จัดการและหวังว่าบอร์ดจะเห็นด้วยกับทิศทางการทำทีมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- Rangnick นิยามถึงการเซ็นสัญญาในอนาคตนี้ว่า "จะไม่เป็นการเซ็นสัญญาเพราะเรื่องเงินอีกต่อไป" "แต่จะเป็นการเซ็นสัญญาเพื่อพัฒนาอาชีพของนักเตะเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทีมและอาชีพของนักเตะเอง" ซึ่งที่ผ่านมามันคนละอย่างโดยสิ้นเชิง
--------------------------------------------------------------------------
รอดูยาวไปสำหรับอนาคต
3 ปี up เพื่อระบบการเล่นที่ดีที่สุดกับแมนยูฯ สามารถเล่นแบบ Modern Football ได้
และการบริหารเงินที่ดีกว่าตอนเอ็ดเข้