ไปดูมาเล่า : ผีดุสุดโซล




10 เรื่องในนั้น มันซอยยิบซอยย่อยมากกว่าหนัง 4 แพร่ง 5 แพร่ง หรือ เทอมสองสยองขวัญล่าสุดซะอีก
หลายคนคงเกิดอคติในใจ แมร่งเอ๊ยยยยยย เหลือ ตอนละ 10 นาที (หนังสองชั่วโมงนิด ๆ , ตบเป็น 2 ถ้วนไปเลยง่ายดี)

ประมาณ 10 นาทีจริง ๆ
แต่มันไม่ต้องท้าวความ ไม่ต้องหาคำอธิบาย ไม่ต้องโน่น นี่ นั่นอะไรมาก
เต็มที่ถ้าจะเล่าก็แค่เชิงสัญลักษณ์ มี flashback นิดนึง พอให้เข้าใจ

มาถึงก็ค่อนข้างจะเข้าฉากพีคเลย
----------------------------------------------------------------------------
เอาแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ เลยนะครับ
อารมณ์เหมือน นั่งล้อมวงกับเพื่อน แล้วผลัดกันเล่าเรื่องผี
ไม่ต้องท้าวความเยอะ ประมาณว่า

มันจะมีห้อง ๆ นึงในโรงเรียนนะ ที่มันปิดร้างอยู่ ภารโรงยังไม่กล้าเข้าไปเลย
ทีนี้เว่ย มันมีเด็กลองของคนนึงเข้าไปกับเพื่อน ประมาณกูแน่ กูเก๋า
แล้วก็เข้าไปกัน 2 คน คนนึงตายในห้องนั้น อีกคนรอดออกมาได้ เป็นบ้าไปเลย

จบ

เพื่อนถามต่อ แล้วทำไมห้องนั้นถึงถูกปิดร้างไปวะ
... เอ่า อี 5 กูก็เพิ่งเข้ามาเรียนพร้อมกับมึงนี่แหล่ะ, ไอ้เรื่องที่เล่าให้ฟังนี่ พี่รหัสก็เผาหัวกูมาอีกที, น่ากลัว ship หาย

----------------------------------------------------------------------------

ประมาณนี้เลย


ถ้าคิดว่า เทอมสองสยองขวัญดี ผมว่าอันนี้ดีกว่า
แต่ถ้าคนชอบดูหนังแบบรู้ที่มา ที่ไปทุกอย่าง อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่

ถ้าคุณชอบเปิดมาก็เอาเลย เน้นมัน (สยอง) อย่างเดียว, มีบิ๊วนิดนึง
เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก

หนังไม่ใช่ผีทั้ง 10 เรื่อง แค่ถ้าใช้คำว่าสยองขวัญ น่าจะเหมาะกว่า
เพราะมีทั้งผี ทั้งซอมบี้ ทั้งเล่นกับด้านมืดของตัวเอง ทั้งเรื่องลี้ลับ แล้วก็อะไรซักอย่างที่มัน..... อธิบายยาก แต่ไม่เข้า concept ผีเท่าไหร่

----------------------------------------------------------------------------
สปอยล์ 1 ตอน เอาแบบที่ไม่มีอะไรมาก

----------------------------------------------------------------------------

ปล. คราวนี้เหมาโรงดูคนเดียวตอน 2 ทุ่ม อีกแล้ว, ออกมา 4 ทุ่มนิด ๆ ห้างปิด ลงมาเจอฝนตกอีกยื่นรอดูอาการ 15 นาที
แว๊นมอไซค์ลุยฝนกลับบ้านเลย 55555

ไปดูรอบสื่อ กับ the shock มีกลิ่นอายของ train to busan หน่อยๆครับ

หั่นย่อยเยอะเกิน ทำให้ไม่มีส่วนของการอธิบายที่มาที่ไปเท่าไหร่

ถ้าเหลือสัก5ตอน+คำอธิบายที่มาที่ไปแต่ละตอนน่าจะดีกว่านี้

ปล.หรือมันเป็นตำนานที่คนเกาหลีส่วนใหญ่รู้หรือเคยได้ยินอยู่แล้ว

แล้วเราเป็นคนนอกไปดูเราเลยเก็ทแบบคร่าวๆไม่เก็ทแบบปรุโปร่ง

เทอมสองสยองขวัญสำหรับเราคือกากสุดใน 10 กว่าเรื่องที่ดูปีนี้ละ

เท่าที่ดู ๆ ไม่น่าจะเป็นเรื่องดั่งเดิมนะ (ผมเดาเฉย ๆ นะ)
แต่อย่างที่บอกเลยครับ

เหมือนหั่นส่วนนั้นทิ้งไป เหมือนเราเข้าโรงหนังช้า ไปถึงก็ถึงตอนพีคแล้ว

ผมเคยได้รับรู้ความรู้สึกแบบนี้ ตอนไปคุยกับคนชอบ transformers
ใครเค้าไปดูเนื้อเรื่องกัน เค้าไปดูหุ่นตีกันอย่างเดียว 555555

โดยรวมผม OK นะ
หลาย ๆ ตอนมี flashback ให้รู้ต้นทางของเหตุการณ์ของตัวละครบ้าง

จะว่าไปหนังยาวหลาย ๆ เรื่องมันก็ไม่เล่าที่มานะ
แต่มันเน้นขยี้เหตุการณ์ในหนังเป็นหลัก

คือทั้ง 10 ตอนในหนัง มันจบแบบ
อ่าวววว แล้วยังไงต่อ, ยังไม่ทันเอียงคอหลังจากความคิด
มันก็ตัดเข้าเรื่องใหม่เลย

ที่ผมเจอ ๆ มาส่วนใหญ่ หนังที่ไม่เล่าที่มาในเรื่องเลย มักจะเป็นหนังแนวศาสนานะ
อย่าง The Dark and the Wicked เนี่ย, ผมดูแล้ว เห้ย มึงยังไง อะไรต่อ
พอมาคิดดูว่า เค้าไม่ได้ท้าวความเรื่องความเชื่อให้เรารู้มากนัก ก็เลย อะ ๆ ไม่สนใจก็ได้
แต่ก็ไม่ได้กลับมาทำการบ้านต่อนะว่ายังไง ช่างแมร่งไปเลย 5555555

train to busan นี่ตอนหมอฟันใช่มั้ยครับ
พยาบาลผู้ช่วยน่ารักดีนะ ถึงหุ่นจะสลิมไปหน่อยก็เถอะ

รู้สึกเหมือนผมเลย ไปดูเพราะชอบคุณนัทเฉยๆ ไม่ได้คาดหวัง แต่พอไปดูจริงๆกากกว่าที่คิดไว้อีก