1. ยังไม่หลุด 61.8 มีข่าวโดนโจมตี ท่านจะรอให้มาแตะ 61.8 มั๊ยครับ?
ก็ไม่รอสิครับ หลุดเน็คไลน์ผมก็ออกแล้วไง ออกหมดด้วย แล้วผมไม่สนใจข่าวทั้งนั้นครับเพราะงั้นประเด็นเรื่องข่าวตัดไปเลย
2. ยังมีคนไปนั่งนับ wave ตอนนี้มั๊ยครับ เดี๋ยวมีโอกาสกลับไปเท่าไร
นับเวฟทำไมครับ มันหลุดแล้วก็คัทแล้วแล้วเลิกเล่น อีกอย่างผมไม่นับเวฟครับ
3. มีอินดิเคเตอสั่งซื้อด้วยนะครับ ตอน 1.x ถึง 1.5 ท่านกล้าเข้าไปมั๊ยครับ
เข้าตอนไหนครับ คือหลุดแนวรับผมก็ออกแล้ว จะเข้าทำไมครับ

ประโยคสุดท้าย ผมขอกลับของท่านนะครับ เหรียญโดนเล่นงานแบบนี้ ใครมารอดูอินดิเคเตอร์อะไรครับ
แล้วผมบอกให้ดูอินดิเคเตอร์ตรงไหนครับ?
เส้น 89 ที่ใส่มามันติดมาเฉยๆครับไม่ต้องไปสนใจ ส่วนฟิโบสำหรับผมไม่ใช่อินดิเคเตอรครับ

แยกประเด็นที่ลงจนเจ๊ง โดนโจมตี กับ เทคนิคก่อนนะครับ

ที่จะสื่อคือหลุดแนวรับสำคัญก็ออกแค่นั้นเองมันอาจจะลงมาลึกแล้วเสียหายเยอะแล้วก็ต้องออกครับ

ขอโทษครับ ผมเข้าใจที่อีกท่านถามนะ

ต้องเข้าใจว่ามันประกอบด้วยคน 2 กลุ่ม
1. คนถือยาวมา
2.คนเก็งกำไร

ปัญหาที่ท่านว่ามันควรเข้าเคสของคนจำพวก 2 คือคนเก็งกำไร แล้วถ้าคิดจะดูกราฟ
1. ดูเข้า neck-sh ก็จริง แต่ ดู trend line ระยะกลางได้เลย ยก low
2. วันที่ทำท่าจะหลุดลงไป ดูมันปิด คือปิดเหนือเส้น trend-line ภาพเดียวกับ จังหวะช่วงธันวา มกราที่เป็นขาลง
3. ด้วยจาก 1 และ 2 และตามเทรนใหญ่คือ ยก low เรื่อยๆ
4. จังหวะหลุดฟีโบ ก็(แทบจะ)สายไปแล้ว

ถ้าคนเล่นสั้น คิดว่าข้อ 1 หรือ 2 คง cutloss ไป แต่คนเล่นสั้นก็เนอะก้อนเล็ก
ถ้าคนเล่นระยะกลาง-ยาว ไอวันที่ 2 ที่แดงเล็กๆ แล้วเด้งขึ้นมา ตรงนี้วัดใจได้ทั้งเข้า ได้ทั้งออก เพราะมันลงไปชนแนวรับใหญ่แล้วเด้ง
(เป็นตามปกติ กราฟมันตียังไงก็ได้ แล้วแต่มุมมองคน ถ้าสถานการณ์ปกติ ผมบอกเลยว่า ผมอาจจะหย่อน split ไม้เข้าวันที่แนวรับใหญ่เอาอยู่แน่)

ที่นี่ปัญหาคือคนที่ลงเยอะๆ มักจะไม่ใช่หมวดที่ 2 หลายๆ คนเป็นคนหมวดแรก คือตามคนอื่นมา หรือซื้อนานมาแล้ว ซึ่งคนพวกนี้อาจจะไม่ได้ดู active อะไรมาก อารมณ์แบบทุน 50-60-70 เห็นมันลงมายืนเหนือทุน 60-70 บาท เค้าก็ไม่ซีอะไร เพราะมันมี "ความเชื่อ" ผสมอยู่ กว่าจะรู้ตัว วันที่มันไหลจาก 70-80 ลงไป หลักบาทคือภายในไม่กี่ ชม

ซึ่งคนโดนหนักๆ ถ้าไม่ได้ตาม "ข่าว" ว่าพื้นฐานของเหรียญโดนโจมตีจนยับเยิน เค้าก็คิดว่ามันก็คือ cycle แบบในอดีต

ผมเลยคิดว่า คนที่เสียเยอะ มันไม่ได้เป็นเพราะเค้าดูเทคนิคพลาดหรอก แต่เรื่องเหตุการณ์และข่าวคือตัวแปรสำคัญที่มีน้ำหนักเพียงพอ
นึกถึงพวก อีลอน มัสต์ทวิต เทคนิค่อลไหนก็ใช้ไม่ได้ หรือ ตอนที่มีข่าว evergreen ล้มละลาย รัสเซียบุกยูเครน ลักษณะที่เป็นข่าวและเหตการณ์พวกนี้มันไว และกระชากกราฟให้ผิดทรงได้ รวมถึงพวกหูตาไว ข่าวร้ายเวย short ใส่ แบบนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน (พวก short ตามข่าว ไม่ได้ตาม technical ซึงพวกนี้ตลาดหุ้น tfex forex นี่มีเยอะมาก)


edited: นี่ผมพิมนาน จนเค้าถกกันจนจบแล้ว เวรกำ

โอเคครับผมเข้าใจในมุมที่ถือระยะกลางถึงยาวนะครับ คือผมมองในมุมเทคนิคอย่างเดียวเลยเพราะไม่มีความรู้พืเนฐานเหรียญเลย คือลงแบบเนี่ย มันโดนคนที่ถือยาวเต็มๆ แต่คนที่ถือยาวมาคิดว่าเค้าน่าจะลึกด้านพื้นฐานเปรียบง่ายๆก็คือ วีไอนั้นแหละ
แสดงว่าคนหมวดที่1 ไม่ได้เฝ้าเจอเลยใช่ไหมครับ ซึ่งถ้าเป็นผมถือไมไ่ด้จริงๆนะสวิงกันแบบนี้นอนไม่หลับ

ผมก็เข้าใจเค้านะครับ จุดคัท อะไรพวกนี้ เวลาเข้ามันตัองมีอยู่แล้วแหละ วางแผน
แต่นี่มันevent ชัดๆ เลย ไม่ตัอง neckline หลุดหรอก เบรคไฮ อินดิเคเตอทุกอย่างบนโลกสั่งซื้อ ผมก็ไป

เข้าใจท่านครับ ขอตอบต่ออีกนิดนึงนะ

1. เรื่องของข่าว อย่างที่บอกไปตอนต้น มันไวและต้องการการตัดสินใจที่ไม่ปกติ ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของคน vi ถือยาวที่ต้องมาตัดสินใจอะไรด่วนๆ อยู่แล้ว ถ้าคิดง่ายๆ คือเหมือน "มั่นใจ' "เชื่อ" ในเหรียญ ต่อให้มีเหตุการณ์ร้ายแรงมาก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ แนวคิดแบบนี้ก็มีทั้งประโยชน์และโทษ และมันไม่ใช่อะไรที่จะคิดมาก่อนหรือทำการบ้านมาก่อนได้ มันใช้สมองคนละแบบกับการตีกราฟ ที่มานั่งวาง golden triangle แล้วรอเบรค หรือหลุด แต่มันอารมณ์กราฟค่อยๆ ขึ้นวันดีคืนดี อีลอน บอก btc ทำลายมลพิษ ใช้พลังงานสิ้นเปลือง กราฟก็ลู่เลย แบบไม่มีอะไรกั้น (ขนาดคนเทคนิค่อล ยังเหวอได้เลย)

2. ขอยกเรื่อง มั่นใจ และความเชื่อมาก่อน สำหรับการอธิบายว่าคนวีไอจะต้องแน่นเปรี้ย อันนี้บอกตรงๆ ว่าไม่ใช่แค่ คริปโตหรอก ไอตลาดหุ้นบ้านเรา vi ยังมีหลายเลเวลเช่น
1. รู้แค่หุ้นนี้ดีซื้อก่อน เพื่อนแนะนำ เข้าตามคนรู้จัก ไม่สน มันไม่เจ๊งหรอก dca ลูกเดียว เช่น or, sawad, oishi, เถ้าแก่น้อย, egat, aot อ่านงบอะไรทำไม่เป็น
2. อ่านงบเป็นแต่แบบงบสรุป ติดตามข่าวสารบ้าง แต่ตีงบดุลไม่แตก ไม่รู้มันโยกยังไง ตบแต่งบัญชียังไง
3. อ่านงบออกละเอียด แต่ดูภาพรวมของ business ไม่ได้ forecast ทิศทางของ business เข้ากับ ส่วนอื่นๆ หรือเป้าหมายขององค์กรไม่ได้
(ถ้ามีมากกว่านี้ คือความรู้หรือประสบการณ์ ผมไม่ถึงพอจะรับรู้หรือแยกแยะได้)
อันนี้ยกตัวอย่างจากตลาดหุ้นที่เข้าถึงง่าย ข้อมูลเพียบพร้อมสุดๆ แต่คนจำนวนข้อ 1 หรือ 2 มันมากกว่าข้อ 3 มาก
ขนาดจำพวก 2 หรือ 3 ยังมองในเรื่องเดียวกันไม่เหมือนกันเลยในบางคน บางคนมีความเชื่อเข้ามาผสมว่าทิศทางนี้จะดี บางคนไม่คิดแบบนั้น
ยิ่งพอมาเป็นคริปโตที่เจอภาษาอังกฤษก่อน เปเปอร์อย่างหนา และโฆษณาความร่ำรวยเป็นสิบ เป็นร้อยเด้งจากการเกร็งกำไรราคาเหรียญอีก
ภาษาบ้านคือเม่าบินเข้ากองไฟนั่นแหละ เหโลตามกันมาเยอะ เพราะคิดว่ามันจะช่วยให้รอดจากความลำบากได้ ทุกวันนี้คิดว่า ค vi ดอยหุ้น sawad, oishi, dtac มีกี่หมื่นกี่แสนคน

ขออนุญาติ edited อีกที ตอบคำถาม ใช่ครับ คน vi เค้าไม่ค่อยมานั่งดูกราฟกันทุกวันหรอก หุ้นที่ผมถือไว้ ผมซื้อแล้วก็จบ ถึงเวลาได้ยินข่าวว่าตลาดหุ้นลงหนักทีนึง ผมก็เปิดดู "เพื่อซื้อ" ด้วยไม่ใช่เพื่อขาย แล้วก็ตามไม่ค่อยทันเอาจริง บางทีเข้าประชุม 3-4 ชม ออกมาราคามันไปแล้ว ทำใจอย่างเดียว

ดูจากกราฟก็ หลุด neck ก็คัทนั่นแหละดีสุด
แตถามว่าเอา event มาคุยได้ไหมก็ได้ครับ เพราะถ้าวิเคราะห์ข่าวว่าไม่น่าปลอดภัยแล้ว
ก็ขายได้เลยครับ แล้วแต่สไตของเรา
แต่ส่วนใหญ่ ราคาไปก่อนข่าวออก ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือป่าว อาจจะต้องย้อน tf เล็กๆ ว่าข่าวออกตอนไหน
ราคาล่วงแบบมีล็อตใหญ่มาปาตอนไหน แต่ส่วนใหญ่เลยที่ผมเจอตัวที่ผมถือนะ
ไม่ว่างบสวย ข่าวดีอะไร ราคานำก่อนเสมอ

ตอนนี้ไม่มีใครตี ตีไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรครับ

แต่ ณ ตอนนั้น ก่อนโดนโจมตี
ถ้าใครเทรดสายเทคนิค ตีกราฟกับเหรียญที่ตัวเองถือไว้ แล้วมีวินัยทำตามเทคนิคก็รอดครับ

อีกอย่างนึง ณ ตอนนั้นที่มันเริ่มย่อลงมาเนี่ย ยังไม่มีใครรู้กันเลยครับว่าโดนโจมตีอยู่


เทคนิคอลไม่ได้ตอบสาเหตุการรูดกรณีพิเศษแบบ Luna แต่เทคนิคอลบอกจุดที่คุณควรยอมแพ้แล้วคัททิ้งครับ

ขอบคุณที่มาซัพพอรทความเห็นว่า "เทคนิคัลไม่ได้ตอบสาเหตการรูดกรณีพิเศษแบบ LUNA ครับ" นี่คือ สิ่งที่พยามจะสื่อมาทั้งหมด

แล้วเทคนิคัลบอกจุดที่คุณควรยอมแพ้แล้วคัททิ้งครับ อันนี้ก็ ทุกคนที่เข้าออเดอร์ เทรด เกร็งกำไร มีจุดคัทจุดเทคเสมอ ดูตัวไหนยังไงแล้วแต่คน

สายดูกราฟก็คงออกหมดแหละครับ แต่พวก dca buy the dip เห็นค่าของเหรียนญ ลงซื้อๆ เก็บไปเรื่อยๆ ทยอยๆ เค้าคงคิดว่าเต็มที่แค่ยอมดอย ไม่ได้คิดถึงว่าจะโดนอะไรพวกนี้หรอกครับ อันนี้เห็นต่างได้เลยครับ เพราะผมไปคิดแทนเค้าไม่ได้

Edit: ชอบประโยคนี้ครับ "ตอนนี้ไม่มีใครตี ตีไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรครับ" เพราะ event ทำลายทุกอย่างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพิ่งเห็นในฟีดบน fb เหมือนเพื่อนผมจะโดนไปประมาณ แสนกว่าบาทน่าจะได้

หลักๆผมว่าไม่มี Circuit Breaker

1. ตลาดคริปโต ไม่มี Circuit Breaker มาหยุด มาชะลอ อารมณ์คน กราฟมันเลยออกมาแบบนี้

2. จากข้อ 1 . เลยยอมให้คนที่เล่น คริปโต แล้วบอกว่าฉันคือ VI โคตรเสี่ยงกว่าสายกราฟอีก เพราะ

2.1 พื้นฐาน ก็มาจากการเดาอนาคต พื้นฐานในอดีต คริปโต จะเอามาจากไหน

แค่ว่า ผู้บริหารเคยทำอะไรมาก่อนอย่างงี้เหรอ แค่นี้การันตีว่า ทุกอย่างที่เค้าทำจะไม่ล่ม จะไม่พังได้ไง ถ้าบอกว่าไม่ใช่ พื้นฐานของคริปโตจริงๆคืออะไร

2.2 ตลาดไม่มี Circuit Breaker ขึ้นสุด ลงสุด กล้าไม่ตามกราฟได้เหรอ วันเดียว จบ จริงๆต้องบอกว่า ชั่วโมงสองชั่วโมงรู้เรื่อง

2.3 คริปโต พื้นฐานเปลี่ยน เหรียญระเบิด สาย VI จะออกยังไง เพราะไม่ทันข่าว ไม่ทันกราฟ ไม่ทันอารมณ์คน ไม่มีตัวเบรค

รุ่นน้องแถวบ้านจากที่จะเอารถมาจำนำผม(ยังเม้นในssเมื่อไม่กี่วันว่ามีคนจะเอามาจำนำ) สรุปจากจำนำเป็นขาย เห็นรถสไลด์มายกขึ้นไปแระ

มีเทพเทคนิคัลมาเอดูเคทด้วยเว้ยย เทพหลังเกมจัดๆ ลงรอบนี้ไม่ได้เกี่ยวไรกะเทคนิคัลเลย

55555 จริง

นั่นน่ะสิ ปกติไม่มีใครเค้าเอา technical มาอธิบาย event break กันเพราะมันอยู่นอกเกณฑ์อยู่เเล้ว

ดันพยายามจะเอา technical ไปอธิบายซะอย่างงั้น

แต่สุดท้ายก็เห็นว่าสายเพียวvi ในคริปโตเขอevent แบบนี้=gg ไม่มีแผนรองรับกันเลยทีเดียว หรือว่า เป็น viจำเป็น