เอาจริงก่อนหน้านี้ผมก็นั่งในโรงปกตินั่นแหละ แต่ช่วงหลังรู้สึกว่ามานั่งไถโทรศัพท์ชิลๆข้างนอกสบายกว่าเพราะรำคาญโฆษณาทั้งหลายโคตรๆ

จ่ายเงินมาดูหนังครับ

ใครอยากยืนก็ยืนไปสิครับ

ผมจะนั่งกินป๊อบคอร์นรอดูหนัง

ผมเข้าตอน เวลาตามตั๋ว +20 นาทีตลอด

รอบผม 100% ไม่ยืน

ไม่ยืนครับ

ดูที่ต่างประเทศ

ตั๋วหนัง 6.25 pm พอ 6.25 ก็เล่นทันที ไม่มีโฆษณา หรือเพลงอะไร มากวนใจเลย

อยากยืนก้อยืน อยากนั่งก้อนั่งไม่บังคับกัน

ผมก้อนั่ง

ยืน เพื่อ

ใครใคร่ยืน ยืน ใครใคร่นั่ง นั่ง

มีเหตุผผลอะไรให้ยืนละครับ เอาจริงกอนหน้านี้หลายๆปี ผมก็ยืนแค่เขายืนกันเท่านั้น ไม่ได้ยืนเพราะเรื่องอะไรเลย

ที่ภูเก็ตส่วนใหญ่ก็ยังไม่ยืน

ไปดูหมอแปลกมาวันแรก 4พค.

ไปดูคนเดียวด้วยนะ ใจก็หวั่นๆแต่พอเพลงมาคนที่นั่งข้างๆผม(มีเก้าอี้เว้นไว้ตัวนึง)ก็ยืนนะ แต่ผมมั่นใจในเจตนารมณ์ของผมมากๆว่าจะไม่ยืน

พอเพลงจบก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เอาจริงๆเรื่องยืนหรือไม่ยืนในโรงหนังนี่สังคมมันจะสงบและไม่มีปัญหาเลยนะ ถ้ายึดหลักที่ว่าใครอยากยืนก็ยืน ใครไม่อยากยืนก็ไม่ต้องยืน

ทุกวันนี้มันเป็นปัญหาเพราะยังมีพวกฝั่งยืนบางส่วนไปยุ่งและด่าพวกไม่ยืน พวกฝั่งไม่ยืนบางส่วนก็ไปจับผิดพวกที่ยืน เรื่องแบบนี้ใครใคร่อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถ้าไม่ได้ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับคนอื่น

ส่วนตัวเมื่อก่อนผมยืน ที่ยืนก็เพราะว่ายืนตามๆกันนี่แหละ ไม่ได้เกี่วกับศรัทธาหรืออะไรหรอก เหมือนเดินผ่านพระพุทธรูปและคนอื่นยกมือไหว้กัน ผมก็ไหว้ตาม ถามว่าไหว้เพราะศรัทธาพระพุทธรูปนั้นหรอ...ก็ไม่ ผมเห็นคนไหว้ผมก็เลยไหว้บ้าง

พอมาปัจจุบันคนไม่ค่อยยืนกันแล้ว ผมก็เลยไม่ยืนบ้าง แค่นั้นเอง ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่หรืออะไร

ประเทศอังกฤษเขายังมีทั้งพวก royalty กับพวกที่แอนตี้สถาบัน เขาก็ยังอยู่ร่วมกันได้ ไทยเรานี่มีปัญหาจัดๆ ถ้าปรับความพอดีกันได้ผมว่ามันจะโอเคมากนะ แต่ก็อย่างว่า ไทยเราเพิ่งเริ่มปรับตัวเรื่องพวกนี้ อาจต้องใช้เวลาหน่อย

ใครจะยืนก็ยืน ใครจะนั่งก๋นั่งครับ
ไม่ต้องสนอะไร ตังเราจ่ายเอง