โคตรคัมแบ็ค!! 'โรดรีโก้' เบิ้ลยื้อต่อเวลา 'เบนซ์' ซัดโทษราชันซิวเรือ 3-1 ชิง UCL
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ที่สุดของความดราม่าเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเข้ารอบอยู่แล้วได้ประตูนำจาก ริยาด มาห์เรซ แต่ทุกอย่างพลิกกลับตาลปัตรเมื่อ โรดรีโก้ ฮีโร่ยิง 2 ลูกในเวลาเพียงแค่ 2 นาทีท้ายเกมช่วย เรอัล มาดริด ยื้อจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษก่อนที่ คาริม เบนเซม่า จะมาสังหารจุดโทษพา ราชันชุดขาว คว้าชัยเหนือ เรือใบสีฟ้า 3-1 ทะลุผ่านเข้าไปพบกับ ลิเวอร์พูล ในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
3.
เอแดร์ มิลิเตา
115'
6.0
14.
คาเซมิโร่
75'
5.5
8.
โทนี่ โครส
68'
5.0
10.
ลูก้า โมดริช
75'
5.5
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
115'
6.0
9.
คาริม เบนเซม่า
104'
8.0
ตัวสำรอง
20.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า
75'
7.5
5.
เฆซุส บาเญโฆ่
115'
-
11.
มาร์โก้ อเซนซิโอ
75'
6.0
17.
ลูคัส บาซเกซ
115'
-
21.
โรดรีโก้
68'
8.5
19.
ดานี่ เซบาญอส
104'
6.0
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
วันที่ 4 พฤษภาคม 2565
กรรมการ ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้
เรอัล มาดริด
3
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
รวมผลสองนัด มาดริด เข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 6-5
1-1 โรดรีโก้ 90'
2-1 โรดรีโก้ 90+1'
3-1 เบนเซม่า 95' (Pen.)
มาดริด โรเตชั่นเอาตัวหลักกลับมาลงสนามยกเว้นแนวรับไร้ อลาบา เพราะฟิตไม่พอเลยให้ นาโช่ คุมหลังและ คาเซมิโร่ ก็กลับมาลงสนามแล้วและมี วัลเวร์เด้ ลงมาคุมทางริมเส้นขวาด้วย
ส่วนทางด้าน แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ วอล์คเกอร์ กลับมาลงสนามบ้างและให้ เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ และ มาห์เรซ ออกสตาร์ทอีกครั้ง
ราชันทักทาย! เบนซ์ โหม่งข้ามคาน
มาดริด มาหาโอกาสทักทายได้แล้วกับจังหวะ การ์บาฆาล ทางขวาได้เปิดเข้ามาลุ้นในเขตโทษแล้ว เบนเซม่า ขึ้นโหม่งแต่ข้ามคานออกไป
เดือดเล็กๆ! ลาปอร์ต,โมดริช มีปัญหากันรับไปคนละเหลือง
เล่นไปเล่นมามีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นซะแล้วหลังจากนักเตะ แมนฯ ซิตี้ ยืนเถียงกับกรรมการอยู่แล้ว โมดริช เดินเข้ามา ลาปอร์ต เลยพยายามผลักออกจนมีจังหวะฮึดฮัดใส่กัน โมดริช เอามือจับเข้าไปที่คอ ลาปอร์ต ทำให้ ลาปอร์ต ล้มลงโดยที่มือของ ลาปอร์ต ตอนล้มก็ฟาดไปโดนหน้า โมดริช ด้วยสุดท้ายรับเหลืองทั้งคู่
เบนซ์ ได้โอกาสยิงอีกโด่งออกหลัง
โอกาสของ มาดริด มากันอีกครั้งด้วยการวางบอลข้ามจากซ้ายมาขวาให้ การ์บาฆาล จ่ายต่อให้ วัลเวร์เด้ มาตวัดเปิดเข้าในให้ เบนเซม่า ยิงบอลลอยโด่งออกหลัง
ราชันลองอีก! วินิซิอุส พักอกยิงข้ามคาน
ราชัน หาจังหวะจบได้อีกแล้วจากการใช้บอลโยนขึ้นหน้าแล้ว วัลเวร์เด้ กระดกต่อมาเข้าทาง เบนเซม่า ก่อนบอลหลุดถึง วินิซิอุส ด้านหลังวิ่งมาพักอกแล้วซัดส่งบอลพุ่งข้ามคาน
เรือลองบ้าง! แบร์นาร์โด้ สอดไปยิงโดนเซฟ
ถึงตา แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นกันบ้างด้วยจังหวะที่ เดอ บรอยน์ กระดกเข้าเขตโทษให้ แบร์นาร์โด้ วิ่งสอดไปได้ยิงมุมแคบทางขวาแต่ คูร์กตัวส์ ปัดออกไปได้
เชซุส ลองยิงบ้างยังหลุดกรอบไปหน่อย
จังหวะจบของ ซิตี้ มาอีกครั้งหลังจาก แบร์นาร์โด้ ทางซ้ายสุดเส้นหลังล็อกกลับมาเปิด เชซุส โหม่งเสยมาให้ เดอ บรอยน์ จับบอลไม่อยู่เท้าดีแต่ยังมี เชซุส วิ่งมายิงส่งบอลพถ่งหลุดกรอบไปหน่อย
โครส ยิงฟรีคิกแฉลบกำแพงออกหลัง
มาดริด ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางซ้ายคนรับหน้าที่จัดการคือ โครส ตัดสินใจซัดไปติดแฉลบกำแพงเลยส่งบอลพุ่งหลุดกรอบออกหลัง
เรือลองอีก! โฟเดน ส่องไกลยังถูกปัดทิ้ง
ท้ายครึ่งแรก เรือใบ ได้ทำให้ คูร์กตัวส์ ออกแรงเซฟอีกครั้งหลังบอลสาดขึ้นหน้าแล้วถูกดักเอาไว้แต่ โฟเดน ตามเก็บได้ตัดสินใจยิงไกลสวนเลยยังโดนปัดได้
เบนซ์ หลุดมายิงเฉี่ยวออกหลังแต่ก็ล้ำหน้า
มาดริด ได้ลุ้นเลยด้วยจังหวะ เมนดี้ แทงเข้าเขตโทษให้ เบนเซม่า แล่บหลุดมาสวยเข้าเขตโทษซ้ายมือดวลเดี่ยวๆก่อนจะซัดส่งบอลออกหลังนิดเดียวแต่ก็มีธงล้ำหน้าตามมา
น่าได้! การ์บาฆาล เปิดถึง วินิซิอุส ยิงหลุดนิดเดียว
กลับมาครึ่งหลังเกือบจะมีประตูนำให้ มาดริด เข้าแล้วด้วยการทำชิ่งกลางสนามก่อนวางยาวออกขวาให้ การ์บาฆาล วิ่งสอดไปเปิดจังหวะแรกทันทีบอลหลุดถึงเสาสองมี วินิซิอุส วิ่งมายิงหลุดกรอบน่าเสียดาย
เอแดร์ซอน ออกมารับบอลหลุดแต่เพื่อนช่วยกันเคลียร์ไว้
มีจังหวะให้ แมนฯ ซิตี้ แอบเสียงหลังจาก มาดริด บุกมาแล้ว โมดริช ยิงไปติดบล็อกบอลลอยโด่ง เอแดร์ซอน ออกมาจะรับบอลเข้าซองแต่ไม่รู้กันกับเพื่อนกลายเป็นบอลหลุดมือถึงอย่างนั้น แมนฯ ซิตี้ ยังช่วยกันเคลียร์ออกมาได้
วินิซิอุส มาสองหนติดแต่ไม่ผ่านแนวรับ
หลังจากนั้นมา มาดริด มีโอกาสบุกมาเพิ่มโดยบอลมาอยู่กับ วินิซิอุส เสียเป็นส่วนใหญ่แต่จังหวะสุดท้ายของเขาไม่ผ่านเกมรับ แมนฯ ซิตี้ ที่ช่วยกันดักเอาไว้
ราชันเลือกเปลี่ยน โครส ออกส่ง โรดรีโก้ ลงช่วยเกมรุก
มาดริด ไม่ได้กดดันมากเหมือนก่อนหน้านี้เลยต้องเปลี่ยนตัวคนแรกด้วยการถอดเอา โครส ออกไปแล้วให้ โรดรีโก้ ลงสนามมาเพิ่มเกมรุกแทน
เรือมาแล้ว! แบร์นาร์โด้ ส่งให้ มาห์เรซ ยิงเสียบเสาแรกออกนำ
แต่แล้วก็กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่เอาประตูออกนำสำเร็จ เป็นบอลจาก แบร์นาร์โด้ กลางสนามพาขึ้นมาเองแล้วจ่ายออกมาทางขวาให้ มาห์เรซ วิ่งมายิงไม่ต้องจับบอลโค้งเข้าเสาแรกพา แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0 โอกาสเข้ารอบอยู่ตรงหน้า
ราชันอยู่ไม่ได้ส่ง คามาวิงก้า, อเซนซิโอ ลงกู้สถานการณ์
มาดริด อยู่ไม่ได้แล้วตอนนี้ต้องยิงอย่างน้อย 2 ประตูเพื่อยื้อไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษเลยทำการเปลี่ยนตัวเพิ่มเอา คาเซมิโร่ กับ โมดริช ออกแล้วให้ อเซนซิโอ และ คามาวิงก้า ลงมาช่วยแก้สถานการณ์
เบนซ์ หลุดมาล็อกยิงไม่ผ่านเซฟแถมล้ำหน้า
เข้าท้ายเกม มาดริด มาได้โอกาสให้ลุ้นประตูตีเสมอด้วยการใช้บอลจากกลางสนามขึ้นหน้าให้ เบนเซม่า ตามไปจับบอลลงแล้วล็อกหนีก่อนหลังก่อนซัดติดเซฟ ถึงอย่างนั้นก็มีธงล้ำหน้า
เกือบฝัง! คันเซโล่ ยิงเจอ คูร์กตัวส์ บินปัด
เกือบมีประตูตอกฝาโลงให้กับ เรือใบ เข้าแล้วด้วยจังหวะที่บอลมาอยู่กับ คันเซโล่ หน้าเขตโทษทางขวาขอยิงเองเหมือนแฉลบบอลเลี้ยวทำท่าจะเข้าเสาไกลแต่ คูร์กตัวส์ ปัดไว้ได้
มันน่าสอง! กรีลิช ยิงหนแรกเคลียร์บนเส้น อีกจังหวะติดเซฟปลายขา
หวิดมีประตูให้ แมนฯ ซิตี้ ตอกฝาโลงเกมนี้อีกแล้วหลังจาก กรีลิช เป็นคนพาบอลลุยมาเองทางซ้ายจนเข้าเขตโทษเลยหนี คูร์กตัวส์ จนได้มุมยิงแคบๆแต่โดนสกัดทิ้งบนเส้น
จากนั้น ซิตี้ บุกกลับมาใหม่บอลอยู่กับ กรีลิช คนเดิมในเขตโทษล็อกหนีมามุมแคบจบด้วยการยิงไปติดเซฟด้วยปลายเท้าของ คูร์กตัวส์ หลุดเสาสองนิดเดียว
มีความหวัง!! เบนซ์ ตบให้ โรดรีโก้ ดีดตีเสมอ
ท้ายเกมพอจะมีความหวังให้กับ มาดริด หลังมาเอาประตูตีเสมอเข้าจนได้ กับบอลที่ คามาวิงก้า เปิดเข้าไปทางเสาไกลในเขตโทษให้ เบนเซม่า ตบเข้ามาหน้าประตูแล้ว โรดรีโก้ วิ่งมาดีดตัดหน้า เอแดร์ซอน เข้าประตู มาดริด ตามเจ๊า 1-1 เวลายังมี
ราชันทำได้!!! โรดรีโก้ คนเดิมโหม่งส่งทีมไปลุ้นต่อเวลา
แล้วอีกแค่นาทีเดียวถัดมา มาดริด เฮลั่นเอาประตูแซงนำได้แบบสุดเหลือเชื่อหลังจากบุกกลับมทันทีแล้วบอลออกมาทางขวา อเซนซิโอ เป็นคนครอสเข้ามาแล้ว โรดรีโก้ คนเดิมขึ้นโหม่งบอลเสียบคาน มาดริด ออกนำ 2-1 ถ้าจบสกอร์นี้ต้องไปต่อเวลาพิเศษ
จบ 90 นาทีสกอร์รวมเสมอกันต้องต่อเวลา
แล้ว มาดริด กำลังได้ใจลุ้นประตูต่อทันทีด้วยจังหวะไหลเข้าเขตโทษแล้วมี โรดรีโก้ วิ่งโฉบมามุมแคบทางขวาทิ้งตัวยิงแต่ยังโดน เอแดร์ซอน ปิดมุมเซฟไว้
ท้ายที่สุดจบ 90 นาที มาดริด แซงกลับมาชนะ 2-1 แล้วสกอร์รวมเสมอกันที่ 5-5 ทำให้ต้องไปลุ้นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ราชันได้จุดโทษ!! เบนซ์ ซัดไม่พลาดนำห่างประตูสำคัญ
เริ่มช่วงเวลาต่อพิเศษมาไม่นาน มาดริด มาได้จุดโทษเข้าให้ในจังหวะที่บอลปาดจากขวาเข้ามาแล้ว เบนเซม่า โดน ดิอาส แหย่ขาสกัดล้มลงไปกรรมการเป่าให้
เบนเซม่า เป็นคนลุกมาจัดการเองแล้วก็ซัดไม่พลาดทำให้ มาดริด นำห่าง 3-1 ถ้าจบสกอร์นี้พวกเขาเข้ารอบ
เรือต้องลุย แฟร์นานฯ ยิงโด่งออกหลัง
แมนฯ ซิตี้ จำเป็นต้องลุยแล้วจบสกอร์นี้พวกเขาอดเข้ารอบ มาได้ลูกตั้งเตะ ซินเชนโก้ มีโอกาสให้เปิดข้ามไปทางเสาไกลก่อนสุดท้ายบอลมาอยู่กับ แฟร์นานดินโญ่ จบด้วยการซัดโด่งออกหลัง
เรือเกือบได้!! โฟเดน โหม่งติดเซฟ แฟร์นานฯ ซ้ำออก
น่าเป็นประตูไล่มาให้กับ ซิตี้ เหลือเกินในจังหวะ คันเซโล่ ครอสเข้าไปในเขตโทษแล้ว โฟเดน โหม่งได้เจอ คูร์กตัวส์ ปัดสุดแขนบอลมาเข้าทาง แฟร์นานฯ ตรงเสาสองยืดสุดขาทำได้แค่ออกเสาไปอย่างสุดเสียดาย
เรือเฮือกสุดท้ายดัน ลาปอร์ต ขึ้นยืนแดนหน้า
เวลาเหลืออีกไม่เยอะแล้ว ซิตี้ จำเป็นต้องหาประตูให้ได้อย่างน้อยลูกนึงและแม้แต่พวกเขาเองก็ต้องงัดไม้ตายอย่างการดันเอา ลาปอร์ต ที่เป็นเซ็นเตอร์แบ็คขึ้นไปยืนในแดนหน้า
จบเกม มาดริด โชว์สุดยอดคัมแบ็คชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษสกอร์รวม 6-5 พวกเขาเป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้อย่างสุดยอด โดยจะพบกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงที่ปารีสปลายเดือน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
2.
ไคล์ วอล์คเกอร์
72'
6.5
16.
โรดรี้
99'
6.0
17.
เควิน เดอ บรอยน์
72'
7.0
26.
ริยาด มาห์เรซ
85'
7.5
9.
กาเบรียล เชซุส
78'
5.5
ตัวสำรอง
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
72'
5.5
8.
อิลคาย กุนโดกาน
72'
5.5
25.
แฟร์นานดินโญ่
85'
5.0
10.
แจ๊ค กรีลิช
78'
5.0
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
99'
5.0
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Thu May 05, 2022 05:04, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
อันเช่อย่างเก๋าเลย ขอฝากลิเวอร์พูลเอาถ้วยมาเพิ่มให้กับเกาะอังกฤษที 
10 ปี จะไม่ดีขึ้นหน่อยเลยหรอ..
My Locker
