ผมก็แต่งตอน 32 ครับ เงิน1ล้าน ทองอีกนิดหน่อย
เก็บเองทั้งหมด แม่ผมมีสมทบนิดหน่อยตามธรรมเนียม (แกส่งเสียจนเรียนจบได้ก็ซึ้งแล้วไม่อยากรบกวนแกเยอะ)

แต่ของผมดีหน่อยตรงตอนไปคุยกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงว่าจะขอแต่งงาน เขาออกตัวก่อนเลยว่าไม่เอาสินสอด ถ้าให้มาก็จะคืนให้หมดก็เลยสบายตรงนี้ เพราะผมมองว่าเงินเก็บก้อนนี้ผมตั้งใจใช้สร้างครอบครัว ถ้าโดนเก็บไปหมดคงเศร้า

ส่วนค่าจัดงานช่วยๆกันออกครับ แต่ก็ดีอีกตรงจัดแบบเล็กๆในครอบครัว

ดังนั้นอยากให้ท่านแน่ใจก่อนว่าสินสอดก้อนนี้ได้คืนไหม มันมีผลต่อการวางแผนชีวิตในอนาคต

พอดีผมคนไทยครับ แฟนคนจีน ที่แต่งเข้าบ้านผญ. เพราะด้วยเนื้อที่บ้าน+ความพร้อม ด้วยครับ

5555

สินสอดไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหามันอยุ่ที่ว่า สินสอด มันเกินตัวเกินไป มันเลยเป็นปัญหา

แบบบางท่านพนักงานเงินเดือน 2 - 3 หมิ่น แม่เจ้าสาวขอสินสอด 1 ล้าน ไม่หากันตายเลยหลอ

หากันเอง 2 คนครับ

ครับ

ช่วยกันเก็บกับแฟนครับ เงินเดือนออกมา ก็เข้าบัญชีชื่อร่วมกันเลย

ใกล้แต่งละครับ หาเอง จ่ายเอง แต่ฝั่ง ผญ คืนหมดครับ แค่วางเป็นพิธี

เก็บข้อมูล ทำไม่เหมือนผมมาตั้งกระทู้เองเลย
คนที่กำลังคุยก็ น่าจะทรงนี้

จัดแบบไม่ต้องจัดเอาหน้า จัดที่บ้านเยอะแยะไป เมืองนอกเค้าทำกันเพื่อสังสรรค์ มีความสุข เค้าเน้นตรงจุดนี้

แล้วคนจนเงินเดือน 2 หมื่นจะได้แต่งไหมเห้ออ่ายละเครียดเลย

ถ้า จขม. ตั้งใจแต่งจริง ผมแนะนำให้ "ต่อรอง" ครับ ต่อไปเรื่อยๆ สมเหตุสมผลก็แต่งครับ

ส่วนตัวแม่ยายเรียก 800,000 จะหาเงินจากไหนมาจ่ายล่ะ ต่อไปเรื่อยๆ

แค่อ่านก็เคลียดแล้วผม มันควรเป็นงานที่มีความสุขสิ

ผมหาเอง ส่วนนึง ที่บ้านช่วยส่วนนึง ที่ต้องใช้ช่วย

เงินเดือนผม 20k กับ สินสอด 1M ปีไหนไม่รุ้จะได้แต่ง

สินสอดขึ้นอยู่กับผม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่นครับ ไม่มีใครที่สามารถมากำหนดจำนวนเงินได้ด้วย

ผมยืนหยัดในเรื่องนี้ แล้วมันจะเป็นแค่เงินที่วางตามพิธี

แล้วอันที่จริงผมกับภรรยาจดทะเบียนกันแล้ว มีลูกสองขวบ เราไม่ได้แคร์เรื่องนี้ขนาดนั้น

เงินน่ะมี รายได้ผมปีนึงหลักล้าน แต่มีเวลาหยุดงานหลายวัน ก็อยากเอาไปเที่ยวพักผ่อน มากกว่าที่จะมาเหนื่อยกับการจัดงานแต่ง