เบนซ์พลาดสองโทษ! บาซเกซ ซัดฝังน.90+6 "ราชัน" ทุบโอซาซูน่า 3-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
อาจจะไม่ใช่วันของ คาริม เบนเซม่า ที่เกมนี้พลาดยิงจุดโทษติดเซฟถึงสองครั้ง แต่ เรอัล มาดริด ยังบุกไปเชือดเอาชนะทีมฟอร์มดีอย่าง โอซาซูน่า 3-1 โดยได้ในครึ่งแรกจาก ดาวิด อลาบ้า และ มาร์โก อเซนซิโอ้ ก่อนที่จะรอถึงช่วงทดเจ็บนาที 90+6 ถึงมาได้ประตูตอกฝาโลงจาก ลูคัส บาซเกซ ทำให้ราชันชุดขาวเก็บเพิ่มเป็น 78 คะแนนจาก 33 นัด นำจ่าฝูงลาลีก้าทิ้งห่างแอตเลติโก้ มาดริด 17 แต้ม
โอซาซูน่า
Starting Formation: 4-5-1
16.
โฆเซ่ อังเคล

68'
5.5
8.
ดาร์โก้ บราซานัช

80'
6
28.
ฆาบี มาร์ติเนซ

68'
5.5
14.
รูเบ็น การ์เซีย

46'
6
9.
ชิมี่ อาวิล่า

85'
6
ตัวสำรอง
6.
โอยเอร์

68'
6
39.
มานู ซานเชซ

46'
6.5
11.
เอ็นริเก้ บาร์ฆ่า

68'
6
20.
บาร์เบโร่

85'
6
10.
โรเบร์โต้ ตอร์เรส

80'
6
ลาลีก้า
สนาม เอสตาดิโอ เอล ซาดาร์
พุธที่ 20 เมษายน 2565
กรรมการ ริคาร์โด้ เด บูร์โกส
โอซาซูน่า
1
3
เรอัล มาดริด
0-1 อลาบ้า 12'
1-2 อเซนซิโอ้ 45'
1-3 บาซเกซ 90+6'
ราชันไม่ฟูลทีมแต่ยังมีเบนซ์ยืนค้ำ
เรอัล มาดริดบุกไปในสภาพทีมที่ไม่พร้อมเท่าไหร่เพราะมีตัวเจ็บหลายคน ในระบบ 4-3-3 เบนเซม่า ยังยืนค้ำหน้าและมี โรดรีโก้,อเซนซิโอ้ ขนาบข้าง ในแผงมิดฟิลด์มีการโรเตชั่นใช้ คามาวินก้า,บัลเบร์เด้,้เซบาญอส แผงหลังซ้ายไปขวา นาโช่,อลาบ้า,มิลิเตา,บาซเกซ และ คูร์กตัวส์ เฝ้าเสาตามเดิม
ฝั่งโอซาซูน่าเปิดบ้านในระบบ 4-5-1 โดยมี บูดิเมียร์ ยืนเป็นหน้าเป้าและมี การ์เซีย,อาวิล่า คอยหนุน ตรงกลางเป็น บราซานัช,มาร์ติเนซ,มอนคาโยล่า
• เจอกัน 15 นัดหลังทุกรายการ เรอัล มาดริด ชนะ 11 เสมอ 4
• เจอกันนัดแรกในฤดูกาลนี้เมื่อเดือนตุุลาคม โอซาซูน่า บุกไปยันเสมอ 0-0
• เรอัล มาดริด แพ้แค่ 1 จาก 12 นัดหลังสุดในลีก (ชนะ 9 เสมอ 2)
• โอซาซูน่า ชนะ 3 จาก 4 นัดหลังสุดในลีก
• โอซาซูน่า ชนะเกมเหย้าในลีก 3 นัดติด
เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อนเบาๆ
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของโอซาซูน่าจากจังหวะที่การ์เซียโหม่งชงให้บูดิเมียร์โหม่งตรงกลางประตูแต่บอลก็เบาไปเข้ามือคูร์กตัวส์
บูดิเมียร์ได่ซัดอีกทีคราวนี้หลุดกรอบ
จังหวะได้ลุ้นอีกครั้งของเจ้าถิ่น บูดิเมียร์รับบอลจากบราซานัชมาที่หน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะใช้ความแข็งแกร่งเลี้ยงหลบมิลิเตาเข้าซ้ายก่อนซัดเน้นๆ แต่บอลพุ่งหลุดกรอบไป
โรดรีโก้ลากตัดซัดได้เสียว
มาดริดได้ลุ้นทักทายคืนบ้าง เป็นจังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วค่อยๆเลี้ยงตัดมาถึงริมกรอบเขตโทษก่อนได้จังหวะซัดด้วยขวา บอลพุ่งเรียดจะมุดเสาแรกอยู่แล้วแต่เอร์เรร่ายังล้มตัวปัดออดหลังไปได้
อลาบ้าชาร์จจ่อติดเซฟก่อนซ้ำดาบสองไม่เหลือ 1-0 ราชันออกนำ
ใช้เวลาไม่นานประตูแรกก็เกิดขึ้น เป็นมาดริดที่ขึ้นนำจากจังหวะเล่นฟรีคิกสั้นแล้วเซบาญอสตักบอลให้เบนเซม่าหลุดไปเล่นทางกรอบฝั่งขวา เขาจ่ายจังหวะเดียวเข้าไปตรงกลางให้อลาบ้าโฉบชาร์จติดเซฟเอร์เรร่าแต่บอลก็ยังเด้งกลับมาเจ้าทางให้เขาซ้ำลอดขาเอร์เรร่าเข้าไปเลย 1-0 ทีมเยือนขึ้นนำ
ทันควัน!บูดิเมียร์ชาร์จจ่อๆ 1-1 โอซาซูน่าเจ๊าเร็ว
หลังจากโดนไปก่อน โอซาซูน่าเอาบอลมาเขี่ยแล้วได้ประตูตีเสมอทันควัน จังหวะเซ็ตเกมแล้วอาวิล่าได้บอลหลุดไปทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนจะเปิดเรียดไปแฉลบนาโช่เปลี่ยนทางถึงบูดิเมียร์ที่วางเท้าชาร์จจ่อๆที่เสาสอง 1-1 โอซาซูน่าเอาคืนเร็ว
อาวิล่าลากมาซัดหลุดเสาสอง
หลังจากเกมของทั้งสองฝั่งยังสูสี โอซาซูน่าเน้นสวนกลับแล้วเกือบได้ประตูแซงนำจากจังหวะที่อาวิล่าได้บอลมาทางฝั่งขวาก่อนเลี้ยงตัดมาถึงริมกรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงแต่หลุดเสาสองไป
บูดิเมียร์ซัดหายแต่โดนจับล้ำ
เจ้าถื่นส่งบอลตุงตาข่ายจากจังหวะที่บราซานัชโขกชงให้บูดิเมียร์พักบอลหน้าประตูก่อนตวัดยิงเข้าไป แต่มันทันจะได้เฮก็โดนยกธงล้ำหน้าไปก่อน ซึ่งภาพช้าก็ชัดเจนว่าเป็นแบบนั้น
อเซนซิโอ้ลองซัดไกลปลิ้นออกหลัง
มาดริดเจาะไม่เข้า จังหวะนี้อเซนซิโอ้รับบอลจากบัลเบร์เด้หน้ากรอบเขตโทษก่อนลองซัดด้วยขวาแต่ก็ปลิ้นหลุดออกหลังไป
อลาบ้าส่องไกลฮุคติดเซฟ
อีกครั้งของมาดริด คราวนี้เป็นจังหวะที่อลาบ้ารับบอลจากมิลิเตาแล้วเลี้ยงชึ้นมาก่อนมีเวลาวางเท้าซัดด้วยซ้ายจากระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงฮุคตรงกรอบแต่ยังไปติดเซฟเอร์เรร่า
เซบาญอสยิงไกลแฉลบติดเซฟเอร์เรร่า
มาดริดยังบุกเรื่อยๆ คราวนี้ได้ลุ้นจากจังหวะที่เซบาญอสส่องไกลด้วยขวาแล้วบอลแฉลบเปลี่ยนทางพุ่งตรงกรอบแต่ก็ยังไปติดเซฟเอร์เรร่า
นำอีกครั้ง!อเซนซิโอ้ซ้ำจ่อไม่เหลือ 2-1 ราชันเฮก่อนจบครึ่งแรก
แล้วความพยายามของมาดริดมาเป็นผล เมื่อพวกเขาขึ้นนำอีกครั้งก่อนจบครึ่งแรก เป็นจังหวะที่คามาวินก้าได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนบรรจงตักเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายน้ำหนักพอดีเป๊ะให้เซบาญอสโฉบไปทิ้งตัวจิ้มบอลติดเซฟเอร์เรร่าก่อนที่บอลจะมาเข้าทางอเซนซิโอ้ซ้ำจ่อๆไม่เหลือ 2-0
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมาดริดที่ขึ้นนำไปก่อน 2-1 โดยได้จากอลาบ้า,อเซนซิโอ้ ส่วนฝั่งโอซาซูน่าได้จากบูดิเมียร์
พลาดเฉย!เบนซ์ซัดโทษติดเซฟเอร์เรร่า
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไรมาดริดมาได้จุดโทษจากจังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลหลุดไปทางกรอบฝั่งซ้ายก่อนล็อคแล้วโดนอาวิล่าที่พุ่งสไลด์วืดแล้วใช้มือปัดบอล ผู้ตัดสินเป่านกหวีดแบบไม่ลังเล
เป็นเบนเซม่าที่รับหน้าที่สังหาร เขาซัดด้วยขวาพุ่งเรียดไปทางมุมซ้ายมือแต่เอร์เรร่าเดาถุกและพุ่งไปปัดมือเดียวไว้ได้
เป็นไปได้!เบนซ์ซัดโทษติดเซฟอีกครั้งเหมือนฉายภาพซ้ำ
ราชันชุดขาวมาได้จุดโทษอีกครั้งคราวนี้เป็นจังหวะที่โรดรีโก้เลี้ยงลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วโดนบิดัลสะกิดล้ม ผู้ตัดสินเป่านกหวีดชี้จุดโทษอีกแล้ว
ก็ยังเป็นเบนเซม่าที่รับหน้าที่สังหารหวังแก้ตัวจากจังหวะก่อนหน้า เขาสืบเท้าซัดด้วยขวาพุ่งเรียดไปทางขวามือเหมือนเดิมแล้วก็ไปติดเซฟเอร์เรร่าเหมือนฉายภาพซ้ำ
คามาวินก้าส่องไกลโค้งหลุดกรอบ
มาดริดยังบุกต่อเนื่องๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่คามาวินก้าเก็บบอลแถวสองหน้ากรอบเขตโทษแล้วมีเวลาวางเท้าซัดด้วยซ้ายพุ่งแรงแต่ก็โค้งหลุดกรอบไป
บูดิเมียร์ได้โขกหลุดกรอบ
โิอซาซูน่าพยายามจะบุกเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้อาวิล่าเปิดบอลให้บูดิเมียร์ได้โหม่งในกรอบเขตโทษแต่บอลก็หลุดออกหลังไปอยู่ดี
อิสโก้โขกหลุดกรอบหวุดหวิด
ท้ายเกมมาดริดน่าได้ประตูฝั่งชัย จังหวะเล่นเตะมุมสั้นทางฝั่งซ้ายแล้วเป็นการ์บาฆาลที่ตักเข้าไปในกรอบเขตโทษให้อิสโก้เทคโหม่งชง แล้วนาโช่ชาร์จวืดก่อนที่บอลจะหลุดกรอบออกหลังไปหวุดหวิด
วินิซิอุสหลุดเดี่ยวแต่ยิงหลุดกรอบ
โอกาสทองสุดๆที่มาดริดน่าได้ประตูที่สาม จังหวะที่อิสโก้จ่ายบอลจากกลางสนามให้วินิซิอุสกระชากหลุดเดี่ยวไปทางกรอบฝั่งซ้ายแล้วแล้วได้เหลี่ยมแปด้วยขวาโล่งๆหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
ฝั่งจนได้!วินิซิอุสถวายพานบาซเกซซัดไม่เหลือ 3-1
แล้วในที่สุดมาดริดก็มาได้ประตูตอกฝาโลงจนได้ จากจังหวะสวนกลับที่เบนเซม่าจ่ายบอลให้วินิซิอุสกระชากบอลจากกลางสนามมาทางหน้ากรอบฝั่งซ้ายเขาแตะหลบบิดัลก่อนจ่ายเข้าไปในกรอบให้บาซเกซวิ่งมาแปด้วยซ้ายไม่เหลือ 3-1
ราชันปิดจ็อบนำห่างจ่อแชมป์
สุดท้ายเป็นมาดริดที่บุกไปเอาชนะได้ 3-1 ทำให่พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 78 คะแนนจาก 33 นัด นำจ่าฝูงลาลีก้าทิ้งห่างแอตเลติโก้ มาดริด 17 แต้ม จ่อแชมป์เต็มทน
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
4.
ดาบิด อลาบ้า

46'
7
25.
เอดัวร์โด้ คามาวินก้า

74'
7
19.
ดานี่ เซบาญอส

71'
6.5
21.
โรดรีโก้

90+1'
7.5
ตัวสำรอง
8.
โทนี่ โครส

71'
6
2.
ดานี่ การ์บาฆาล

46'
7
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

90+1'
6.5
22.
อิสโก้

74'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Apr 21, 2022 04:44, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ