[RE: ฟูลมูนปาร์ตี้ เกาะพะงัน]
เคยไปฟลูมูนเมื่อปี 2016 ได้มั้งครับ ไปกันกับเพื่อนๆในแกงค์ 2-3 คน พอดีเพื่อนในกลุ่มมีรีสอร์ทอยู่ที่นั้น เราก็เลยไปกันโว้ย มีที่พัก มีไกค์แล้ว ยังไงก็รอด
นั่งเครื่องจากดอนเมืองไปสุราษฎร์ ต่อรถตู้ ต่อเรือเฟอรี่ข้ามฝากที่ท่าอะไรสักอย่าง ตอนนั่งเรือจากท่าเรือคนไม่ค่อยเยอะครับ แต่พอเรือไปจอดที่สมุย ฝรั่งมากันตรึมเลย รู้เลยว่าปลายทางไปฟลูมูนบาร์ตี้กันแน่นอน บนเรือมีครบทุกสัญชาติเลยมั้ง ฝรั่ง แขก จีน ญ๊่ปุ่น เกาหลี มีไทยคือผมกับแกงค์เท่านั้นเอง
นั่งเรือเกือบๆชั่วโมงได้ พอไปถึงเพื่อนก็ขับรถมารับพาไปกินข้าวกินกาแฟ ตอนแรกผมก็นึกว่าฝรั่งจะชอบต้มยำกุ้งเป็นชีวิตจิตใจ แต่ไปร้านไหนก็มีแต่เมนูแนะนำเป็นมัสมั่นไก่ กับต้มข่าไก่ จึงรู้ว่าฝรั่งชอบมากกว่า
ปล.กาแฟเด็ดจริงครับ มีหลายร้านด้วยอร่อยมาก
ปล.2 ไปพะงันนึกว่าจะได้กินแต่อาหารทะเล เพื่อนพาไปกินแต่สเตก แฮมเบอร์เกอร์ อาหารฝรั่งทั้งนั้น อันนี้ไม่ได้ถามเพราะอะไร แต่ร้านขายอาหารทะเลจริงๆหากินยากเหมือนกันนะ ไม่รู้เดี้ยวนี้เป็นยังไง
Spoil
ตัดเข้างานฟลูมูนเลยดีกว่า ด้วยความที่ไทยแท้ 4 คน ไม่ใช้สเปคฝรั่งอยู่แล้วครับ ยิ่งชายไทยส่วนใหญ่ชอบสไตล์เกาหลี ญีุปุ่นมากกว่าด้วย เราเลยกะไปแฮงค์เอ้าอย่างเดียว กินให้อ้วก กินให้ตายกันที่หาดนั้นแหล่ะ แต่คราวนี้ Lกฮ เข้าปาก เห็นฝรั่งจูบกันจะๆเลย พวกเราก็ตาลุกวาวๆ มองซ้ายมองขวาไม่มีใคร ที่ส่งภาษากันพอเข้าใจ ก็ได้แต่กินเหล้าในถังบัตเกตกันไปแบบนั้นเอง
จนเพื่อนที่ทำรีสอร์ท มันเดินออกไปซื้อเหล้าถังเพิ่ม มันก็ไปบร๊ะกับกลุ่มลูกค้าสาวจำไม่ได้แล้วว่าญี่ปุ่นหรือเกาหลี (เมาจัดๆกันแล้ว) มันก็เลยพามากลุ่มเราด้วย เพราะทางกลุ่มนั้นเค้าก็ยืนเก้ๆกังๆ ไม่รู้จะไปตรงไหนดี เพราะทั้งหาดมีแต่ฝรั่งๆๆๆๆ ทั้งนั้น เพื่อนเลยพามาที่เรายืนเต้นกันดีกว่า จะได้ปลอดภัย
คนไทยเจอฝรั่งยังพอสื่อสารกันได้ครับ แต่พอเจอเอเชียด้วยกันภาษาเลยเป็นอุปสรรค พวกผมเลยได้แต่ส่งยิ้มให้กับน้องๆที่มาร่วมแจมด้วย
แต่น้องทั้ง 3 คนไม่ได้เขิลอายอะไรนะครับ ดูท่าแกก็อยากมาสนุกแหล่ะ ขอดื่มเหล้าจากบัตเกตกัน เต้นกันสนุกน่าดู พวกผมสี่คนมองหน้ากันเอาไงดี แต่คนที่ทำรีสอร์ทบอกตามสบายนะ กลุ่มนี้เราไม่ยุ่ง (มารู้ทีหลังว่ามันมีคู่อยู่แล้วเป็นคนสวีเดน เลยไม่ได้สนใจ)
เราก็เออ เอางี้ น้องสามคนนั้นยืนเต้นกับใคร แสดงว่าเค้าก็มีใจให้แหล่ะ ไม่รู้จะแบ่งกันยังไง ถ้าเค้ามีใจก็ค่อยขอช่องสานต่อกันทีหลัง หวังแค่นั้นจริงๆ สรุปไม่แย่งกันดูท่าทีเค้าไป
ดึกขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของรีสอร์ทก็พาสวีดิชมาเต้นด้วย ทั้งกลุ่มก็มองตาโต เพราะสวีดิชที่เค้าว่าอิสระทางเพศสูงนี่ของจริง จริงๆครับ มาถึงเฮฮา ชวนชนนู้นคนนี้ตลอด พอเมาๆเริ่มเลื้อยกับเพื่อนผมแบบ SEX เลย จูบปากอะไรนี่เป็นธรรมดาเลยครับ สามสาวเกาหลีก็มองตาไม่กระพริบเลย คงไม่คิดว่าผู้บ่าวไทยจะกล้าอะไรขนาดนั้น
ตอนแรกสาวๆสามคนนั้นก็เกาะกลุ่มกันแหล่ะครับ เหมือนก็ยังไม่ค่อยไว้ใจพวกผมนัก ก็เลยจับละลายพฤติกรรมเรื่อยๆ ยกดื่มๆ จนทั้งเพื่อนผมทั้งแกงค์สาวๆ เริ่มสนุก เริ่มเต้นกันเป็นคู่ๆ (โชคดีหน่อยที่กลุ่มเพื่อนๆคราวนั้น ต่างมีสเปคที่ตนชอบ ไม่ทับไลน์กันก็เลยลงตัว ที่เหลือก็ฝีมือใครฝีมือมัน) บางคนก็ยืนโอบเอวเต้นที่เดิม เดินกอดคอไปซื้อบัตเกตเพิ่ม หรือชวนไปวงอื่นๆ (หาดมันยาวครับ มีหลายร้าน มีดนตรีหลายวง)
เที่ยงคืนก็แล้ว ตีหนึ่งก็แล้ว เริ่มเพลียครับ แต่ยังไม่สุด สรุปว่าไปต่อทางขึ้นหาดที่เป็นอาคาร (ตอนนั้นก็เมาจำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่ากว่าจะตามไปร้านนี้กันครบแกงค์ได้ หากันยากสุดๆ) หลังจากนั้นเพื่อนเอาอะไรมาให้ลองไม่รู้ ให้สูบๆกันหมดเลยทั้งกลุ่ม ปกติผมไม่ดูดอะไรพวกนี้นะ กลัวติด แต่ตอนนั้นเพื่อนขู่สัมทับว่า มาถึงที่แล้วต้องลอง เดี้ยวไม่ถึง หลังจากนั้นดูดกันตาเยิ้มเลย โดยเฉพาะผู้หญิงเต้นกันสุดเหวี่ยงแบบไม่มีใครยอมใคร จนฝรั่งในร้านสะกิดกันดู พวกผมก็ต้องล้อมหน้าล้อมหลังไว้ กลัวความปลอดภัยของสาวๆกันแหล่ะ
อยู่ร้านนั้นถึงตีสามมั้ง อยู่ต่อไม่ไหวแล้ว ทั้งกลุ่มเลยให้ชวนเพื่อนที่ทำรีสอร์ทกลับ มันบอกว่าเดี้ยวไปโดดน้ำในสระต่อ จะได้ไม่แฮงต์ แล้วก็มีเบียร์อยู่ที่รีสอร์ทด้วย เดี้ยวไปกินกันก็ได้ เลยห้องพักถ้าหนทางสะดวกจะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ไม่ต้องห่วง เดี้ยวมีห้องพักว่างอยู่ จะจัดการให้ พวกผมก็หูผึ่งเลย รีบเรียกรถกลับกัน
ถึงที่พักชวนกันโดดน้ำทั้งแกงค์บ่าวชาย ทั้งแกงค์สาวๆ เล่นน้ำเป็นคู่ๆ สาวเจ้าเค้าก็ไม่หวงเนื้อหวงตัวครับ ปล่อยให้ผมกับเพื่อนๆ หอม ฟัดกันอยู่้ในสระนั้นแหล่ะ จนไม่ไหวแล้ว ปวดหัวล่างไปหมด เพื่อนเจ้าของรีสอร์ทก็เลยเอากุญแจมาให้ 3 ห้อง บอกจัดการกันเอง แล้วเค้าก็ปลีกตัวไปนอนกับแหม่มสวีดิสเค้า เพื่อนๆบางคนก็ขึ้นกันแล้ว ผมเล่นน้ำเป็นคู่สุดท้าย นั่งกินเบียร์ คุยภาษามืออะไรกับเค้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดช่วงที่ผมนอนหงายมองดูท้องฟ้า อยากจะนอนหลับไปทั้งอย่างนั้นเลย ไม่รู้ทำไมคืนนั้นท้องฟ้าสวยที่สุด หูก็ฟังเสียงคลื่นในสระ
น้องเค้าก็หันมาถามเป็นภาษาอังกฤษงูๆปลาๆว่า มัวทำอะไรอยู่ คนอื่นเค้าแยกกันไปนอนหมดแล้วนะ ยูไม่ไปหรอ
ผมตอบน้องเค้าไปว่าไออยากเก็บความทรงจำที่สวยงามของคืนนี้ให้จำไว้ตลอดไปที่สุด น้องก็คงขำกับภาษาอังกฤษงูๆปลาๆผมด้วยแหละ เห็นเค้าหัวเราะคิกๆ
แต่แล้วแทนที่จะนอนหัวเราะเฉยๆ เค้ากลับชะโงกหน้ามาหาผมที่นอนหงายอยู่ และประกบริมฝีปากใส่ผมอย่างงั้น โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ เพราะต่อให้ผมต้องการแค่ไหน มันก็ที่สาธารณะอยู่ดี
น้องประกบปากแลกลิ้นอย่างงั้น ก่อนจะค่อยๆผละออกจากกัน ก่อนเค้าจะบอกผมว่า อันนี้เค้าเสริมให้ จะได้ลืมเค้าไม่ลง ตอนนั้นผมก็รู้แล้วแหล่ะว่า คืนนี้ยังไงผมต้องตกเป็นของเค้าจนได้
ตัดมาที่ห้อง เราเล่นน้ำจนหนาว ไอ้เพื่อนตัวดีก็เปิดแอร์ให้พร้อม เราสองคนวิ่งไปหาผ้ามาห่มแต่พอดีมันมีแค่ผืนเดียว เลยให้น้องห่มก่อน พอน้องแห้งสนิทดี เค้าก็เอาผ้าเชคตัวมาเชคให้ผมบ้าง จังหวะนั้นผมก็ดึงน้องเค้ามากอด เราก็เลยต่อเหตุการณ์จากที่สระน้ำนั้นต่อ
เสื้อคลุมสีขาว กางเกงขาสั้นนั้นน้องเค้าถูกปลดจนเนื้อตัวล่อนจ้อน น้องเค้าตัวสั่นไม่แน่ใจว่าจากอากาศหนาวหรือชายต่างสัญชาติที่พึ่งรู้จักกันแน่ หลังจากยืนมองผมถอดเสื้อผ้าจนหมด เค้าก็อุทานเบาๆว่า เวรี่บิ๊ก...
ความขาวโอโม่ของเค้าทำให้ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ดึงน้องเค้ามาซุกไซ้ที่เตียง หลังจากนั้นกระบวนท่าของตัวแทนประเทศก็งัดออกมาจนหมด เพื่อจะไม่ให้เสียชื่อเสียงกระทบผู้ชายไทยทั้งชาติ
สรุปหลังจากฟลูมูน เราอยู่ต่อกันอีก 3 วัน แยกห้องนอนกันหมดทุกคน ^^
ปล.3 ทางไปหาดริ้นน่ากลัวมาก โค้งหักศอกลงเนินหวาดเสียว เช้าก่อนฟลูมูนผมขี่รถไปตระเวณกับเพื่อน คิดอยู่เหมือนกันว่าเมาไม่น่ารอดโค้งนี้ โชคดีที่มีรถรับส่งเลยง่ายหน่อย
ปล.4 ก่อนฟลูมูน บรรยากาศคึกคักมากครับ มีอะไรให้เที่ยวเยอะ ผมติดใจอันหนึ่งคือสไลเดอร์ยักษ์ ไปเล่นสองครั้ง ครั้งแรกลงผิดท่า เอาด้านข้างลงดัง ตุบบบหนักๆ... ผมก็จุกๆ แต่มันดี คิดว่าไม่เป็นอะไร เลยไปต่อคิวเล่นต่อ ปรากฎว่าฝรั่งมาสะกิดๆ ถามว่า ยูได้รอยช้ำจากเครื่องเล่นนี้หรอ ผมแปลไม่ค่อยออกก็ยกนิ้วกับส่งยิ้มให้ไป หลังจากนั้นฝรั่งกลุ่มนั้นเดินออก ไม่เล่นเลย
ปล.5 เจอคนไทยมาเที่ยวฟลูมูนเยอะเหมือนกันครับ มีทั้งมากับคู่ หรือมาเป็นกลุ่ม แต่ในงานไม่ได้เจอกัน เหมือนต่างคนต่างเที่ยว
ปล.6 เช่ามอไชต์เที่ยวนะครับ คุ้มค่ากว่า ได้ไปหลายหาดด้วย อยากไปกินอะไรเปิดวงในเอาเลย
ปล.7 ยืนฉี่ข้างฝรั่งกลางทะเล เป็นอะไรที๋โรแมนติกมากกกกเกินไปล่ะ
ปล.8 สักครั้งควรไปนะครับ
ปล.9 ไอ้คนที่กินหนักๆ เมาหลับนี่มีจริงนะครับ มันมีเชือกกั้นเลย ฝรั่งนอนกันเกลื่อน สภาพดูไม่ได้ ผมเดินไปเดินมาแถวนั้นยังเกือบจะเหยียบเลย โชคดีที่มีการ์ดคอยดูแล ส่วนใครอาการแย่ๆ ถ้าจำไม่ผิดมีหน่วยพยาบาลคอยดูแลเหมือนกันครับ คุ้นๆนะ หลังๆเริ่มจำไม่ได้แล้วแหละ เมา
สรุปไอ้ที่เพื่อนเอามาให้สูบ เมาๆเคลิ้มๆ เพื่อนบอกเห็ดเมา ผมก็ไม่รู้จัก แต่ไม่แนะนำให้ทดลองครับ ผมยังกลัวติดเลย