'เทพเฟรด'แบก! ผีไร้โด้รอดหวิว VAR เซฟท้ายเกม เจ๊าจิ้งจอก 1-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่มี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ รอดพ้นจากความปราชัยหวุดหวิดหลังได้ VAR ปฎิเสธประตูนาที 80 ของ เจมส์ แมดดิสัน แบ่งแต้มจากเลสเตอร์ ซิตี้ หืดจับ 1-1 หลัง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ยิงให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 นาที 63 ก่อน เทพเฟรด ร่างทองจะซัดตีเสมอ 3 นาทีให้หลัง เก็บเพิ่ม 1 แต้มยังอยู่ที่ 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
23.
ลุค ชอว์

46'
6.5
6.
ปอล ป็อกบา

75'
6.5
39.
สกอตต์ แมคโทมิเนย์

55'
6.5
ตัวสำรอง
31.
เนมานย่า มาติช

75'
6
27.
อเล็กซ์ เตลเลส

46'
6.5
10.
มาร์คัส แรชฟอร์ด

55'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565
กรรมการ อังเดร มาร์ริเนอร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
1
1
เลสเตอร์ ซิตี้
0-1 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ 63'
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนลงสนามอยู่อันดับ 6 พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อทำอันดับให้ติดท็อป 4 ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก เกมนี้เจองานหนักพบเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 10 ที่เริ่มเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้ง
วันนี้ ยูไนเต็ด ไม่มี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ หัวหอกตัวเก่งที่มีอาการป่วย ราล์ฟ รังนิค แก้ปัญหาแนวรุกด้วยการจับ บรูโน่ แฟร์นานเดส ขยับขึ้นไปเล่นเป็น ฟอลส์ไนน์ ใช้ ปอล ป็อกบา เล่นในบทบาทหมายเลข 10 ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ช่วงหลังฟอร์มตก นัดนี้เลยมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง
บาร์นส์ทักทายเจ้าถิ่นเบาๆด้วยลูกโหม่ง
เริ่มเกมไปแค่ 2 นาที เลสเตอร์ได้ลุ้นเล็กๆก่อนจาก ฟรีคิกทางซ้ายของแมคดิสัน เปิดไปเข้าหัวบาร์นส์ เช็คหลุดกรอบข้ามคานออกหลัง
ยูไนเต็ดครองบอลดีกว่านิดๆ
เกมช่วงแรก แมนฯยูไนเต็ด เดินเกมรุกได้ดีกว่าตามเชิง แต่เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังตั้งโซนรับรอโต้กลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพรวมยังดูไม่ห่างกันมาก
ป็อกบาได้โหม่งแต่เบาไป
แมนฯยูไนเต็ด ก็มีโอกาสเหมือนกันจากลูกครอสทางซ้าย บอลมาเข้าหัว ป็อกบา แต่โหม่งเบาไป ชไมเคิล รับกินสบาย
ชไมเคิลซูเปอร์เซฟลูกยิงเน้นๆของบรูโน่
เลสเตอร์ เก็บบอลจังหวะสองไม่ได้ เปิดโอกาสให้แมนฯยูไนเต็ด ได้เดินเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง และน่าขึ้นนำจาก โฟฟาน่า จ่ายบอลพลาดหน้าเขตโทษ ก่อนโดน บรูโน่ ง้างไกยิงเน้นๆ แต่ ชไมเคิล เหนียวหนึบเซฟทีมได้อย่างยอดเยี่ยม
เลสเตอร์ขึ้นเกมสมบูรณ์แบบ แต่อิเฮียนาโช่จบไม่ดี
เลสเตอร์ ขึ้นเกมสมบูรณ์แบบ แต่จังหวะสุดท้าย อิเฮียนาโช่ จับบอลไม่ดี ทำให้ต้องรีบยิง บอลหลุดกรอบทำเสียของสุดๆ
ช่วงนี้เลสเตอร์ดีกว่า บาร์นส์มีโอกาสอีกครั้ง
ช่วงนี้เลสเตอร์ ดีกว่าเยอะ ครองบอลไปมาหาช่องจน แมดดิสัน สบโอกาสครอสบอลจากแนวลึกให้ บาร์นส์ โฉบเข้ามายิงที่เสาสองแต่ลกหลุดกรอบออกหลังไปแบบได้ลุ้น
ยูไนเต็ดเกมรุกไร้ซึ้งความเด็ดขาด
ท้ายครึ่ง แมนฯยูไนเต็ด กลับมาเป็นฝ่ายที่เดินเกมรุกเข้าส่เลสเตอร์ได้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เด็ดขาดพอจะเบิกสกอร์แรกของเกมนี้ได้ พักครึ่งเสมอกันไปก่อน 0-0
ชอว์เจ็บต้องเปลี่ยนให้เตลเลสเล่นแทน
ครึ่งหลัง ชอว์ ที่เจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเตลเลส ลงมาทำหน้าที่แทน
แมคโททำเสียวเล่นเปิดปุ่มได้ใบเหลือง
แฟนยูไนเต็ด เสียววาบ จังหวะแมคโทมิเนย์ ไปสไลด์เปิดปุ่มใส่แมดดิสัน โชคยังดีที่ผู้ตัดสินให้แค่ใบเหลืองเท่านั้น
ยูไนเต็ดส่งแรชฟอร์ดเพิ่มตัวรุก
แมนฯยูไนเต็ด ขยับแก้เกมถอดเอาแมคโทมิเนย์ออก ส่ง แรชฟอร์ด ลงมาเพิ่ศักยภาพในเกมรุก
เรียบร้อย..ยูไนเต็ดโดนจนได้ อิเฮียนาโช่โหม่ง 1-0
ยูไนเต็ดจะเล่นเกมโต้กลับ แต่ถูกดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ตัดบอลได้จากบรูโน่ บอลมาจบที่ แมดดิสัน ครอสจากฝั่งซ้ายให้ อิเฮียนาโช่ ทิ้งตัวโหม่งย้อนทางเข้าเสาแรกไป 1-0 สุดปัญญาที่เด เคอา จะป้องกัน
เฟรดซ้ำจ่อๆตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว
แมนฯยูไนเต็ดกลับมาได้ไว ไล่ตามตีเสมอ 1-1 จากบรูโน่ ยิงนอกกรอบติดเซฟชไมเคิล บอลไม่ตายมาเข้าทางปืน เฟรด ซ้ำจ่อๆ เสียบเพดาน
ซานโช่คืนหลังพลาด ยูไนเต็ดรอดเหลือเชื่อ
ซานโช่ คืนหลังพลาด โดน อิเฮียนาโช่ วิ่งแซงกองหลังฉกบอลเข้าไปชิปมุมแคบแรงไป ลูกเลยเสาไกลไม่ตรงกรอบ
ยูไนเต็ดได้เด เคอา บินปัดบอลทิ้งปลายมือรอดอีกครั้ง
เด เคอา ซูเปอร์เซฟ บินปัดปลายมือลูกโขกของโฟฟาน่า
VAR ยืนยัน แมดดิสัน ยิงเข้าไม่ได้ประตู
สองคู่เซนเตอร์ฯยูไนเต็ด เสียท่าให้ อิเฮียนาโช่ ไถบอลหลุดเข้าไปจ่ายให้แมดดิสัน ยิงมุมแคบเข้าประตูไป
อย่างไรก็ตาม VAR ยืนยันว่า อิเฮียนาโช่ ไปทำฟาวล์วารานก่อน ยูไนเต็ดรอดตัวไปยัง 0-0
ซานโช่ทิ้งโอกาสทองน่าเสียดาย
แมนฯยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทองเป็นผู้ชนะไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ ซานโช่ ยิงฟรีจังหวะอามาร์ตี้ย์ ลื่นล้มในเขตโทษพลาดออกหลัง
แมนฯยูไนเต็ด กดดันหนักมากช่วงท้ายเกมแต่ปิดสกอร์ไม่ลงจบเกมทำได้แค่เสมอเลสเตอร์ ซิตี้ 1-1
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
6.
จอนนี่ อีแวนส์

64'
7
22.
คีแรน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์
7
24.
นัมปาลี่ส์ เมนดี้

90+1'
7
14.
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

90+2'
7.5
ตัวสำรอง
29.
แพตสัน ดาก้า

90+2'
6
20.
ฮัมซ่า โชดูรี่

90+1'
6
18.
ดาเนี่ยล อามาร์ตี้ย์

64'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Sun Apr 03, 2022 01:53, ทั้งหมด 22 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ