ผมเคยอ่านเจอตอนหาข้อมูลรับสมัครครูเอกชนให้แฟนอยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ระบุจริงๆว่าถ้าจะไปสอบบรรจุราชการต้องลาออกก่อน

ซึ่งผมคิดมาตลอดเลยนะว่าโคตรไม่แฟร์ เพราะถ้าแบบนั้นคนที่จะไปสอบต้องเป็นคนว่างงานอยู่นานมาก กว่าจะสอบผ่าน ภาค ก ข ค

ถ้าอย่างสอบไม่ผ่านเลย ก็ต้องว่างงานไปอีกเป็นปี โดยไม่ได้ทำงานในโรงเรียนเลย หรือแม้แต่สอบผ่านแต่ยังไม่โดนเรียกบรรจุ

ระหว่างที่รอนี้ต้องหางานอื่นนอกโรงเรียนทำไปก่อนนานมากๆ ซึ่งผมว่าไม่เป็นผลดีต่อการฝึกฝนทักษะการทำงานของคนที่จะไปเป็นครูเลย

ถ้าให้ลาออกทันทีหลังสอบติดผมว่ายังฟังเข้าใจได้มากกว่า ถ้าปัญหามาจากการกลัวว่าครูที่สอบติดจะลาออกกลางคัน แปลว่ารอบการเรียกบรรจุราชการไม่สัมพันธ์กันกับปฏิทินการศึกษาเลยอะดิ ในเมื่อโรงเรียนมีปิดเทอมอยู่แล้ว เทอมใหญ่เทอมเล็ก ถ้าเรียกบรรจุช่วงนั้นก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

ทีนี้ถามต่อว่า แล้วถ้าครูจะตั้งครรภ์ขึ้นมานี่ต้องมีการขออนุญาตหรือจัดลำดับอะไรแบบนั้นมั้ย เพราะถ้าเกิดครูในโรงเรียนท้องพร้อมๆกันแล้วต้องถึงช่วงลาไปคลอด ลาไปเลี้ยงลูก แบบนั้นโรงเรียนจัดการปัญหานี้ยังไง?


ส่วนกรณีนี้ผมยังงงเลยว่าโรงเรียนจะเสียหายยังไงในเมื่อโรงเรียนจะปิดภาคการศึกษาอยู่แล้ว แถมครูแกสอบได้ลำดับที่ 1 เลยด้วย

แปลว่ายังไงต้องถูกเรียกไปบรรจุในเวลาไม่นานนี้แน่นอน ไม่ได้อยู่ลำดับถัดๆไปที่ไม่รู้ว่าจะถูกให้ไปบรรจุรอบไหน น่าจะจัดการปัญหาดีกว่านี้  

โรงเรียนเอกชนหลายๆโรงเรียนเจอปัญหานี้หลายโรงเรียนเลย..เลยต้องมีกฎของโรงเรียนต้องยื่นลาออกก่อน ค่อยไปสอบ โรงเรียนจะได้วางแผนถูก...รับสมัครครูคนใหม่อะไรก็ว่าไป..มันมีกรณี ไปสอบแล้วติด..ครูก็จะออกไปดื้อๆเลย เพราะฉันสอบติด โรงเรียนต้องหาครูคนใหม่แทนกลางคัน..มันเป็นปัญหายิบย่อยตามมา...ถ้าไม่ติดก็อยู่ต่อ..รอสอบครั้งต่อไป...กลายเป็นว่า..มาสอนโรงเรียนนี้แบบไม่ตั้งใจ..มาทำงานแบบฆ่าเวลาเฉยๆ...ผลก็ตกไปอยู่ที่นักเรียนแบบเต็มๆ จาก (ประสบการณ์ตรงส่วนตัว)  

คือเค้าจัดสอบก่อนครับ ถ้าสอบติดทำเรื่องโน่นนี่นั่นก็เปิดการศึกษาพอดี.
แต่มีครูบางคนพอสอบติดปุ๋บ แม่ลาออกปั้บ ทิ้งนักเรียน ทิ้งโรงเรียนไปเลย ยิ่งใกล้ปิดเทอมครูแต่ละคนจะงานยุ่งมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว(ใกล้ปิดเทอมคือต้องเตรียมสอบ สรุปรายงาน เคลียร์งาน รายงานค้างทั้งของ นร.และของครู ETC.) ถ้ามาออกตอนใกล้ปิดเทอมนี่ยิ่งบรรลัยเลย.
เรื่องลาคลอด โรงเรียนมีเวลารู้ตัวหลายเดือนครับ ยังพอเตรียมตัวได้.
และพวกการสอบพวกนี้มันสอบพร้อมกันหมดครับ บางทีออกที 3-4 คนมันเดือดร้อนกว่าที่คิดครับ และไอ้พวกที่ออกกลางทางนี่ ชอบบบบบบบบบบบบมาชวนเพื่อนให้ออกไปด้วย ไปเที่ยวทิ้งทวนบ้าง ทำงานไปเพื่อไรเด๋ยวก็ย้ายแล้วบ้าง....

 

เหมือนทำบริษัทแล้วจู่ๆ ออกกลางคันนี่แหละ บริษัทต้องรีบหาคนใหม่ให้ได้ เรื่องหวังอยู่นานนี่น้อยราย
เปิดสอบราชการนี่ถึงจะจัดเวลาไหนก็มีเวลาเผื่อให้เตรียมตัวทั้งประกาศสอบ รับสมัคร สอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ และรายงานตัวนะ ต้นสังกัดถ้ารู้ข่าวก็เรียกไปคุยและวางแผนกับคนที่สอบติดก็ยังได้ ว่าจะอยู่ต่อไหม ถ้าไม่ ก็นัดแนะส่งงาน บอกวันแน่นอน โรงเรียนจะได้รีบประกาศหาคนใหม่

แต่ถ้าเอาตามข่าวก็อ้างเคสแบบ "ครูบางคน" มาอ้างความชอบธรรมที่โรงเรียนจงใจออกประกาศให้อับอาย ปลดออกจากตำแหน่ง ไม่ได้อยู่ดีครับ ในเมื่อระเบียบมันขัดกับกฎหมายที่ศักดิ์สูงกว่า  

โรงเรียนแย่ ไม่จูงใจบุคลากรให้อยู่ต่อเอง มันก็เหมือนงานบริษัทอ่ะ บางคนทำงานบริษัทได้เงินเยอะ กว่าข้าราชการเขาก็ไม่อยากไปสอบข้าราชการไหม ซึ่งโรงเรียนควรสู้ทางนี้ ไม่ใช่มาออกกฏว่า ห้ามไปสอบราชการนะ แบบนี้ไม่แฟร์กับตัวลูกจ้างเลย โรงเรียนนี้ก็ไม่ใช่กระจอก ลูกคนมีเงินทั้งนั้นที่เข้าไป