[RE: ทำไมเด็กไทย ยิ่งโตไปยิ่งไม่มีคุณภาพ ??]
markmadrid พิมพ์ว่า:
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยครับ เพราะจำได้ว่าเคยมีคนของญี่ปุ่นเคยพูดถึงไทยไว้แล้วเหมือนกันว่าไม่ควรใช้งานเด็กผิดประเภทไม่เยอะ
อย่างญี่ปุ่นและยุโรป จะเปิดให้คนในพื้นที่มาฝึกอคาเดมี่กันเยอะ ให้โอกาสกับเด็กเยอะ และให้เด็กแข่งขันระดับรุนแรงน้อยเพื่อให้รักษาสมรรถภาพทางร่ายกายในเหมาะสมกับวัยไว้ และไปเน้นซึมซับระบบกับเบสิคให้มาก
ต่างกันกับไทยเลย อคาเดมี่ไทย จะเน้นฝึกลงทีมและส่งเเข่งขันเดินสาย หรือไม่ก็กระชับมิตรกันเยอะมาก จะเห็นได้ชัดว่าเด็กไทยในวัย13-16 ปีแมร่งโครตเก่ง เจนจัดในสนาม ผ่านสมรภูมิรบมาเยอะ เวลาไปแข่งกับต่างชาติมักจะเห็นเลยว่าข่มได้อยู่ สู้ได้หมดทั้งโลกอะ ถ้ามีบอลโลก รุ่น12-16ปี ไทยน่าจะเป็นขาประจำของเวทีนี้เลย
แต่......ทำไมไทยถึงร่วงลงมาเรื่อยๆตั้งแต่รุ่น 18 ปี ต่อมาจน 23 พอไปชุดใหญ่ คือ อยู่ในจุดเดิมหมดจดไม่มีหลุดรอดไปสักคนเลย
อย่างที่หลายๆท่านบอกและอ้างอิงมาเลย
1.เด็กไทยมักจะดึงตัดคัดตัวและให้โอกาสกับคนที่เทพตั้งแต่เด็กเสมอ
-ข้อนี้โครตจริง เด็กไทยเสียโอกาสเยอะมาก ลองดูทีมชาติดิ ส่วนใหญ่คือขาประจำตั้งแต่เด็กแล้ว เราให้โอกาสเด็กอื่นๆน้อยมาก อคาเดมี่วิ่งหาแค่เด็กดังในตอนเด็กแล้วรับมาอุ้มเลี้ยงในสโมสรใหญ่ไปต่อ ในขณะที่เด็กอื่นๆแทบไม่ได้โอกาสมากนัก ต่างกันกับต่างชาติเลยที่เปิดกฎบังคับอคาเดมี่เยอะมาก เด็กได้โอกาสเยอะ และไปในจุดทีควรจะเป็น
2. เด็กไทยคัดตัวเก่งมาลงแข่งตั้งแต่เด็ก
-อันนี้ก็จริง อย่างที่เห็นเด็กไทยลงแข่งบ่อยมาก เจนเวทีสุดๆ มีอนาคตไปไกล และชนะต่างชาติได้สบายๆ แต่ก็เหมือนที่หลายคนวิเคราะห์ไว้ ว่าชุดที่ไทยไปเจอ มันไม่ใช่การคัดเด็กที่เก่งที่สุดในยุโรปมาเจอไทย เหมือนที่ไทยคัดเด็กที่เก่งที่สุดในไทยส่งไปเจอเขา ของเขาให้โอกาสกับเด็กในพื้นที่ไว้เป็นข้อบังคับ เรียกง่ายๆคือ เราเอาเด็กที่เก่งทีุ่สดในไทยไปแข่งกับเด็กในพื้นที่ที่ใช้ชื่อสโมสรดังๆประมาณนั้น
3.โตไป ตปท.ก้าวกระโดด แต่เราจมอยู่กับที่
-ก็จริง เนื่องจากเราดูดีเจนจัดแต่เด็ก แต่สุดท้ายร่างกายเดินทางผิดประเภท จากตอนเด็กสูง 170กันไว แต่โตไปก็ไม่เกิน 180กันเลย ร่างกายบางลง คนไหนมีแววก็ข้อเท้าพังร่างกายพังก่อนเพราะใช้งานมาหนักและผิดประเภท ไม่มีโภชนาการเสริมกล้ามเนื้อ ต่างกันกับต่างชาติ ที่เติบโตมาเรื่อยๆซึมซับระบบและเบสิค และได้โภชนการอย่างดี พอกระดูกแข็ง ก็ส่งไปคัดเกลาให้เจนเวที แล้วทีนี้ค่อยมาคัดพวกเทพๆออกมารวมกันแบ่งออกส่งแข่งในลีคที่มีคุณภาพขัดเกลาต่อไป สุดท้ายทุกคนไปจบที่ 185+190 และแข็งเกร่งตามเกณฑ์กันหมด พอตอน 23เจนเวทีกันครบก็กดไทยอยู่หมัดเหมือนๆเดิม
ผมเห็นด้วยมาเสมอเรื่องระบบ เรื่องอคาเดมี่ และโภชนาการ ว่าเราควรใส่ใจและปรับใหม่ในสากลแล้ว ไม่ใช่รอโตแล้วไปเอาโค้ชต่างชาติดังๆมามันก็แค่นี้ เราควรนำเข้ามาตั้งแต่เด็กๆไปเลย สร้างอคาเดมี่ใหม่ให้ยั่งยืนกว่านี้
ค่อยพัฒนาดูแลเด็กไทยให้ดีขึ้น ให้โอกาสและพัฒนาคุณภาพลีคให้รองรับให้ดี พร้อมแล้วค่อยส่งมาขัดเกลาอีกทีก็ได้
เราอย่ามัวมาท่องแค่ว่า ทำไมเจไปได้ไกลในวัย20ปลายพร้อมสูง 156 ทำไมแวรรัตติถึงยังเล่นระดับสูงได้
เห้ยยย คำพูดแบบนี้ไม่ต่างจากพูดว่าไม่ต้องจบ ป.ตรีก็รวยได้เลยนะ
คือมันใช่แหละ แต่มันส่วนน้อยไง ยังไงอัตราคนตกงานของคนเรียนไม่จบมีเยอะกว่าเสมอ และคนจบก็มีอัตราประสบความสำเร็จมากกว่าเสมอ
นั้นแหละคือคำตอบ คือ เราต้องทำให้เด็กไทยประสบความสำเร็จขั้นแรกให้ได้ก่อนส่งออกไปพัฒนาแข่งขันต่อเนื่อง
ฉกฉวยโอกาสให้เปอร์เซ็นน้อย หรือ รับโอกาสในเปอร์เซ็นเยอะ อันไหนจะไปเร็วกว่ากันละ ถูกไหม
ผมโคตรเห็นด้วยกับข้อ 1 เลยครับ
ยกตัวอย่างเช่นอเมริกันเกม เราสังเกตได้เลยว่าดราฟต์ที่อันดันไม่ดีในตอนแรกๆ
มักจะไปเป็นสุดยอดผู้เล่นในช่วงเวลาที่เหมาะสมทั้งนั้น
ยกตัวอย่างเช่น
Manu Ginobili
Isaiah Jamar Thomas
Marc Gasol
Nikola Jokic
ถ้าอยู่ที่ไทยอาจจะไปเป็นพนักงานที่ไหนซักที่
เป็นตัวแทนไปแข่งในการประจำปีอะไรแบบนี้ครับ
นั่นทำให้เราพลาดผู้เล่นที่กำลังพัฒนาไปเยอะมากๆ
ซึ่งบางคนไปได้ไกลกว่าคนที่พัฒนาไปเรียบร้อยแล้วเสียอีก
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ผมเคยไปกับน้องชายคัดตัวที่ รร กีฬา จังหวัดหนึ่ง
ซึ่งสมัยนั้นฮอตฮิตมากๆ มองย้อนไป การคัดตัวนี่มันเป็นแบบนี้จริงๆ
เค้าต้องการคนที่เป็นแล้ว แต่ไม่ได้เฟ้นหาคนเพื่อไปพัฒนาซักเท่าไร
ทำให้ต้องมุ่งไปสอบในสายสามัญทั่วไป ซึ่งก็ไม่ได้มีช่องทางในด้านฟุตบอลอีกแล้ว
ดังนั้นเราคงต้องย้อนมาดูกันแล้วว่า อะคาเดมี่ของเรานั้น
วัตถุประสงค์จริงๆ แล้วคืออะไร เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน