ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 1921
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 25, 2022 08:23
Top Comment สงสัย เทน ฮากแกตอบโจทย์แมนยูจริงๆ หรอ คือปั้นดาวรุ่งเก่งไม่เถียง
เอาแบบยาว ๆ เลยนะ ผมเคยพิมพ์ไว้ที่นึง
คุณอาจจะมองว่า Ajax คุมลีก ครองความยิ่งใหญ่แต่เพียงทีมเดียวในลีก แต่คุณรู้มั้ยว่า Ajax ห่างหายแชมป์ลีกมาตั้งแต่ปี 2013-2014 ซึ่งฤดูกาลสุดท้ายที่ได้แชมป์ลีกก็คืออีกหนึ่งฤดูกาลหลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รีไทร์นั่นแหละ กล่าวง่าย ๆ คือ แชมป์ลีกครั้งสุดท้ายห่างจากแชมป์ลีกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งสุดท้ายแค่ปีเดียว และ Erik ten Hag คือคนแรกที่พา Ajax กลับมาเป็นแชมป์ลีก Eredivisie อีกครั้ง และผลงานยุโรปปี้นี้ก็ชนะรวดแบบ Perfect win เลย ไม่มีเสมอหรืออะไร เล่นกับ ดอร์ทมุนต์ ทีมที่มี ฮาลันด์ ชนะมาแบบเหนือ ๆ สกอร์ขาดลอย คือเจอ เบนฟิก้า เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นได้ นี่มันรายการแชมป์เปี้ยนส์ลีก มีแพ้ชนะได้หมดแหละ แต่ถ้าคุณดูจริง ๆ จะรู้ว่า Ajax เล่นเหนือกว่าขนาดไหนเพียงแต่วันนั้นนักเตะมันนัดกันยิงนกกันซะเยอะ มาเจอฟรีคิก ดาร์วิน นูเนส โหม่งเข้าไปจังหวะเดียวตกรอบเลย แต่มันเป็นอะไรเข้าใจได้ ทำได้ขนาดนี้กับงบเสริมนักเตะที่ไม่ได้ครึ่งของงบทีมกลางตารางพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ
เข้าใจแหละว่าอาจจะไม่ไว้วางใจผู้จัดการทีม CV สะอาด ประสบการณ์ไม่เยอะ หรืออาจจะชอบผู้จัดการทีมเคี่ยว ๆ แทคติคเยอะ ๆ เก๋า ๆ ประสบการณ์เยอะ ๆ หรือเคยเจอผลงานผ่านตา หรืออาจจะไม่ชอบบอลเกมรุกมากเกินไป ชอบความบาลานซ์ ๆ Tactician แก้เกมตลอดทั้งเกม 1-0 คุมเกม แบบนั้น คือผมต้องบอกว่ารสนิยมและความชอบนั้นไม่ผิด คนเราชอบแตกต่างกันได้ อะไรที่แตกต่างกันเราก็หยิบยกมา discuss กันว่าทำไมเราถึงเห็นเช่นนั้น
ที่ผมเลยนะ "ยกตัวอย่างผมคนเดียวเลย" ที่ผมชอบ Ten Hag เพราะ Mindset การทำทีมและ Attitude ต่อการมองฟุตบอลของเขาเลย
จำปีนั้นได้มั้ย ฤดูกาล 2018-2019 ที่ Ajax ชนะ Real Madrid แบบ Outclass แล้ว ดูซาน ทาดิช ได้เรตติ้งเต็ม 10 จากนิตยสาร France Football
นักข่าวไปถาม ทาดิช ว่า.. "ทำไมคุณถึงมักมีท่าพลิกแพลงใส่สกิล หรือชอบใช้ทริคจ่ายบอลแบบครีเอทีฟ เล่นในจังหวะเสี่ยง ๆ คุณไม่กลัว Erik ten Hag ผู้จัดการทีม ด่าว่าคุณเล่นเสี่ยงเกินไปหรอ"
ทาดิช ตอบว่า "ผู้จัดการทีมเป็นคนบอกให้เราลงไปเล่นสร้างความครีเอทีฟ เล่นฟุตบอลให้สนุก เล่นฟุตบอลที่สวยงาม นั่นแหละคุณจะไม่โดนตำหนิและผู้จัดการทีมจะกล่าวชื่นชมคุณ แต่ Ten Hag จะด่าหากคุณไม่สร้างจังหวะครีเอทีฟ เล่นแบบไร้ไอเดีย คุณจะจ่ายบอลปลอดภัยขวางสนามไปมา หรือส่งบอลคืนหลังเพลย์เซฟก็ได้ แต่นั่นแหละ Erik ten Hag จะด่าคุณ"
คำพูดนี้แหละที่ impressed ผม หลังจากนั้นผมติดตามผู้จัดการทีมคนนี้อย่างใกล้ชิด เพราะมี Mindset ที่ตรงกัน แบบเทสรสนิยมการมองฟุตบอลมันตรงกัน ถ้าคุณเคยเจอใครที่เป็นแบบนี้และมีความคิดในแบบที่คุณชอบคุณจะติดตามเขาเป็นพิเศษ ผมติดตามวิธีคิดการทำทีมของ Ten Hag ก่อนที่จะมีข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่คนจะ Hype กัน ฉะนั้น Opinion หรือความคิดเห็นของผมตัดเรื่องการไหลตามกระแสสังคมไปได้แน่นอน
สิ่งที่ผมชอบในผู้จัดการทีมคนนี้คือเขาเป็นพวก Proactive ไม่ใช่ Reactive คือเขาจะเล่นตามแบบฉบับที่เขาจะเล่น เขาไม่สนใจว่าคู่ต่อสู้จะมาเล่นยังไง เขาไม่ได้มาแก้มือแก้เกมที่คนอื่นวางไว้ให้ แต่เขามา Deal with it หรือ "จัดการกับมัน" กล่าวคือ เล่นตามแบบตามสไตล์ของเรา อย่าเอาเวลาไปคิดเรื่องฝ่ายตรงข้ามจนเล่นไม่เป็นตัวเอง ไม่ต้องไปจำว่าผู้เล่นกองหลังฝ่ายตรงข้ามใส่รองเท้าไซส์ไหนเบอร์อะไร แต่เอาเวลามาคิดเอาเวลามารีดฟอร์มเค้นศักยภาพฝึกซ้อมจดจำระบบการเคลื่อนที่ ให้ทีมเราเล่นในระบบของเราให้ออกมามีประสิทธิภาพที่สุดในการเจอกับทุกทีม ไม่ว่าเจอกับทีมไหน คู่แข่งเป็นใคร
คนที่ต้องมาปรับตัวรับมือกับเราคือฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เรา เล่นในแบบที่เป็นตัวเองไม่ว่าเจอกับใคร
Ten Hag เคยบอกลูกทีมเวลาเจอทีมใหญ่ว่าอย่าไปกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใคร หรือเป็นทีมใหญ่แค่ไหน แค่เล่นในแบบที่เป็นเรา เล่นในสไตล์ที่เราฝึกซ้อมกันมา แล้วลดความผิดพลาดให้น้อยที่สุด (ในที่นี้เช่น ยิงพลาด, มีโอกาสจบไม่คม, เข้าบอลโฉ่งฉ่างโดนใบแดง, หลุดสมาธิ ฯลฯ) กล่าวคือเขาเชื่อในระบบ แค่ลดความผิดพลาดแบบ individual ส่วนตัวของนักเตะแค่นั้นพอ ประมาณว่าอย่าสร้างช็อต Error ในเกม แล้วชัยชนะจะตามมา
เนี่ยมันเป็นความคิดของทีมใหญ่ คุณเคยเห็น แมนฯ ซิตี้, คุณเคยเห็น ลิเวอร์พูล เจอทีมอื่นแล้วต้องมาคิดไหมว่าจะต้องรับมือกับทีมอื่นยังไง "ลงเล่นกับ คริสตัล พาเลซ ต้องรับมือยังไงดี..?" อะไรแบบเนี้ย ผมไม่เอาไม่อยากให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องมาเป็นแบบนั้น แบบ 10 นัด เล่นไม่เหมือนกันซักนัด(เรื่องนี้ ราล์ฟ รังนิค เคยให้สัมภาษณ์ว่า "อยากทำ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้มี Character เหมือนที่ แมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูลเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น) เพราะการที่คุณจะไปถึงจุดสูงสุดหรือเป็นทีม อันดับ 1 ของโลกเนี่ยคุณต้องมี Character ไง
เพราะแค่เล่นในสไตล์ของเขาไม่ว่าเจอกับทีมไหน ทีมอื่นต่างหากที่ต้องมาคิดว่าจะต้องรับมือกับผู้จัดการทีม 2 คนนี้หรือทีมที่ผู้จัดการ 2 คนนี้คุมยังไง นั่นคือแนวคิดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ถ้าคุณฝึกระบบนั้นจนร่างกายสมองนักเตะจดจำและทำมันได้แบบอัตโนมัติแล้วเนี่ยคุณแทบไม่ต้องเป็นกังวลเลย คุณแค่พัฒนาศักยภาพและระบบของคุณไป เรื่องไปแก้ปัญหาของคนอื่นอย่าเอามารบกวนการเตรียมทีมจนพาลลนเล่นไม่เป็นตัวเอง
และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดที่ผมอยากย้ำเลยคือผมชอบผู้จัดการทีมที่เป็นคนที่มีแนวคิดประเภท Proactive มากกว่า Reactive
ไม่ใช่แค่ผู้จัดการทีมหรือเรื่องฟุตบอลแต่หมายถึงสังคมการทำงานของเราด้วย ผมชอบคนที่เป็นบุคคลประเภท Proactive มากกว่า Reactive ในเวลาจ้างพนักงานผมก็จะสอนลูกน้องผมให้ทำงานแบบ Proactive มากกว่า Reactive ไม่ใช่คนที่..เจอเหตุการณ์เจอคำสั่งแล้วค่อยมาคิดว่าจะรับมือกับสถานการณ์ยังไง แต่ให้เตรียมทุกอย่างให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์เลยไม่ว่าคุณจะเจอสถานการณ์ไหนก็พร้อมที่จะรับมือกับมัน เหมือนเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วเรียบร้อย
อย่าเข้าใจผมผิดว่า Reactive นั้นไม่ดี แต่นั่นไม่ใช่วิธีการคิดของทีม หรือการทำงานที่จะเป็นอันดับ 1 คุณลองนึกถึงสำนวนไทยคำว่า "วัวหายล้อมคอก" ดูสิ
การเป็น Reactive ที่ดีนั้นก็คือการที่คุณเป็นบุคคลประเภทจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี แก้ปัญหา สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่บางครั้ง..เราสามารถหยุดสถานการณ์ที่มันควบคุมไม่ได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นได้ จากการที่เราเป็น Proactive
นั่นคือเหตุผลที่ผมชอบ Erik ten Hag ผมไม่รู้ว่าเขามาแล้วมันจะดี/ไม่ดี มันมี X Factor ปัจจัยหลายอย่างที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าถ้ามาแล้วจะดีหรือไม่ดี อาจจะด้วย กลุ่มนักเตะ, ผู้บริหาร, การเมืองในทีม, บรรยากาศในทีม, นักเตะไม่เอาการฝึกซ้อมวินัยหย่อนยาน, ปัจจัยภายนอกภายในอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ถ้าต้องเจอเรื่องเหมือนกันอุปสรรคเหมือนกัน ผมก็อยากให้ Ten Hag เป็นคนพาทีมผ่านปัจจัยและอุปสรรคพวกนี้ไปมากกว่า
คืออุปสรรคมันมีแน่ แต่เราขอวางความเสี่ยงไว้ในมือของคนที่เราวางใจดีกว่า คือถ้าเราไม่รู้ผลลัพธ์ และมี Choice ที่ต้องเลือกฝากชีวิต เราขอเลือกแนวคิดที่ตรงกับเรา แนวคิดที่เราคิดว่ามันต่อยอดได้ การตัดสินใจที่เราแฮปปี้ และซื่อสัตย์กับตัวเราเองดีกว่า อย่างน้อยมันก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ทำอย่างนั้นนะ(สมมติ Ten Hag ไปสานต่อ Pep Guardiola ที่ แมนฯ ซิตี้ แล้วติดลมบนต่อเนื่อง ทำทีมครองเกมต่อบอลสวยงาม เราก็จะมานั่งเสียใจทีหลังและเสียดายมากกว่าที่เรามัวแต่ลังเลไม่เลือก กลับกันถ้าเป็น Pochettino ไปทำ แมนฯ ซิตี้ แล้วดี เราก็ไม่เสียใจอะไรมากแล้วไง เพราะเราก็เคยเห็นฝีมือการทำทีมของ Pochettino ผ่านหูผ่านตาจากการทำ ท็อตแน่มฯ มาแล้ว
และ อิตาลี ตกรอบ ก็ไม่อยากให้ไปเอา มันชินี่ ไม่อยากให้เปลี่ยนเป้าหมายนะ ถ้าจะเอา เทน ฮาก ก็เอา เทน ฮาก เป้าหมายชัดเจนไปเลย ไม่ใช่เปลี่ยนมาเอา มันชินี่
Choice แรกของผมมาตลอดคือ เทน ฮาก ถ้าไม่ใช่ เป็ป, คล็อปป์ หรือ ฮานซี่ ฟลิค ก็ไม่มีใครทดแทนได้แล้ว
บางครั้งเห็นหลายคนอยากได้ เอ็นริเก้ บ้างอะไรบ้าง ตอนนั้นแฟนบาร์เซโลน่ายังเรียก "อินดี้เก้" อยู่เลย เข้าใจว่า 3 แชมป์ แต่ตอนนี้อยากได้รูปแบบการเล่นและระบบแบบยั่งยืนมากกว่าแชมป์แล้ว อย่าลืมว่า มูริณโญ่ ก็คุม อินเตอร์ 3 แชมป์
อยากเป็นแบบ แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช่แบบกุนซือออกไปแล้วเละ ไม่เหลือระบบอะไรไว้ให้ต่อยอดเลย เหมือน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 27 ปี กวาดแชมป์ให้แมนยูมาตั้งเท่าไหร่ หรือ มูริณโญ่ ออกจากอินเตอร์ ออกไปมีระบบอะไรเหลือไว้ให้บ้าง ไม่อยากยึดติดกับแค่ตัวกุนซือแล้วอ่ะ อยากให้ระบบรันสโมสรเดินได้ด้วยตัวมันเอง