ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
22 March 2022 22:47 by เบน ฟรีคิก
จุดอ่อน “แลมพ์” บิ๊วอารมณ์เกมเยือนไม่ขึ้น






การที่ เอฟเวอร์ตัน แพ้ คริสตัล พาเลซ เละเทะ 4-0 ร่วง เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจใดๆเลยเพราะชั่วโมงนี้ แฟร็งค์ แลมพาร์ด ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าสร้าง “แรงจูงใจ” แบบนัดต่อนัด

กล่าวคือการบิ๊วอารมณ์ลูกทีมตอนนี้ทำได้แค่เฉพาะยามเล่นใน กูดิสันพาร์ค เท่านั้นเพราะเมื่ออยู่ในฐานะทีมเยือนความใจสู้ภายในไม่กี่วันกลับต่างกันลิบลับ

หากใครได้ดูเกมกลางสัปดาห์เมื่อวันพฤหัสที่ 17 ที่ “ท๊อฟฟี่” เบียดเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 เป็นเกมที่เดือดเลือดพล่านจนเหมือนเรากำลังดู เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์ ในอีกเวอร์ชั่นที่ฝั่งตรงข้ามไม่ใช่ ลิเวอร์พูล

โดยตลอดทั้งเกมต้นจนจบนักเตะ เอฟเวอร์ตัน ใช้พละกำลังในด้าน physical ไปเยอะมาก จุดนี้เข้าใจได้ว่าเล่นใน กูดิสัน พาร์ค และเป็นจังหวะอันดีที่จะหลุดจาก 22 แต้มที่เท่า วัตฟอร์ด ทีมอันดับ 18 (โดยที่ยังเตะน้อยกว่า 2 นัด)

ประเด็นที่น่าสนใจคือความขยันและวิ่งเป็นม้าของนักเตะเจ้าถิ่นเกิน 50% เป็นการเข้าบอลแบบทั้งตัวทั้ง ผลัก,ดึง,เตะติดดาบ ลูกคาบลูกคาบดอกถ้า “สาลิกา” ใจไม่ถึงพอคือคุณลงเปลแน่นอน

สาเหตุที่การเข้าบอลในลักษณะนี้เกิดขึ้นแทบทั้งเกมสืบเนื่องมาจาก เคร็ก พาวสัน ผู้ตัดสินแกตั้งมาตรฐานอยู่ในระดับที่ “เดือด” กว่าเกมอื่นๆจนมีแค่ 3 ใบเหลือง

แรกๆแกก็มีปล่อยบ้าง พอเสียงแฟนบอลโห่กดดันก็เริ่มปล่อยสลับๆจนเป็นเหตุทำให้ผู้เล่น “สาลิกา” เริ่มไม่พอใจ ตรงกันข้ามฝั่งเจ้าถิ่นยังใช้ความหนักเป็นอาวุธเพราะเรื่องการครองบอลการขึ้นเกมสู้เด็กๆของ เอ็ดดี้ ฮาว ไม่ได้เลย

วันนั้น นิวคาสเซิ่ล ครองบอลหนักมากถึง 61.5% โอกาสยิงเกือบ 20 หน (17) ทรงบอลช่วงหลังๆแข็งโป๊ก นักเตะหลายคนตอบสนองผู้จัดการทีมว่าหน้าที่และการเล่นมีอะไรบ้าง

ในขณะที่ใบแดงของ อัลลัน มาออกช่วงนาที 80 ซึ่งในการเล่นฟุตบอลอย่างที่ผมบอกมาตลอดว่ายิ่งเวลาเหลือน้อยการทำฟาว์ลตัดเกมในขณะที่คู่แข่งกำลังสวนมีโอกาสถูกแจกมากกว่าช่วงต้นเกม (ครึ่งแรก,ต้นครึ่งหลัง บลาบลา)

บวกกับลักษณะท่าทางที่เป็นการกระโดดตัวลอย 2 ขาแล้วไปตามน้ำคีบเขี่ยเป็นปลาดิบอีกทีเพื่อเมคชัวร์ว่าล้มแน่ๆทำให้ผู้ตัดสินซึ่งวิ่งไปดู VAR โดยมีธงในใจเรียบร้อยเนื่องจากทีมงาน VAR เรียกให้ไปดูแสดงว่าชี้นำไปก่อนว่ารุนแรงพอที่จะเป็นใบแดง

แต่ผมชอบการวิเคราะห์ของพวกฝรั่งที่ค่อนข้างลงลึกในประเด็นให้เราได้พยักหน้าหงึกๆตาม (แถมไม่ค่อยเกรงใจคู่สนทนา) ซึ่งไม่เหมือนบ้านเราที่อาจจะไม่ค่อยได้อะไรมากไปกว่าเรื่องพื้นๆเช่นพวกเขามีความมุ่งมั่น, ต้องดูว่าจะยิงได้หรือไม่อย่างไรจะแก้เกมแบบไหนหรืออาจได้เสียงเชียร์ทำให้พวกเขาเล่นดีในเกมนี้ ฯลฯ

อลัน เชียเรอร์ วิเคราะห์เอาไว้น่าฟังตรงที่ว่าการแจกใบแดงของ เคร็ก พอว์สัน หนนี้มีปัจจัย reaction จากเกมก่อนหน้านี้ที่ นิวคาสเซิ่ล บุกไปแพ้ เชลซี 1-0

พอว์สัน ยืนกรานที่จะไม่เปลี่ยนจากใบเหลืองเป็นใบแดง (หลังมีการเช็ก VAR) จากเหตุการณ์ที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ กางศอกจามใส่ แดน เบิร์น จนกระแสวิจารณ์ออกมาค่อนข้างเยอะ (แกเองน่าจะรับรู้ได้)

ดังนั้นพูดจาภาษาบ้านๆคือ พอว์สัน “ชดเชย” คืนให้ “สาลิกา” และ ฮ็อตช็อต ยืนยันว่าจังหวะนี้แม้จะเป็น strong yellow card แต่พลาดมหันต์ที่ยังยืนกรานคำเดิมหลังไปดู VAR

แต่ด้วยการเข้าบอลแบบถึงลูกถึงคนตรงนี้เองครับที่ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ตัดบอลจากกลางสนามและได้ประตูชัยในนาที 90+9 ทั้งๆที่เหลือ 10 ตัว พ้นจากจังหวะนี้ไปแล้วผมเชื่อว่าการทะลุหลุดมาตรงกลางแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว

ครับหลักๆที่วันนี้ผมหยิบยกเรื่องราวของ เอฟเวอร์ตัน ขึ้นมานั้นมันมีจุดที่น่าสนในตรงที่ว่าจนถึงตอนนี้หลายคน (รวมถึงแฟนท๊อฟฟี่เอง) ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัว แลมพ์ ซักเท่าไหร่

เพราะเกมการเล่นค่อนข้างอิงไปกับการวิ่งสู้ฟัดในบ้านซะเป็นส่วนใหญ่และต้องมาวัดดวงด้วยว่าผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่จะวางความหนักเบาในการเข้าบอลไว้ต่างกันแค่ไหน

แต่พอออกนอกบ้านแรงจูงใจที่ได้จากการบิ๊วของแฟนบอลไม่มีความฮีกเหิมหายไป จังหวะวิ่งสู้ฟัดแตกต่างโดยสิ้นเชิง

บางจังหวะวิ่งตามตัวประกบอยู่ดีๆก็หยุดดื้อๆ ทำให้ พาเลซ ได้ประตู 2-0 ทั้งที่ในกรอบมีผู้เล่นของ “เดอะ อีเกิ้ลส์” พื้นที่เสาแรกแค่คนเดียวแต่ เอฟเวอร์ตัน ยืนกันหน้าสลอน 4-5 ตัว

“ท๊อฟฟี่” ควรต้องเริ่มมีแต้มจากการเล่นนอกบ้านให้ได้บ้าง (แม้กระทั่งเจอ นอริช ยังบุกไปแพ้) ถ้าหากเกมเยือนยังแพ้ไม่เลือกหน้าและขาดลอยไร้ทางสู้แบบนี้ต่อไปเท่ากับว่าคุณแขวนชีวิตไว้ในบ้านอย่างเดียวเป็นอะไรที่อันตรายมาก

เรื่องในสนามลูกผีลูกคนยังไม่พอแต่เรื่องนอกสนามยังมีปัญหาไม่แพ้กันเพราะทักษะการให้สัมภาษณ์ของหนุ่มใหญ่วัย 43 ปีลดทอนเครดิตตัวเองให้คนภายนอกเห็นเรื่อยๆอีกด้วย

หลังจบเกมแพ้ทีมของ ปาทริค วิเอร่า ปรากฏ แลมพ์ แขวะประตูที่ พาเลซ ยิงได้นั้นสื่อความหมายออกมาทำนองว่า 3 ใน 4 ลูกไม่ฝีมือเลย แกไล่ทีละลูกเลยครับคือ เตะมุม (1-0),ประตูบ้านๆ (2-0),ลูกฟลุ๊ก (3-0) และบ้านๆอีกลูก (4-0)

เป็นคอมเม้นท์ที่ผมไม่ค่อยได้ยินจากปากผู้จัดการทีมซักเท่าไหร่ คือถ้าฟลุ้กจริงเขาก็ข้ามๆไปเพราะมันออกแนวไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้แพ้นั่นเอง

กระแสในโลกโซเชี่ยลต่อตัว แลมพ์ จึงออกมาในแง่ลบแทบทั้งนั้นโดยคอมเม้นท์ของแฟนบอลคนนึงแขวะว่าที่ แลมพาร์ด พูดออกมานั้นเหมือนตอนที่เขาเล่นเกมฟีฟ่าแล้วแพ้เพื่อนไม่มีผิด

ในแง่ของแท็คติกส์เป็นที่รู้กันทั่วว่าอดีตแข้ง เชลซี ยังมีชั่วโมงบินในเรื่องนี้น้อยมาก มาเป็นก้อนแค่รูปแบบแต่ details ไม่ตามมาด้วย เวลาลงเล่นเจอกับทีมไหนมักเป็นรองในเรื่องการครองบอลและควบคุมสถานการณ์

อย่างในเกมแพ้ พาเลซ กลับมาใช้หลัง 5 อันนี้เข้าใจได้ว่าเมื่อเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจแนวรับต้องอัดแน่นเต็มกำลังแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นการเล่นที่ค่อนข้างเนกาทีฟ แฟนบอลไม่ค่อย “โอ” เพราะมันไปลดจำนวนกลางไป 1 ตัว

เกมนี้ใช้หลัง 5 , ชนะนิวหลัง 4, แพ้ วูลฟ์ หลัง 5 และโดน สเปอร์ส ทะลวงยับหลัง 4

เดลี่เมล มองว่าการต่อสู้เพื่อหนีตกชั้นในช่วงท้ายซีซั่นการเปลี่ยนระบบบ่อยเกินไปจะอันตรายตรงที่นักเตะปรับตัวลำบากและหาจุดสม่ำเสมอภายในทีมยากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ

เอฟเวอร์ตัน อาจถูกดึงไปอยู่ในโซนแดงอีกครั้งหลังเกมทีมชาติเพราะโปรแกรม 2 นัดต่อไปออกไปเยือนทั้งหมดคือพบ เวสต์แฮม และ เบิร์นลีย์

เกมหลังนี่แหละครับที่จะตอบเราว่า “ท๊อฟฟี่” จะสร้างเซฟโซนให้ปลอดภัยมากขึ้นแค่ไหน ผลแพ้ชนะในเกมนี้มันคือการไปกลับ 6 แต้มของทั้ง 2 ทีม

ผมยังมองว่า เอฟเวอร์ตัน แอบโชคดีเล็กน้อยที่มาหนีตกชั้นเอาในซีซั่นที่ 3 ทีมท้ายตารางมีปัญหากับการยิงประตูกันถ้วนหน้า การเก็บชัยจึงมาแบบนานๆที

อย่าง วัตฟอร์ด ชนะเกมล่าสุดก็เป็น 3 แต้มในรอบ 5 นัดหรือ เบิร์นลีย์ แพ้มา 3 เกมรวดส่วน นอริช ไม่ต้องพูดถึง 6 นัด 0 แต้ม

ถึงตรงนี้แล้วหากใครชอบมวยรองและอยากเห็นอะไรมันๆแนะนำให้ตามดู เอฟเวอร์ตัน โดยเฉพาะยามเล่นใน กูดิสันพาร์ค การันตีความเดือดแม้กระทั่งเตะตี 3 ไม่มีง่วงแน่นอนครับ...
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Tue Mar 22, 2022 23:39, ทั้งหมด 6 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: อยากไปหา ตอนนี้เลย!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 17537
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีเธอ
โพสเมื่อ: Tue Mar 22, 2022 22:59
[RE: จุดอ่อน “แลมพ์” บิ๊วอารมณ์เกมเยือนไม่ขึ้น]
เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์ นัดหน้าบ้านใคร? เสียวๆยังไงไม่รู้
ขอกรรมการ โอลิเวอร์พูล ได้ไหม?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Dave Grohl NIRVANA (1990–1994)
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Sep 2008
ตอบ: 1397
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 22, 2022 23:19
[RE: จุดอ่อน “แลมพ์” บิ๊วอารมณ์เกมเยือนไม่ขึ้น]
ติ่มซำ พิมพ์ว่า:
เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์ นัดหน้าบ้านใคร? เสียวๆยังไงไม่รู้
ขอกรรมการ โอลิเวอร์พูล ได้ไหม?  


เตะที่แอนฟิลล์ครับ นัดแรกหงส์บุกไปสอยมาแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: อยากไปหา ตอนนี้เลย!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 17537
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีเธอ
โพสเมื่อ: Wed Mar 23, 2022 01:05
[RE: จุดอ่อน “แลมพ์” บิ๊วอารมณ์เกมเยือนไม่ขึ้น]
judass_stanley พิมพ์ว่า:
ติ่มซำ พิมพ์ว่า:
เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์ นัดหน้าบ้านใคร? เสียวๆยังไงไม่รู้
ขอกรรมการ โอลิเวอร์พูล ได้ไหม?  


เตะที่แอนฟิลล์ครับ นัดแรกหงส์บุกไปสอยมาแล้ว  

กลัวจริงๆนะเนี่ย แลมฟ์เคยบอก ต้องหาจุดเปลี่ยน
นักเตะเดือดในเกม ข้างสนามเดือดด้วยแน่นอน
จำได้สมัยแลมฟ์คุมเชลซี ด่ากะคลอปป์มาแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Dave Grohl NIRVANA (1990–1994)
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Aug 2006
ตอบ: 23
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 23, 2022 04:49
[RE: จุดอ่อน “แลมพ์” บิ๊วอารมณ์เกมเยือนไม่ขึ้น]
แลมพ์ น่าจะอยู่ผิดยุค ก๊อปลักษณะการกระตุ้นมาคล้ายๆ กับมูรินโญ่เลย จะว่าเค้าไม่ได้ ก็สำเร็จมาด้วยกัน

ยุคนี้ คงต้องแบบ empathy เยอะๆ เหมือนเป๊ปและคล็อป
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Sep 2013
ตอบ: 11810
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 23, 2022 10:18
[RE: จุดอ่อน “แลมพ์” บิ๊วอารมณ์เกมเยือนไม่ขึ้น]
ผมว่าเเลมป์ คือ มู+โบอาส
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel