[RE: แนะนำซีรีส์ The Innocent แนวสืบสวนสอบสวน]
ปืนใหญ่ไร้เทียมทาน พิมพ์ว่า:
James Bourne พิมพ์ว่า:
ผลงานจากนักเขียนคนนี้เขาชื่อดังเรื่องแนวสืบสวนประเภทคนหาย อดีตที่วิ่งหนีปกปิดไว้ตามมาหลอกหลอนในปัจจุบัน
ฮาร์ลาน โคเบน ผมมีหนังสือแปลไทยเขาทุกเล่มเลย งานหนังสือทีหนึ่ง คือรอหนังสือตาคนนี้ตลอดเลย
ผูกเรื่องเก่ง มีพล็อตซ้อนพล็อต และมีมุกสับขาหลอกมาเล่นใหม่เรื่อยๆ
ในชุดหนังซีรีส์ที่ NF เอามาทำนี่ ดีสุดคือเรื่องที่จขกท.เอามาโพสต์นี้แหละ
คือผกก.และผู้เขียนบททำจังหวะหนังออกมาดี
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ดีรองๆ ลงมาคือ
Safe, The Stranger และล่าสุด Stay Close
ที่พอใช้ได้คือ The Woods (จริงๆ หนังสือตื่นเต้นระทึกมา พอเอามากำกับ ดันเนือยและตัดต่อเรียงลำดับมาไม่ค่อยดี)
ที่ออกมาไม่ค่อยดี คือ Gone for Good
ผมถามได้ไหมครับว่า เป็นหนังสือนี่ ท่านยกให้เล่มไหนดีสุด (เอาแบบ 1 2 3 ก็ได้)
ผมเคยอ่าน อย่าบอกใคร เล่มเดียว กะว่าจะหาเล่มอื่นมาอ่านบ้าง
จริงๆ ผมเคยเลือกมา 5 เล่มที่ชอบที่สุดของฮาร์ลาน โคเบนเหมือนกันครับ
คือแต่ละเล่มที่ผมเลือกมา เหตุผลของผมคือ นอกจากพล็อตสืบสวนที่ซับซ้อนเหมือนกันแล้ว
แต่มันมีรสชาติที่แตกต่างกัน
1. อย่าบอกใคร Tell No One
นี่ผมก็เคยชอบที่สุดครับ เพราะอ่านเล่มแรกด้วย แล้วมันว้าวมาก วางไม่ลงจริงๆ
และมันมีรสชาติของความเป็น The Fugitive คือ ตัวละครมันเจอสถานการณ์เฉพาะหน้า
แล้วต้องวิ่งหนีตำรวจ วิ่งหนีตัวร้าย แต่ก็ต้องคอยปะติดปะต่อเรื่องราวไปด้วย
2. คืน Caught
เล่มนี้กลายเป็นเล่มที่พอผมอ่านแล้ว ผมให้เล่มนี้ชอบสุดเลยครับ
ผมรู้สึกว่าเล่มนี้มันยกระดับงานเขียนของโคเบนขึ้นอีกระดับ
จากแค่สืบสวน ซับซ้อน มันกลายเป็นมีประเด็นทางสังคม ทางจิตวิญญาณ
พูดเรื่องการก้าวข้าม การให้อภัย
ในพาร์ทของการสืบสวนก็ดี พาร์ทของปูมหลังตัวละครก็ดีครับ
3. ซ่อน Stay close อันนี้เอามาทำซีรีส์ใน NF ด้วย
เล่มนี้ได้รสชาติการสืบสวนคดีฆาตกรรมเยอะหน่อย
คือเล่มอื่นของโคเบน จุดเด่นเขาคือ เจ้าพ่อคนหาย
ประเภทหายตัวไป แล้วต้องตามสืบ แล้วเจออดีต
แต่เล่มนี้มันมีคดีฆาตกรรม แล้วมีความเกี่ยงข้องกับคดีอื่นๆ ในอดีต
เลยมีกลิ่นอายที่ต่างจากเล่มอื่นๆ อยู่ ไปทางเฉดพวกฆาตกรรมต่อเนื่อง
4. พราง The Woods ทำซีรีส์ NF เหมือนกัน แต่เป็นหนังโปแลนด์
เล่มนี้มีกลิ่นอายของนิยายสยองขวัญ
เพราะพล็อตเรื่องมันเกี่ยวข้องกับคดีเชือดในป่า ของแคมป์เด็กวัยรุ่น
อารมณ์มันเลยเป็นลึกลับบรรยากาศสยองขวัญ
ได้ฟีลลิ่งกึ่งหนังเจสัน ประเภทเด็กนักเรียนไปเข้าค่ายแล้วโดนล่อไปฆ่า
แต่แน่นอนว่ายี่ห้อโคเบน คงไม่ทำอะไรตรงๆ แบบนั้น มีชั้นเชิงการผูกเรื่องจนถึงจุดเฉลยมาเป็นระลอก ซัดใส่หน้าคนอ่าน จนบทสุดท้าย
เสียดาย เอามาทำหนังแล้วออกมาเนือยมาก และลำดับเรื่องไม่ดี
5. อย่ามอง Just One Look
อันนี้จริงๆ ไม่ได้มีกลิ่นอายอะไรที่แตกต่างโดดเด่นนะ
แต่ส่วนของการสืบสวนผมชอบมันสนุกดี
มันจะมีคำถามตลอดว่าเหตุการณ์อดีต ตอนนั้น วันนั้น เวลานั้น จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ใครทำอะไร ใครเป็นสาเหตุ ใครอยู่ในเหตุการณ์ และใครเป็นใครในวันนี้
แล้ววิธีการเฉลยของโคเบน มันไม่ได้เฉลยแบบเล่าเรื่องโต้งๆ
ถ้าเราเคยดูหนังสืบสวนบางเรื่องที่ไม่รู้จะเฉลยพล็อตที่ซ่อนไว้ยังไงดีแล้วมาตกม้าตายตอนจบ
อุตส่าห์ผูกเรื่องมาซะอย่างดี แต่ตอนท้ายเฉลยโดยให้ตัวละครเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นละเอียดยิบ
แบบนี้คือเซ็งเลย ไม่มีชั้นเชิงในการเฉลย แต่โคเบนเก่งมากในการซ่อนประเด็นแล้วค่อยๆ เผย ผ่านสิ่งละอันพันละน้อย ผ่านบทสนทนา ผ่านชะตากรรมของตัวละคร ผมเลยชอบเล่มนี้อีกเล่มกว่าเล่มอื่นๆ