ลูกเดียวพอ! โกเก้ ซัดเด็ดขาด "ตราหมี" บุกเชือดราโย 1-0 ขยับที่ 3
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แอตเลติโก้ มาดริด ยังคงฟอร์มดีต่อเนื่องเมื่อพวกเขาบุกไปเฉือนเอาชนะ ราโย บาเญกาโน่ 1-0 โดยได้ โกเก้ ซัดโทนนาที 49 ก่อนรักษาสกอร์เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนนจาก 29 นัด แซงบาร์เซโลน่าขึ้นไปรั้งที่ 3 ของตารางลาลีก้า แต่แข่งมากกว่า 2 นัด
ราโย บาเญกาโน่
Starting Formation: 4-2-3-1
8.
ออสการ์ เตรโฆ่

84'
7
6.
ซานติอาโก้ โกเมซาญ่า

62'
6
16.
เซร์กี้ กวาร์ดิโอล่า

76'
6
10.
เบเบ้

62'
6
ตัวสำรอง
7.
ไอซี่ ปาลาซอน

62'
6
11.
มามาดู ซิลล่า

84'
6
21.
ปาเต ซิสส์

62'
6
9.
แรนดี้ เอ็นเตก้า

76'
6
ลาลีก้า
สนาม เอสตาดิโอ เด บสเญกาส
เสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565
กรรมการ โฆเซ่ มูเนวร่า
ราโย บาเญกาโน่
0
1
แอตเลติโก้ มาดริด
ตราหมีบุกไปเล่น 3-5-2 โดยมี เฟลิกซ์,กรีซมันน์ ยืนค้ำหน้า โลดี้,ญอเรนเต้ ป่วนริมเส้นซ้ายขวา ตรงกลางเป็น เอร์เรร่า,โกเก้,เด ปอล ยืนคุม แผงหลังสามคนใช้ เรนิลโด้,กิเมเนซ,ซาวิช และ โอบลัคเฝ้าเสาตามเดิม
ฝั่งราโยมาเล่น 4-23-1 โดยทิ้ง กวาร์ดิโอล่า เป็นหน้าเป้าและมี การ์เซีย,เตรโฆ่, เบเบ้ คอยหนุน
• เจอกัน 11 นัดหลังทุกรายการ แอตเลติโก้ ชนะ 9 เสมอ 2
• แอตเลติโก้ ชนะในลีก 4 นัดติด
• ราโย ไม่ชนะในลีก 9 นัดติด (แพ้ 7 เสมอ 2)
กรีซมันน์โฉบซัดทักทายให้หมี
โอก่าสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของตราหมี จังหวะที่โกเก้ยกบอลเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายให้กรีซมันน์โฉบไปตวัดวอลเลย์ บอลพุ่งไปที่เสาแรกแต่ดิมิทริเยฟสกี้ยังปัดออกหลังไปได้
อ๋องชาร์จจ่อปลิ้นหลุดกรอบ
ตราหมีน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จังหวะที่โกเก้เปิดฟรีคิกตรงกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เป็นเฟลิกซ์ที่โฉบไปโหม่งเสยชงไปที่หน้าประตูให้กรีซมันน์โฉบชาร์จจ่อๆโดนไม่ดีปลิ้นหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
ราโย่นานๆจะมีโอกาสลุ้น
ราโยได้ลุ้นบ้างเป็นจังหวะที่อัลบาโร่ การ์เซียได้โหม่งหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลก็ลอยไปเข้ามือโอบลัคที่รับเอาไว้ไม่ยาก
ตราหมีได้ลุ้นอีกครั้งแต่ยังไม่คม
จังหวะลุ้นอีกครั้งของแอตเลติโก้ เด ปอลเปิดฟรีคิกลึกไปทางกรอบฝั่งขวาแล้วเรนิลโด้เฟลิกซ์พยายามโหม่งแต่บอลไปติดเรนิลโด้ บอลยังตกข้าทางเฟลิกซ์ที่ตวัดยิงคราวนี้หลุดกรอบ
เฟลิกซ์ได้โขกส่งท้ายครึ่งหลัง
ช่วงท้ายครึ่งแรกทั้งสองฝั่งแทบหาโอกาสเข้าทำกันไม่เจอ จนมาถึงจังหวะนี้ที่กรีซมันน์เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เฟลิกซ์ได้โฉบขึ้นโหม่งแต่บอลยังพุ่งหลุดกรอบไปอีก
สุดท้ายจบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0 โดยที่ยังหาโอกาสเข้าทำแบบจะแจ้งกันได้ไม่มากนัก
ง่ายๆเลย!โกเก้เล่นชิ่่งเฟลิกซ์หลุดซัดเด็ดขาด 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไรประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นและเป็นฝั่งแอตเลติโก้ที่บุกขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่โกเก้เก็บบอลได้หน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนเล่นชิ่งกับฟลิกซ์หลุดไปแปในกรอบเขตโทษทะลุบล็อคพุ่งเสียบเสาสองเด็ดขาด 1-0
อ๋องหลุดแปโล่งๆติดเซฟ
ตราหมีเกือบได้ประตูที่สองสุดๆ จังหวะที่เด ปอลจ่ายทะลุช่องบอลให้กรีซมันน์หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวา เขาจับแล้วพลิกแปโล่งๆไปติดเซฟดิมิทริเยฟสกี้
ราโยโอกาสสองครั้งติดๆ ยังตีเจ๊าไม่ได้
ราโยน่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะฟรีคิกที่เปิดเข้าไปในกรอบแล้วบอลขลุกขลิกเข้าทางกวาร์ดิโอล่าทางกรอบฝั่งซ้าย เขาตวัดไปหน้าประตูให้ซัวเรซวางเท้าแปจ่อๆติดบล็อคเรนิลโด้ จังหวะต่อเนื่องยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ขึงก่อนที่สุดท้ายซัวเรซคนเดิมจะได้ซัดหน้ากรอบเขตโทษพุ่งเรียดแรงแต่ยังไปติดเซฟโอบลัค
หมีรอดตัว!เอ็นเตก้าตวัดจ่อข้ามคาน
ตราหมีหวิดจะโดนตีเสมอ จากจังหวะที่วาเลนตินเปิดบอลจากริมกรอบฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าประตูแล้วเอ็นเตก้าได้เหลี่ยมตวัดยิงด้วยซ้ายจ่อๆ ข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
คอร์เรอาโวยแรงโดนแดงเลย
้ท้ายเกมตราหมีมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่คอร์เรอาโดนจับฟาวล์แล้วเหมือนจะไม่พอใจและไปต่อว่าผู้ตัดสิน ทำให้โดนใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามไปเลย
โกเก้หวดแถวสองข้ามคาน
สิบคนของแอตเลติโก้ยังได้ลุ้นบวกเพิ่ม จากจังหวะเตะมุมเข้าแล้วโดนเคลียร์มาเข้าทางโกเก้ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้ายหน้ากรอบฝั่งซ้าย แต่บอลพุ่งแรงหลุดคานไป
โอบลัคเซฟช่วยตราหมี
ราโยยังพยายามเอาประตูตีเสมอแล้วน่าได้ด้วย จากจังหวะเตะมุมเข้าไปแล้วฝั่งตราหมีเคลียร์ออกมาเข้าทางบาลลิอูที่วางเท้าซัดจากแถวสอง บอลพุ่งเรียดะลุบล็อคตรงกรอบแต่ยังไปตรงตัวโอบลัคที่ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้หลุดหวิด
ตราหมีเชือด 1-0 ขึ้นที่สาม
สุดท้ายจบเกมเป็นแอตเลติโก้ที่รักษาสกอร์เฉือนชนะไป 1-0 จากประตูของโกเก้ ทำให้พวกเขาแซงบาร์เซโลน่า 3 แต้ม ขึ้นไปรั้งที่ 3 ของตาราง แต่แข่งมากกว่า 2 นัด ขณะที่ฝั่งราโยไม่ชนะในลีก 10 นัดติด
แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 3-5-2
16.
เอ็คตอร์ เอร์เรร่า

63'
6.5
6.
โกเก้

90+2'
7.5
12.
เรนาน โลดี้

62'
6.5
7.
เจา เฟลิกซ์

63'
7.5
8.
อ็องตวน กรีซมันน์

90+1'
7
ตัวสำรอง
9.
หลุยส์ ซัวเรซ

63'
6.5
22.
มาริโอ เอร์โมโซ่

90+2'
-
10.
อังเคล คอร์เรอา

63'
5
18.
เฟลิเป้

90+1'
-
4.
เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย

62'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sun Mar 20, 2022 05:04, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ