บทความมาจากเฟสของคุณ Don Plooksawasdi https://www.facebook.com/don.plooksawasdi/posts/10224714579185508


เห็นอาชาม ปัญญาชนพวงมาลัยเอียงซ้ายหลายคนนบ้งเรื่องยูเครนต่อเนื่อง ผมขอเล่าเบื้องหลังความขัดแย้งฉบับย่อจากมุมตัวละครหลักคือยูเครน-รัสเซียบ้าง ลิเบอรัลท่านอื่นๆจะได้ไม่เมาวอดก้าตามไปด้วย


ปูพื้นก่อนว่าตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย ยูเครน & รัสเซียมีมุมมองภาวะปกติ (Status quo) ไม่เหมือนกันหลักๆ สามเรื่อง

1. นิทานชาติพันธุ์...ยูเครนมองตัวเองเป็นชาติอิสระมาเนิ่นนาน (อย่างบทกวีจากยุค 1930 ของยูเครนที่บอกว่า"แค่หลั่งน้ำตาไม่เคยทำให้ใครได้รับเสรีภาพ")

ส่วนรัสเซียสืบทอดแนวคิดสลาฟนิยมจากสมัยพระเจ้าซาร์ที่มองว่า ชาติหลักของชาวสลาฟคือรัสเซีย เบลารุสหรือยูเครนอยู่ในฐานะเมืองน้องไม่ใช่ชาติอิสระด้วยซ้ำ ถ้าคิดว่าโม้ไปหา Foundations of Geopolitics ของ Alexander Dugin ราสปูตินประจำตัวปูตินอ่านได้

2. แหลมไครเมีย...ที่ตั้งฐานทัพเรือเซวัสโตปอลและกองทัพเรือทะเลดำ ไครเมียเป็นช่องทางยุทธศาสตร์สู่ทะเลเมดิเตอเรเนียนและนับเป็นหลักประกันความมั่นคง (Security Guarantee) สำคัญของรัสเซีย ปัญหาคือตอนโซเวียตล่ม แหลมไครเมียดันไปตกอยู่ในเขตแดนยูเครน

ถึงสัญญามิตรภาพที่เซ็นกันในปี 1997 จะอนุญาตให้รัสเซียเช่าฐานทัพเรือเซวัสโตปอลได้ถึงปี 2017 รัสเซียก็ไม่พอใจ สภารัสเซียมีโหวตว่าตาม ปวศ. เซวัสโตปอลต้องเป็นเมืองของรัสเซีย ประธานาธิบดีเยลซินของรัสเซียถูกวิจารณ์ว่าอ่อนแอ แต่ยุคนั้นรัสเซียเองยังลุ่มๆดอนๆ รับเงิน IMF จึงไม่กล้าบีบยูเครนทางเศรษฐกิจ

ฝั่งยูเครนรู้ว่าเรื่องไม่จบแค่เช่าฐานทัพแน่ๆ กองทหาร กองเรือรัสเซียก็มี จะปิดยูเครนออกจากทะเล ตีตลบหลังจากด้านใต้ง่ายแค่ดีดนิ้ว...ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงๆ ในปี 2022

คนที่บอกว่าประเด็น Security Guarantee ของรัสเซียกับยูเครนมี NATO เป็นสาเหตุ อย่างเดียวถ้าเขาไม่ได้จงใจโกหกก็เเสดงว่า ignorant

เพราะประเด็นห้ามมีกองทัพต่างชาติในประเทศ หรือขอเช่าฐานทัพ อาจยังเจรจากันได้

แต่การบอกว่า หลักประกันความมั่นคงของข้าคือการให้ประจำทหารอยู่ในประเทศเอ็งตลอดไป แล้วแผ่นดินก้อนเบ้อเร่อของเอ็งก็เป็นแดนประวัติศาสตร์ของข้าด้วยนะ มันไม่ใช่ความ "เป็นกลาง" แบบที่เราเข้าใจ แต่มันคือยูเครนต้องเสียหลักประกันความมั่นคงและสิทธิ์เหนือดินแดนตัวเองเพื่อให้รัสเซียสบายใจ

3. ในบ้าน นอกบ้าน...ยูเครนภาคตะวันตกกับตะวันออกมีความแตกต่างทางการเมือง ยกตัวอย่างเมือง Lyiv (ลวีฟ) ติดกับโปแลนด์ ที่คุณสามารถเกิดเป็นคนจักรวรรดิออสโตร-ฮังการี,เรียนหนังสือในโปแลนด์,แต่งงานในจักวรรดิไรค์ที่สาม,ใช้ทำงานในสหภาพโซเวียต,รับบำนาญในยูเครนได้โดยไม่ต้องย้ายไปไหนเลย ขณะที่คนตะวันออกอยู่ใต้อิทธิพลรัสเซียมานานกว่า อีลีทนิยมพูดและใช้ภาษารัสเซีย มีความผูกพันทางเศรษฐกิจกับรัสเซียมากกว่า

แต่ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คนโปรรัสเซียอยากเป็นคนรัสเซีย คนยูเครนกว่า 92% โหวตแยกตัวจากสหภาพโซเวียต ถ้าเทียบกับไทยก็คือถามสลิ่มเชียร์จีนว่าอยากได้พาสปอร์ตจีนแทนไหมนั่นแหละ

แต่ความอยากให้ประเทศเอนไปทางยุโรปขนาดไหน พึ่งรัสเซียมากไหม มันเป็นประเด็นการเมืองที่ถูกชักจูงจากปัจจัยภายใน (นักการเมืองท้องถิ่น,ประธานาธิบดี,เจ้าสัว) และภายนอก (EU,NATO,Russia) มาตลอด

เมื่อภาวะความสัมพันธุ์ปกติ "Status quo" ที่รัสเซียกับยูเครนโหยหาไม่ตรงกันเลย ตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา มันจึงขยายความร้าวฉานและจบลงที่การแตกหักในที่สุด

มันไม่ใช่เรื่องตื้นเขินว่า ปี 2014 มีม็อบเหมือน กปปส ออกมาไล่รัฐบาลแล้วยูเครนก็หันไปซบนาโต้

2014 เหมือนพันธมิตรไล่ทักษิณไหม? ไม่เหมือนโว้ย

1. ม็อบไม่ได้เรียกทหารออกมา! ทหารไม่มีส่วนในการไล่ยานุโควิกออกจากตำแหน่ง!

2. ม็อบไม่ได้ออกมาเพราะอยากเข้า NATO แต่ชนวนคือประธานาธิบดี วิคเตอร์ ยานุโควิก ถอนยูเครนออกจากการเซ็นสัญญาข้อตกลงสมาคม EU เพื่อเป็นก้าวแรกไปสู่การเป็นสมาชิก EU โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง EU ไม่ใช่ NATO

มีคนบอกว่า ก็รัสเซียเสนอเงินกู้ให้ 15 พันล้านเหรียญ ยอมลดราคาก๊าซธรรมชาติ แต่ EU เสนอให้แค่ 8 ร้อยล้านเหรียญ

แต่มันไม่ได้ในแง่ผลประโยชน์ระยะยาวไงครับ ยูเครนพึ่งแก๊สจากรัสเซียมาตลอด อุตสาหกรรมการจ่ายแก๊สในประเทศก็ครองโดยเจ้าสัวที่ซื้อจากรัสเซียขายต่อรัฐแพงๆ ยูเครนติดหนี้รัสเซียเยอะ ตลอดการเจรจาเข้าร่วมเศรษฐกิจ EU รัสเซียก็เอาประเด็นหนี้มาขู่ตลอด ถ้ารับ 15 พันล้านเหรียญมาอีกโดยไม่มีเงื่อนไขปฏิรูประบบเศรษฐกิจให้เป็นแบบยุโรป ก็เท่ากับติดกับดักหนี้เพิ่ม

คนยูเครนเกรงด้วยว่าก้าวต่อไปจากกับดักหนี้ คือการถูกลากไปเป็นสมาชิกการค้าของเครือรัฐเอกราช (CIS) ที่คล้ายๆ EU งานก็อปเกรดบีซึ่งมีรัสเซียเป็นผู้นำ ในกลุ่ม CIS เศรษฐกิจรัสเซียมีขนาดใหญ่กว่าชาติที่เหลือทั้งหมดรวมกัน ย่อมสั่งซ้ายหันขวาหันได้ เท่ากับโดนกลืนชาติอีกครั้ง

ขนาดตายานุโควิกเองยังไม่อยากเข้าเลย เพราะถ้าเข้าสมาชิกการค้าของ CIS อาจจะทำให้ยูเครนเข้า EU ภายหลังไม่ได้

เทียบกันแล้วเข้า EU อนาคตสดใสกว่าเยอะ ตลาดก็ใหญ่กว่า คนรวยกว่า โอกาสธุรกิจสูงกว่า เยอรมันที่เป็นหัวเรือ EU ขนาดเศรษฐกิจก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดฝรั่งเศสหรืออิตาลีจะคานอำนาจไม่ได้

EU อาจไม่ได้เสนอเงินเยอะ แต่แลกกับการปฏิรูปปัญหาคอรัปชั่นระยะยาว บวกอีกหนึ่งผลประโยชน์ที่คนยูเครนอยากได้มาก คือการผ่อนปรนวีซ่า เปิดโอกาสให้พวกเขาไปทำงานในยุโรปแล้วส่งเงินกลับบ้าน

ความผิดพลาดของยูเครนคือการดำเนินนโยบายเหยียบเรือสองแคมมาตลอด ทุกรัฐบาลปากบอกอยากเข้า EU แต่ก็ไม่ยอมปฏิรูปเพราะเกรงใจเจ้าสัวจนเศรษฐกิจติดหล่ม สุดท้ายหวยออกยุคยานุโควิกพอดี แล้วดันเลือกผิดจากที่สัญญาไว้กับประชาชนฯ

เรื่องนี้ซ้ายน่าจะยกมาเป็นบทเรียนสอนใจเรื่องปฎิรูปด้วยซ้ำ แต่นี่แม่งเฉไฉไป NATO ไป กปปส จ๊าดง่าวชิบ

3. ม็อบยูเครนเหมือนพวก กปปส มีอาวุธจริงไหม? มีม็อบกลุ่มฮาร์ดคอร์ใช้อาวุธยิงตำรวจ คฝ ตายจริง แต่รัฐเป็นฝ่ายสั่งสลายฝูงชนก่อนโดยใช้ทั้งตีนผสมยิงสไนเปอร์จากยอดตึกฆ่าม็อบตายไป 108 ศพ ส่วนตำรวจตายไป 13 ศพ ก็ประมาณการสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 53 เลขใกล้ๆกันเลย คงไม่มีใครหน้าไหนยกมือขึ้นดีเฟนด์มาร์คใช่ไหม?

ช่วงม็อบ รัสเซียบีบให้ยานุโควิกปราบผู้ชุมนุมเร็วๆ ไม่งั้นจะกั๊กเงินก้อนแรกของ 15 พันล้านเหรียญไว้ แต่ลูกอีชอบชี้มักพูดเรื่องมีนักการเมืองเมกา,EU มาเยี่ยมม็อบยูเครน งี้ทีทูต EU มาพบคุณมายด์ คุณเพนกวิ้น ถือว่าชักไยด้วยไหมอ่ะ?

เจอแบบนี้เข้าคนยูเครนจึงตื่นตัวว่ามันไม่ใช่ poitics as usual แล้ว ถ้าไม่หันไปตะวันตก อนาคตคือต้องถูกรัสเซียกลืนทางการเมืองแน่ๆ ม็อบ euromaidan (ไม่ใช่ natomaidan) เลยจุดติด

4. ยานุโควิกถูกสภาถอดถอนด้วยคะเเนนเสียง 328-0 โดยไม่ผ่านขั้นตอน impeachment ให้ครบถ้วน จะบอกเป็นการรัฐประหารผ่านสภาก็ได้ แต่ควรมองด้วยว่าเวลานั้น สส พรรคร่วมย้ายข้าง, ประธานสภาลาออก ตัวยานุโควิกเองก็หายจากคีฟไปโผล่ในเมืองคาคีฟที่เป็นฐานเสียงตัวเองในภาคตะวันออก

สภาจึงถือว่ายานุโควิกทิ้งหน้าที่แล้ว ยูเครนเลือกประธานาธิบดีชั่วคราวแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ในปีเดียวกัน ไม่ได้ขอเวลาอีกไม่นานแล้วลากยาวเหมือนรัฐประหารบางประเทศ

มีปูมหลังและปมที่ผูกอยู่มากมายขนาดนี้ การบอกว่ามีม็อบแนว กปปส แล้วเกิดรัฐประหาร แม่งโคตรมักง่ายอ่ะครับ สูญเปล่าทางวิชาการ

หลัง 2014 ยูเครนเอียงเข้าหานาโต้ขนานใหญ่

ไอ้พวกพูดแบบนี้มันลืมไปแล้วไหมว่าหลังยานุโควิกหนีไปรัสเซียในวันที่ 23 กพ 2014 แล้ว เช้าวันที่ 27 กพ จู่ๆ ก็มีทหารไม่ทราบฝ่ายปรากฎตัวขึ้นเต็มแหลมไครเมีย ยึดสนามบิน ปิดล้อมฐานทัพทหารยูเครนที่อยู่ในแหลมทั้งหมด บุกรัฐสภาไครเมีย (ไครเมียได้รับสิทธิ์ปกครองตนเองระดับหนึ่งอยู่แล้วภายใต้รัฐธรรมนูญยูเครน) เอาปืนจี้ให้โหวตล้มรัฐบาลแล้วตั้งนักการเมืองโปรรัสเซียที่เลือกตั้งคราวที่แล้วได้เสียงโหวตแค่ 4% เป็นนายกแทน

ปูตินตอนแรกบอกว่านี่ไม่ใช่ทหารรัสเซียน่าา แต่ต่อมาก็พลิกลิ้นว่าใช่ พอทหารรัสเซียตัวเขียวๆบีบทหารยูเครนให้ถอนจากออกแหลมไครเมียหมด เดือนต่อมารัสเซียก็ทำประชามติปลอมๆ อ้างผลว่าไครเมียอยากกลับไปรวมร่างกับมาตุภูมิ พอเดือนมีนาคมสภารัสเซียก็โหวตฮุบแหลมไครเมียเข้ามาเป็นดินแดนรัสเซียเฉยเลย

ใช้กำลังทหารละเมิดอธิปไตยเขาดื้อๆ ฉีกสัญญาที่ตัวเองเซ็นเองถึงสองสัญญา (สัญญาบูดาเปสต์,สัญญามิตรภาพ)...นี่แหละรัฐประหาร นี่แหละรุกรานประเทศอื่น...ฝ่ายซ้ายยมาดูหน่อยโว้ย (สลิ่มไม่ต้องมานะ เพราะพวกสิ้นหวังอย่างคุณคงเชียร์แหละ 555)

รัสเซียมองว่าตนเองประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมายได้ครบถ้วน ถึงเสียตายานุโควิกไป การยึดไครเมียแบบสายฟ้าแลบก็ขู่ยูเครนได้ชุดใหญ่ แถมยึด Security Guarantee ที่หมายตามานานกลับมากอดแบบสบายๆ คะแนนความนิยมปูตินพุ่งปรี๊ด

แต่ยึดไครเมียยังไม่พอ เดือนต่อมารัสเซียก็สร้างสถานการณ์กบฎในแคว้น ดอนบาส ลูฮานสก์ ที่เป็นฐานเสียงของฝ่ายยานุโควิกและเจ้าสัวภาคตะวันออก นักการเมืองพวกนี้กะจะขู่เรื่องขอปกครองตัวเองเพื่อต่อรองรัฐบาลใหม่ในคีฟเฉยๆ แต่ดันรู้ไม่ทันรัสเซีย เครมลินส่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรองชาวรัสเซียยศผู้พันมานั่งเป็นกลาโหมให้หน่วยติดอาวุธดอนบาส ใช้กระสุนจริงกับกองทัพยูเครน แล้วก็แผลงข้อเรียกร้องการเมืองไปเป็นกบฎแยกดินแดนจริงๆ

กบฏพวกนี้มีทหารรัสเซีย รถถังรัสเซียข้ามพรมแดนมาช่วยรบ ล้อมตีกองทัพยูเครนที่รุกเข้ามาเอาพื้นที่คืนตายหลายรอบ รัสเซียป๋าดันจัดเต็ม ยกอาวุธสงครามอันตรายอย่างจรวดต่อต้านอากาศยานให้กบฎใช้ ผลก็คือไปยิงมั่วซั่วจน Malaysia Airlines MH17 ตก (เออ เรื่องนี้คนก็ชอบลืมๆ อึนๆ เหมือนกัน)

อ้อ ไม่เท่านั้นนะ รัสเซียยังใช้ IO สร้างกระแสขู่ยูเครนเพิ่มด้วยว่า พวกแยกดินแดนเนี่ย เขาอาจรุกออกจากดอนบาสยึดภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดทะเลของยูเครนทั้งหมดเพื่อเชื่อมไครเมียเข้ากับแผ่นดินรัสเซีย หรืออาจไปถึงขั้นตีเมืองท่าโอเดซสา ปิดยูเครนออกจากทะเลให้หมดเลย กลายเป็นดินแดนใหม่ชื่อว่า Novorossiya หรือ New Russia!

คนที่บอกว่าทำไมยูเครนไม่ยอมวางตัวเป็นกลาง แม่งเหมือนความจำช่วง 2014 เสื่อมกันหมด ว่านี่แหละคือสภาพ "เป็นกลาง" ที่รัสเซียอยากให้ยูเครนเป็น

ต้องมีรัฐบาลที่บีบไข่ง่ายๆแบบลูกาเชงก้าในเบลารุส ดินแดนส่วนไหนที่คิดว่าสำคัญกับความปลอดภัยตัวเองก็ยึดเอา พื้นที่ไหนที่ยุแยงตะแคงรั่วได้ก็สร้างปัญหาความไม่สงบจะได้เข้านาโต้ไม่ได้ ให้ประเทศมันเละๆ EU ก็ไม่อยากรับ โดยทั้งหมดมีกองทัพรัสเซียเป็นดาบห้อยต้องแต่งพร้อมสับลงมาทุกเมื่อ

ถ้าคุณเป็นยูเครนที่เหลือทหารอาชีพเพียงแค่ 5 พันนาย ต้องเผชิญหน้ารัสเซียที่นอกจากมีกำลังทหารขนาดหลายแสน แล้วยังมีความคิดฝังหัวว่าชาติของคุณไม่มีจริง สภาพ "เป็นกลาง" ที่คุณเป็นได้คือต้องไปอยู่ในเรือนเบี้ยเขาเนี่ย คิดว่าจะหาพันธมิตรทางทหารเพื่อสร้าง Security Guarantee ของตัวเองไว้ไหมครับ?

พวกที่ท่องจำ Mearsheimer มาแบบนกแก้วนกขุนทอง อยากให้มองจากมุมชาวยูเครนบ้าง ไม่ใช่จากมุมมหาอำนาจที่บอกว่าดินแดนกันชน ก็ควรเป็น "กลาง" ไม่ใช่เป็นกลางแบบมีศักดิ์ศรีเหมือนฟินเเลนด์ (ที่กว่าจะได้กลางแบบนั้นมาก็ต้องรบกับรัสเซียเลือดตากระเด็นก่อน) แต่เป็น "กลาง" ตามคำจำกัดความที่ประเทศเจ้าอาณานิคมที่ไม่รู้จักพอของคุณบอกให้เป็น

ถ้ามองไปทางซ้ายของยูเครนจะเจอสาธารณรัฐปกครองตัวเองชื่อ Transnistria เป็นแดนกบฏที่รัสเซียหนุนอยู่เพื่อขัดขาประเทศมัลโดวา วิธีสร้างหลักประกันความมั่นคงของรัสเซียมาแต่ไหนแต่ไรมาคือยึดประเทศข้างตัวเป็นกันชน แต่พอยึดได้แล้ว มันก็ต้องขยายกันชนเพื่อปกป้องกันชนที่ได้มาใหม่ออกไป วน Loop ไม่รู้จบ

การวิจารณ์เรื่องนาโต้ว่าเป็นต้นเหตุปัญหาระหว่างยูเครน & รัสเซีย มันพออ้อมแอ้มได้จนถึงปี 2014 เท่านั้น (และยิ่งจากมุมมองประเทศเพื่อนบ้านรัสเซีย มันอ้างได้แบบง่อยๆ ด้วย) แต่หลังจากไครเมียและวิกฤติดอนบาส มันอ้างไม่ได้แล้วครับ รัสเซียเป็นชาติผู้รุกรานและแสดงความประสงค์ชัดว่าพร้อมจะบ่อนทำลายอธิปไตยยูเครนทั้งทางตรงทางอ้อม ถึงจุดนั้นการมีสัมพันธ์กับชาติ NATO เป็นทางเดียวที่จะช่วยฟื้นฟูกองทัพยูเครนได้

อย่างที่บอกตอนต้น การจะบอกว่าห้ามมีฐานทัพ จรวดต่างชาติในประเทศ ขอเช่าฐานทัพเรืออาจเป็นเรื่องเจรจากันได้ แต่ถ้าหลักประกันความมั่นคงคือต้องหั่นแผ่นดินให้ ต้องยื่นไข่มาให้กำไว้ตลอดเวลา หือเมื่อไหร่มีรถถัง เครื่องบินรอถล่ม มันเป็น Security Guarantee ฮั่วดอ ที่ไม่มีชาติไหนรับได้หรอก

สัมพันธ์กับนาโต้เป็นประโยชน์ต่อยูเครนแม้ยังไม่ได้เป็นสมาชิก เพราะอาวุธยูเครนส่วนใหญ่ตกทอดมาจากยุคโซเวียต แสนยานุภาพสู้ยุทโธปกรณ์รัสเซียใหม่ๆ ไม่ได้ ผู้ผลิตเครื่องบินขับไล่อย่าง MIG, Sukhoi ที่ยูเครนใช้ ตอนนี้ก็เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจรัสเซีย แค่เขาไม่ขายอะไหล่ให้ก็บินขึ้นไม่ไหวแล้ว

นาโต้เป็นช่องทางให้ซื้ออาวุธทันสมัยมาประจำการ ยิ่งกองกำลังน้อยกว่า การฝึกทหารก็ต้องไปแนว NATO ที่เน้นคุณภาพต่อนายมากกว่าแบบรัสเซียที่เน้นปริมาณทหารและปืนใหญ่ปูพรม

ถ้ายูเครนไม่ฝึกทหารตามหลัก NATO ไม่มีอาวุธอย่าง NLAW,Javelin ป่านนี้ยันไม่ได้มาสามอาทิตย์ ต่อยข้ามรุ่นกับมหาอำนาจได้ถึงจุดที่ว่าต่อให้แพ้ คนชนะก็ช้ำเลือดช้ำหนอง พะงาบกลับไปนอนรอพ่อสีจิ้มตูดที่บ้านแบบนี้หรอกค้าบ

ยูเครนเพิ่งบรรจุการเข้าร่วม NATO,EU เป็นเป้าหมายชาติในรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2019 ก็เพราะไครเมียมันทำให้ตาสว่างว่าจะมาครึ่งกลางๆ ระหว่างรัสเซียและตะวันตกไม่ได้อีกแล้ว อยู่กับตะวันตกยังไงก็มีชาติ แต่รัสเซียไม่เห็นเขาเป็นชาติด้วยซ้ำ

ส่วนข้ออ้างโง่ๆ ที่บอกว่า คิดดูนะ ถ้าแคนาดาไปทำพันธมิตรทางทหารกับจีน ไอ้กันมันจะยอมไหมเนี่ย...โห่ มึงเมาตัวไหนมาวะ ถ้ามันเกิดอย่างนั้นจริงๆ แสดงว่าแคนาดาหรือเมกาต้องออกจาก NATO ก่อน ถ้าแคนาดาหันไปพึ่งจีนที่ต้องยกทัพข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ผ่านญี่ปุ่น ทะลุฮาวาย มาช่วยรบเนี่ย แสดงว่าเมกามันกลายเป็นประเทศแบบไหน?

คือถ้ามันตกต่ำขนาดนั้นก็เหมือนกับที่เรามองรัสเซียหลังสิ้นโซเวียตนั่นแหละ ว่าเมื่อประเทศถดถอย คนในชาติก็ต้องหันมองกระจก พิจารณาตัวเองว่าจะอยู่กับเพื่อนบ้านอย่างสงบสุขได้ยังไง ไม่ใช่เอาภาพจำกูใหญ่มึงเล็ก หรือ Security Guarantee แบบโหยหาอดีตสมัยยุครัชกาลที่ 5 มานำนโยบายต่างประเทศแบบที่รัสเซียทำอยู่ทุกวันนี้

อ้อ และถ้าไอ้กันในสถานการณ์สมมตินั่นมันบุกแคนาดาจริง มันก็ผิดไงครับ ไม่เห็นต้องจินตนาการห่าเหวอะไรเลย และเราก็ต้องเชียร์ให้โลกคว่ำบาตรไบเด้น ส่งจรวด ส่งอาวุธไปให้ทรูโดเหมือนกับที่ช่วยเซเลนสกี้อยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ

ไอ้อ้างวิกฤติการณ์คิวบาก็เหมือนกัน เทียบกันไมได้สักนิด วิกฤติมันเกิดตอนครุสเชฟเอาจรวดนิวเคลียร์ไปตั้งประจำการแล้ว ไม่ใช่เพราะหลอนแบบปูตินว่าสักวัน(เมื่อไหร่ไม่รู้) นาโต้จะเอาจรวดไปวางในยูเครน เคนเนดี้กับครุสเชฟเคลียร์กันผ่านการทุต สุดท้ายรัสเซียถอนจรวดจากคิวบา เมกาถอนจรวดจากอิตาลีกับตุรกีแลกกัน

นี่ปูตินแม่งนั่งอยู่ในบังเกอร์เหมือนฮิตเลอร์ตอนเบอร์ลินจะแตก ไม่คุยกับผู้นำชาติไหนนอกจากฝรั่งเศสกับฟินแลนด์

การพูดปัญหายูเครนจากมุมมองฝั่ง Great Powers อย่างเมกา-รัสเซีย โดยเลี่ยงไม่สาดไฟใส่ตัวละครหลักจริงๆ คือยูเครนเนี่ย มันเลวร้ายยิ่งกว่าการเงียบอีก เพราะมันคือการขยาย Narrative ที่รัสเซียต้องการบอกโลก ว่าฉันกำลังสู้กับไอ้กันอยู่ เราจะได้ไม่เห็นความจริงว่ารัสเซียกำลังทำร้ายชาติเล็กกว่าอย่างยูเครน และไอ้คำว่า "กลาง" ที่อยู่ในหัวเราบางคน มันไม่เหมือน "กลาง" ที่รัสเซียปรารถนาเลยแม้แต่น้อย

คุณอย่างพวกคุณฆ่ายูเครนสองครั้ง ครั้งแรกด้วยการมองข้ามหัวเขา ครั้งที่สองด้วยการเล่าเรื่องตามบทที่ฝ่ายรุกรานเขียนให้

การตะแบงว่าประเด็นความขัดแย้งที่เขาขับเคี่ยวกันก่อนมีนาโต้หรือไอ้กันบนโลกไม่สำคัญเนี่ย มันเป็นมุมมองที่หลงยุคแบบเจ้าอาณานิคมที่มีสิทธิ์โขกคนในประเทศเล็กๆ ไปมาบนตารางหมากรุก โคตรจะมีความ White privelege, Westplaining, Hypocritical สำหรับคนที่มองตัวเองว่าเป็นลิเบอรัล เป็นซ้ายเอาเสรีภาพของมนุษย์เป็นหลัก อย่าเสือกทำแบบนี้ ไม่งั้นจะกลายเป็นสลิ่มเฟส 2

ยิ่งบางท่านคร่ำครวญว่าทำไมเซเลนสกี้ไม่ยอมโอนอ่อน อยากได้ชัยชนะ(หรือพ่ายแพ้)บนซากปรักหักพังเหรอ? อย่างแรกเลยนะ คือ เฮ้ย Victim Blaming ในสถานการณ์แบบนี้คิดมาดีแล้วใช่ไหม? เมิงต้องไปบอกปูตินให้หยุดสงครามรึเปล่า ไม่ใช่บอกคนตัวเล็กให้หยุดป้องกันตัวเอง? ปากบอกไม่เชียร์รัสเซีย แต่ตานี่ขยิบให้ปูตินตลอด

ทำเหมือนเซเลนสกี้มีทางเลือกจะสู้หรือยอมแพ้ แต่ปูตินมีแค่สู้อย่างเดียวเท่านั้น แค่นี้ก็รู้แล้วพวกคุณเชียร์ใคร

อีกอย่างที่พวกรักสงบเป็นสล็อธมักไม่เข้าใจ คือการรักษาชาติบางทีไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าคุณชนะศัตรูหรือไม่ แต่สำคัญคือแพ้แบบไหน จะมีกรุงโรมเหลือไหมถ้าโฮเรเชียสไม่ยืนจังก้าขวางศัตรูอยู่บนสะพานแล้วเอ่ยปากว่า

And how can man die better
Than facing fearful odds,
For the ashes of his fathers,
And the temples of his Gods

ถ้าแพ้อย่างผู้กล้าและลูกหลานเอาตำนานการต่อสู้ของคุณไปเล่าต่อ สักวันชาติก็จะเกิดใหม่ได้อีกครั้ง เหมือนที่บทกวียูเครนบอกไว้ตอนต้นนั่นแหละ

Slava Ukraini! Heroiam slava!

Ref :

The Gates of Europe: A History of Ukraine

Ukraine and Russia: From Civilized Divorce to Uncivil War.

สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือยูเครนได้ที่นี่ : https://www.npr.org/.../25/1082992947/ukraine-support-help

ภาพ NYT

ตามนั้นครับ ไอคนที่อ้างนาโต้ ไอกัน ทำแบบนี้รัสเซียต้องทำ

ลองมาเป็นยูเครน แล้วโดนรัสเซียทำแบบนี้ โดนทำให้ประเทศต้องแบ่งแยก อยากรู้ว่าจะทำยังไง เป็นกลางอยู่ไหวมั้ย

นึกสภาพมาเลรับรองให้สามจังหวัดเป็นรัฐอิสระ เอาทหารเข้ามาช่วยปราบทหารไทยด้วย จะรู้สึกยังไง

ไม่รู้ว่าเปรียบเทียบถูกมั้ย

เห็นจารเจียมมาตอบสั้นๆแล้วหายไปเลย

ตั้งหัวมู้ใหม่เถอะครับ คนจะได้เข้ามาอ่านเยอะกว่านี้ เห็นผ่านๆตอนแรก ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับยูเครนเลย

ก็ว่ามันยาวๆเเปลกเหมือนกัน เเต่ไม่รู้ว่าจะตั้งอะไรดีเลยเลยก็อปมาทั้งดุ้น มีเเนะนำมั้ยครับ
*** เเก้ให้สั้นลงล่ะครับ

เม้นเจียม



*โพสก่อนหน้านี้นะ ที่มีประเด็น

เบื้องหลังความขัดแย้ง ผ่านมุมมองยูเครน อะไรแบบนี้ก็ได้ฮะ

เดี๋ยวก็มีผู้รู้มาบอกเล่าประวัติศาสตร์ในเลนส์ของรัสเซีย และเมกาบุกอิรัก อัฟกัน อิสราเอล ปาเลสไตน์
ในขณะที่ประชาชนยูเครนคงกำหมัด อะไรของมรึง เม้นดักไว้ก่อน

ในระดับที่ไม่มีอำนาจใดเหนือกว่า มันไม่มีความเป็นธรรม ยุติธรรมซะทีเดียว
อย่างเรื่องการเข้านาโต้ ถ้าคิดอย่างเป็นธรรมยูเครนก็ควรมีสิทธินะ
แต่ในเรื่องการเมือง เรื่องอำนาจ ในความเป็นจริง ถ้าจะให้อยู่กันได้
ยูเครนก็ไม่ควรเข้าน่ะแหละ

แต่ไอ้การที่รัสเซียไปไล่ยิงไล่ยึดประเทศคนอื่น อย่างนี้ก็ไม่ถูกแน่นอน