เบนซ์โชว์! จุดแข็งยิงเบิ้ล จุดอ่อนซวยเจ็บ 'ราชัน' ทุบชาวเกาะ 3-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด ปิดจ็อบไปไม่ยากเมื่อพวกเขาบุกไปถล่มเอาชนะ มาญอร์ก้า 3-0 โดยได้ คาริม เบนเซม่า โชว์ฟอร์ม ยิง 2 และจ่ายอีก 1 ให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ทำให้ราชันชุดขาวเก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนนจาก 28 นัด นำเป็นจ่าฝูงลาลีก้าต่อไป พร้อมกับทิ้งห่างเซบีญ่าเป็น 10 คะแนน แต่ข่าวไม่ดีคือ เบนเซม่า ยิงได้แล้วเจ็บจนต้องออกจากสนามไปในช่วงท้ายเกม
มาญอร์ก้า
Starting Formation: 4-4-2
12.
อิดดริสซิ บาบ้า

86'
5
10.
ัอันโตนิโอ ซานเชซ

68'
6
17.
ทาเคฟุสะ คุโบะ

78'
6
14.
ดาเนียล โรดริเกซ

78'
6
22.
อังเคล โรดริเกซ

68'
6
ตัวสำรอง
23.
อามัธ เอ็นดิยาย

78'
6
6.
เกลมองต์ เกรนิเยร์

86'
6
9.
อับดอน ปราตส์

68'
6
8.
ซัลบา เซบีญ่า

68'
6
19.
อี คัง-อิน

78'
6
ลาลีก้า
สนาม วิสิต มาญอร์ก้า เอสตดี้
จันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565
กรรมการ โฆเซ่ ซานเชซ
มาญอร์ก้า
0
3
เรอัล มาดริด
0-1 วินิซิอุส จูเนียร์ 55'
0-2 เบนเซม่า 77' (Pen.)
ราชันชุดขาววันนี้มาในสภาพฟูลทีม ในระบบ 4-3-3 เบนเซม่า ค้ำหน้าและมี วินิซิอุส,โรดรีโก้ ขนาบข้าง ตรงกลางเป็น คาเซมิโร่,โครส,บัลเบร์เด้ แนวรับซ้ายไปขวา เมนดี้,อลาบ้า,นาโช่,บาซเกซ และ คูร์กตัวส์ เฝ้าเสาตามเดิม
มาญอร์ก้าฟอร์มกำลังแย่ เกมนี้ในระบบ 4-4-2 พวกเขาสามารถใช้งาน คุโบะ ที่ยืมมาจากมาดริดลงสนามได้ โดยเขาเล่นในแผงกลางร่วมกับ ซานเชศ,บาบ้า,ดานี่ โรดริเกซ ขณะที่ มูริคิ,อังเคล ยืนเป็นคู่หน้า
• เจอกัน 11 ดหลังสุด เรอัล มาดริด ชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 1
• เรอัล มาดริด แพ้แค่ 1 จาก 19 นัดหลังสุดในลีก
• มาดริด ชนะในลีกมา 4 นัดติด
• มาญอร์ก้า แพ้ในลีกมา 4 นัดติด
เบนซ์ได้ซัดทักทาย
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของฝั่งมาดริด จังหวะที่เบนเซม่ารับอบลจากวินิซิอุสหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย เขาครองบอลเบียดกับตัวประกบก่อนได้เหลี่ยมตวัดยิงด้วยซ้ายมุมแคบติดเซฟริโก้
เมนดี้ซัดเต็มข้อเข้าหน้าต่าง
มาดริดได้ลุ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นจังหวะเล่นเตะมุมสั้นแล้ววินิซิอุสกระชากบอลมาทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะหยุดบอลให้เมนดี้ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเข้าหน้าต่างเสาแรก
มูริคีได้โอกาสทองแต่แปหลุดกรอบ
มาญอร์ก้าได้โอกาสทองที่จะขึ้นนำ เป็นจังหวะโอลิบันครอสบอลจากทางริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษตกเข้าเหลี่ยมมูริคิได้แปด้วยขวาแต่โดนไม่ดีปลิ้นออกหลังไป
คุโบะซัดด้วยซ้ายบดหลุดกรอบ
มาญอร์ก้ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เป็นดานี่ โณดริเกซที่เล่นสั้นจ่ายขวางมาให้คุโบะซัดด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งเรียดหลุดกรอบไป
โอลิบันเติมซัดเบาเกินไป
มาญอร์ก้ามาสู้ได้ดีทีเดียว จังหวะนี้ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่โอลิบันเติมขึ้นมาได้บอลลุยถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนตวัดยิงด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งเรียดเบาเข้ามือคูร์กตัวส์
ราชันรอด!มาฟเฟโอ้ฉกซัดล่อเป้าชนเสา
มาญอร์ก้าน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่พวกเขาเล่นชิ่งกันแล้วอังเคลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนโดนนาโช่แหย่เท้าสกัด บอลมาเข้าทางเมนดี้ที่พยายามแตะบอลเล่นเองแต่โดนมาฟเฟโอ้ดักได้ ก่อนที่เขาจะได้เหลี่ยมซัดด้วยซ้ายล่อเป้าชนเสาปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
โครสส่องไกลยังไม่ตรงกรอบ
ราชันชุดขาวบุกได้แต่ยังเจาะไม่เข้า จังหวะนี้โครสรับบอลจากโรดรีโก้ก่อนลองซัดไกลด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกหลังไป
อลาบ้ากดเน้นๆโดนเคลียร์ทิ้ง
โอกาสลุ้นอีกครั้งของมาดริดก่อนจบครึ่งแรก วินิซิอุสกระชากบอลลุยหนีมาฟเฟโอ้ไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนล็อคแล้วให้อลาบ้าที่เติมมาซัดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเรียดแรงแต่ไปติดโอลิบันที่ยืนเคลียร์ทิ้งออกมาจากหน้าปากประตู
สุดท้ายจบครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0 มาดริดครองเยอะแต่ยังหาโอกาสเข้าทำจะแจ้งได้ไม่มาก ส่วนฝั่งมาญอร์ก้ารับรอสวนและโอกาสซัดชนเสาไปหนึ่งทีจากมาฟเฟโอ้
บทจะมาก็มา!วินิหลุดแปลอดขาริโก้ 1-0 ราชันเฮ
มาดริดมาได้ประตูขึ้่นนำจนได้ จากจังหวะที่บัลเบร์เด้ไปเบียดแย่งบอลจากบาบ้าหน้ากรอบเขตโทษมาญอร์ก้า บอลเข้าทางเบนเซม่าที่ไหลถวายพานให้วินิซิอุสหลุดไปยิงล่อเป้าในกรอบฝั่งซ้าย เขาแปด้วยซ้ายลอดขาริโก้ตุงตาข่าย 1-0 ไปเลย
ดานี่ซัดฟรีคิกโด่งข้ามคาน
มาญอร์ก้าได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เป็นดานี่ โรดริเกซที่รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงแต่พุ่งแรงข้ามคานไปไกล
บาบ้าลองซัดไกลติดเซฟ
มาญอร์ก้าพยายามเอาประตูทวงคืน จังหวะนี้บาบ้ารับบอลจากคุโบะแล้วได้วาวเท้ายิงด้วยขวา แต่บอลพุ่งไปติดเซฟคูร์กตัวส์
เบนซ์ส่องโทษไม่เหลือ 2-0 ราชันคลายกดดัน
ราชันชุดขาวมาได้จุดโทษจากจังหวะที่เบนเซม่ากระชากลากลุยมาถึงกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนดึงจังหวะไหลไปหน้าประตูกะถวายพานให้วินิซิอุส แต่วินิซิอุสโดนโอลิบันผลักล้มดื้อๆ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่เบนเซม่าจะรับหน้าที่ซัดไม่เหลือ 2-0 มาดริดคลายกดดัน
เบนซ์เบิ้ล!โขกเนียนกริบ 3-0 ราชันทิ้งห่าง
มาดริดได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายที่โครสไหลมาให้มาร์เซโล่มีเวลาตั้งป้อมเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เบนเซม่าเทคโหม่งสะบัดผ่านมือริโก้เสียบเสาสองเด็ดขาด
เบนซ์ยิงแล้วเจ็บ ราชันต้องเล่น 10 คน
ท้ายเกมมาดริดเหลือผู้เล่น 10 คน ไม่ใช่เพราะใบแดงแต่เป็นเพราะเบนเซม่ายิงได้แล้วมีจังหวะเจ็บเองและต้องออกจากสนามไป พวกเขาเปลี่ยนตัวครบ 5 คนไปแล้วทำให้ต้องทนเล่นด้วยตัวนักเตะที่น้อยกว่าจนจบเกม แต่ยังดีที่นำห่าง
ชาวเกาะยังพยายามตีไข่แตก
มาญอร์ก้าพยายามเอาประตูตีไข่แตก จังหวะนี้อามัธเปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้คัง-อินได้โหม่งแต่บอลก็หลุดกรอบไป
คัง-อินได้ส่องยังติดคูร์กตัวส์
ชาวเกาะได้โอกาสโหมในช่วงท้าย จังหวะนี้ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อมูริคีไหลบอลให้คัง-อินได้ซัดด้วยขวาริมกรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งเรียดไปติดเซฟคูร์กตัวส์ไม่ยาก
ราชันทุบชาวเกาะทิ้ง 10 แต้ม
สุดท้ายจบเกมราชันชุดขาวบุกถล่ม 3-0 โดยได้เบนเซม่ายิง 2 จ่าย 1 แต่ข่าวร้ายคือเขาดันมาเจ็บท้ายเกม อย่างไรก็ตามมาดริดนำจ่าฝูงต่อไปและนำห่างเซบีญ่าเป็น 10 แต้มไปเรียบร้อย
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
23.
แฟร์ลองด์ เมนดี้

80'
6.5
17.
ลูคัส บาซเกซ

71'
7
14.
คาเซมิโร่

61'
7
15.
เฟเด้ บัลเบร์เด้

60'
6
21.
โรดรีโก้

71'
6
ตัวสำรอง
25.
เอดัวร์โด้ คามาวินก้า

61'
6.5
12.
มาร์เซโล

80'
6.5
2.
ดานี่ การ์บาฆาล

71'
6
10.
ลูก้า โมดริช

60'
6
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้

71'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Tue Mar 15, 2022 05:08, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ