ครึ่งหลังหาย! คาลูลูซัดโทน 'มิลาน' เฉือนเอ็มโปลี 1-0 ฉีกหนี 5 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เอซี มิลาน เล่นดีไม่แต่ไม่สุด เมื่อพวกเขาเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เอ็มโปลี หวุดหวิด 1-0 โดยได้ประตูตั้งแต่ครึ่งแรกจาก ปิแอร์ คาลูลู แต่ครึ่งหลังเกมรุกพวกเขาหายไปดื้อๆ ยังดีที่ปิดเกมเก็บสามแต้มนำเป็นจ่าฝูงต่อไปด้วยการมี 63 คะแนนจาก 29 นัด หนีห่างอินเตอร์ มิลาน 5 แต้มแต่แข่งมากกว่า 2 เกม
เอซี มิลาน
Starting Formation: 4-2-3-1
79.
ฟรองก์ เคสซี่

72'
17.
ราฟาเอล เลเอา

83'
30.
จูเนียร์ เมสซิอาส

72'
9.
โอลิวิเยร์ ชิรูด์

83'
ตัวสำรอง
56.
อเล็กซิส ซาเลอแมเคอร์ส

72'
12.
อันเต้ เรบิช

83'
11.
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

83'
10.
บราฮิม ดิอาซ

72'
เซเรีย อา
สนาม ซาน ซิโร่
เสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565
กรรมการ ดานิเอเล่ ชิฟฟี่
เอซี มิลาน
1
0
เอ็มโปลี
มิลานมาเล่น 4-2-3-1 ชิรูด์ ยืนค้ำหน้าและมี เลเอา,เคสซี่,เมสซิอาส คอยหนุน เบนนาเซอร์,โตนาลี คุมกลาง แผงหลังซ้ายไปขวา ฟลอเรนซี่,โทโมรี,คาลูลู,คาลาเบรีย และ เมญอง เฝ้าเสาตามเดิม แนวรุกสำรองยังมีตัวเก๋าอย่าง อิบราฮิโมวิช รออยู่
เอ็มโปลีเน้นรับในระบบ 4-3-2-1 โดยทิ้ง ปินามอนติ ยืนค้ำหน้าและมี เฮนเดอร์สัน,บายรามี คอยหนุน ตรงกลางมี ซูร์คอฟสกี้,อาสญานี่,บันดิเนลลี่ ยืนคุม
• เจอกัน 10 นัดหลัง มิลาน ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 1
• มิลาน ไม่แพ้มา 8 นัดติดทุกรายการ
• เอ็มโปลี ไม่ชนะมา 12 นัดติดทุกรายการ
มิลานทักทายแรงน่าออกนำ
มิลานบุกเข้าใส่และน่าได้ประตูขึ้นนำเร็ว เป็นจังหวะที่เคสซี่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนไหลให้ฟลอเรนซี่ได้ซัดด้วยขวาเน้นๆ ทางกรอบฝั่งซ้าย แต่บอลพุ่งไปติดเซฟวิคาริโอ้อย่างน่าเสียดาย
คาลูลูปั่นทีเด็ด 2-0 มิลานขึ้นนำ
ความพยายามของมิลานเป็นผลสำเร็จ พวกเขาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ชิรูด์ซัดไปติดกำแพงก่อนที่บอลจะเด้งไปเข้าทางคาลูลูที่บรรจงปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาตุงตาข่ายไปเลย เป็นประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้ด้วย
ฟลอเรนซี่ซัดกรอบได้เสียว
มิลานยังบุกต่อเนื่อง คราวนี้ได้ลุ้นจากจังหวะบอลเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วตกเข้าทางเลเอาที่ตอกส้นให้ฟลอเรนซี่เติมมาซัดด้วยซ้ายทางกรอบฝั่งซ้าย แต่บอลพุ่งแรงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ปินามอนติได้ส่องพุ่งข้ามคาน
เอ็มโปลีมาได้โอกาสจบครั้งแรกในเกมนี้ จังหวะที่ฝั่งมิลานเคลียร์ไม่ขาดแล้วปินามอนติเก็บได้หน้ากรอบเขตโทษ เขาวางเท้าซัดด้วยซ้ายทันทีแต่บอลพุ่งแรงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
หล่อเหลาเทคโหม่งโด่งไปไกล
มิลานได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่คาลาเบรียครอสจากทางริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ชิรูด์เทคโหม่ง แต่ก็โดนหนาเกินไปทำให้หลุดโด่งข้ามคานออกหลังไป
หล่อเหลาโขกอีกทีคราวนี้โดนปัด
ก่อนจบครึ่งแรกมิลานเกือบได้ประตูที่สอง จังหวะที่คาลาเบรียครอสจากทางฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ชิรูด์เทคโหม่งลงพื้นจะเข้าอยู่แล้วแต่วิคาริโอ้ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้
เคสซีี่โขกเสาแรกหลุดกรอบ
อีกครั้กต่อเนื่องของมิลาน จังหวะที่คาลาเบรียเปิดเตะมุมทางฝั่งขวาไปที่เสาแรกให้เคสซี่โฉบโหม่งลงพื้นแต่บอลก็พุ่งหลุดเสาแรกไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมิลานที่เล่นได้ดีกว่าและออกนำไปเบาๆ 1-0 จากลูกยิงของกองหลังอย่างคาลูลู
เมญองพุ่งเซฟมิลานหวุดหวิด
เริ่มมาครึ่งหลังเอ็มโปลีเกือบได้ประตูตีเสมอ จังหวะที่บันดิเนลลี่เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ลูแปร์โต้โหม่งเช็ด บอลพุ่งตรงกรอบจะเข้าอยู่แล้วแต่เมญองยังพุ่งปัดมือเดียวเซฟไวได้หวุดหวิด
เมญองงานชุกเซฟสองดอกติด
อีกครั้งที่เอ็มโปลีน่าได้ประตู จังหวะที่บายรามี่เปิดเตะมุมพุ่งโค้งเข้าหาประตูให้เมญองต้องออกแรงปัด บอลยังไม่พ้นอันตรายและไปเข้าทางซูร์คอฟสกี้ที่ยิงซ้ำไปติดเซฟเญองอีกรอบ
เมสซิอาสส่องไกลติดเซฟ
มิลานได้ลุ้นบ้างในครึ่งหลัง เป็นจังหวะที่เมสซิอาสกระชากลากตัดมาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายพุ่งแรงตรงกรอบแต่ก็ไปตรงตัวเข้าซองวิคาริโอ้
เมสซิอาสซัดท่าเดิมยังติดเซฟ
อีกครั้งของเมสซิอาส เขารับบอลจากเคสซี่ก่อนเลี้ยงตัดเข้าซ้ายแล้วปั่นท่าเดิม บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัวติดเซฟวิคาริโอ้เหมือนเดิน
ชิรูด์ได้โหม่งหลุดกรอบไป
ครึ่งหลังมิลานยังหาจังหวะจะแจ้งไม่ค่อยได้ จังหวะนี้โตนาลีเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเป็นชิรูด์ที่เทคโหม่งแต่ก็หลุดกรอบออกหลังไป
มิลานเฉือนเบาๆ 1-0 นำ 5 แต้ม
สุดท้ายไม่มีอะไรเพิ่มทำให้มิลานปิดเกมเอาชนะไปหวุดหวิด 1-0 พร้อมกับเก็บแต้มนำจ่าฝูงหนีห่างอินเตอร์ 5 คะแนน แต่ยังแข่งมากกว่า 2 นัด
เอ็มโปลี
Starting Formation: 4-3-2-1
21.
ลิเบราโต้ คาคาเซ่

63'
20.
ริคคาร์โด้ ฟลามอซซี่

63'
25.
ฟิลิปโป้ บันดิเนลลี่

63'
8.
เลียม เฮนเดอร์สัน

71'
10.
เนดิม บายรามี่

71'
ตัวสำรอง
30.
เปตาร์ สโตยาโนวิช

63'
65.
ฟาเบียโน่ ปาริซี่

63'
15.
มาร์โก เบนาสซี่

71'
9.
แพทริค คูโตรเน่

63'
11.
เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้

71'
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sun Mar 13, 2022 04:47, ทั้งหมด 3 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ