------ในเกมเมื่อวาน หากจะเทียบสิ่งแตกต่างระหว่าง2ทีมที่มาเปิดหน้าสู้กัน ทีมนึงแกะเพรซได้ บีบเพรซดี ส่วนอีกทีมคือตรงกันข้าม ส่วนตัวผมคิดว่ารังนิค เลือกวิธีเล่นผิด ทำให้เรือยิ่งเล่นง่าย เพราะนักเตะเรือบีบเพรซและแกะเพรซเก่งมาก

นักเตะความสามารถเฉพาะตัวสูง
"เบสิค ทักษะ เอาตัวรอด ครองบอลเหนียว เลี้ยงบอล ไหวพริบ คีย์พาส ยิงไกล ทีมเวิร์ค รุมแย่งบอล " แต่ยิงระยะหวังผลสากมาก

สรุปสั้นๆ
------นักเตะเรือความสามารถเฉพาะตัวสูงทั้งนั้น จับทางยากว่าจังหวะไหนจะเลี้ยง จ่ายหรือยิง จนฝั่งรับเอาไม่อยู่ (คู่แข่งส่วนใหญ่จะมาเล่นเน้นรับแน่น กลางกับหลังยืนชิดๆกัน ให้พื้นที่เหลือแคบๆ จะจำกัดการเข้าทำของเรือได้ง่ายกว่า ดึงให้เรือบุกหนักๆ แล้วสวนกลับปังๆ) แต่ถ้ามาเปิดพื้นที่แบบนี้ละก็ เจอเลี้ยงผ่านสบาย
------กลางแมนยูโดนตำหนิหนักมาก แต่เอาจริงๆ ปกติมีแค่ตอนเจอทีมจากเยอรมัน ที่เล่นเกมเปิดขนาดนี้ (และเรือมักผลงานดีเป็นพิเศษด้วย)
------ควรมีเพรซเมื่อพร้อม
------ยิ่งท้ายเกม ผีเพรซเท่าไร ก็ไม่ได้บอลซักที เริ่มมีท้อ หมดแรง ส่วนเรือได้ผลที่ต้องการ ก็ไม่ต้องเสี่ยงเข้าหา ยิ่งทำให้เปอร์เซนต์ครองบอลยิ่งห่างไปอีก

เริ่มจากจังหวะประตู
------ลูกแรกคันเซโล่แทงช่องแคบๆ ทะลุตัวปิด

------จังหวะต่อเนื่อง แบร์นาโดโชว์พริ้วหลบ3 จ่ายให้บรอยยิงง่ายๆ (น้อยทีมที่เจอเรือ แล้วจะเน้นไปรุมตัวเปิด ปล่อยคนในกรอบเหลือน้อย)

------ลูกสอง คันเซโลโหม่งให้ลิช(ไม่รู้ฟลุ็ครึป่าว บอลอัดหน้า) ลิชโหม่งให้โฟเดน ที่เหลือคือโฟเดนโชว์ จบด้วยความคมKDB

------ลูกสาม ลูกสูตร KDBเปิดให้มาห์เรซยิงไกล


------ลูกสี่ กุนโดกันโชว์


จังหวะลุ้นอื่นๆ
------กริลิชโชว์ จบด้วยการยิงของมาห์เรซ

------เบสิก + ทีมเวิร์ก (โหม่งบอลไปทางเป๊ะมาก)

------คีย์พาสจากบรอย


------เลี้ยงกินตัวของแบร์ และคีย์พาสไม่ทันตั้งตัว จบด้วยตีลังกายิงของคันเซโล่

------ชิ่งเร็ว

------KDB ลากผ่านทั้งแผงกลางและแผงหลัง

------การประสานงาน กริลิช โฟเดน แบร์นาโด


------มาห์เรซโชว์


จังหวะสวยๆแม้ไม่ได้จบ
------ความสามารถเฉพาะตัว +ทีมเวิร์ค บีบให้จน ยากมาก

------แทบไม่มีเตะทิ้ง

------AWB เลี้ยงผ่านยากจริง แต่เจอชิ่ง1-2 บอลตัดหลัง ก็มีหลุดเยอะเหมือนกัน (เหตุผลว่าทำไมโฟเดน คันเซโล่ เล่นงานแกได้ดีกว่าไอ้ลิ่ง)

------บอลเตะทิ้งจากแมคโท ลาปอร์ทแทงไม่จับ เล่นจังหวะต่อเนื่องได้เปรียบ

------คีย์พาสจากมาห์เรซ KDBเกือบหลุด

------นักเตะเรือ โดนเข้าเร็ว ไม่มีลน นิ่ง เลี้ยงหลบเบาๆ ครองบอลต่อเนื่อง


จังหวะบีบเพรซ
------จากเกมนี้ จังหวะแย่งบอล 50-50 นักเตะเรือชนะเกือบหมด ทำให้ครองบอลได้มากกว่า

------โดยเฉพาะจังหวะแย่งโหม่งกลางอากาศ เรือโหม่งได้ไม่พอ ยังคอนโทรลจุดตกให้เพื่อนเล่นต่อง่ายด้วย ขนาดแบร์ ที่เตี้ยสุดในแดนกลาง ยังชนะกลางอากาศบ่อย ยิ่งเป็นโรดรี้หรือกองหลัง ยิ่งชนะเกือบตลอด


วิธีรับมือเรือได้ดีที่สุด
------บีบพื้นที่ในกรอบเขตโทษให้แน่นๆ มีตัวซ้อนหลายๆชั้น ให้พื้นที่เล่นน้อย แถมเรือไม่มีตัวจบสกอร์ในเขตโทษ ความอันตรายจะหายไปเยอะมาก

------คนมักคิดว่าการเล่น possession สไตล์เป๊ป จะทำให้นักเตะเด่นขึ้น แต่จริงๆแล้ว การเล่นแบบนี้ที่กดคู่แข่งให้อุดแต่ในกรอบ ทำให้พื้นที่เล่นแทบไม่มี โอกาสที่นักเตะจะเลี้ยงผ่าน หรือออกคีย์พาสสวยๆก็น้อย ถ้าไม่ใช่คุณภาพบอลแบบKDB คนอื่นจะยิงไกลหรือแทงบอลเสี่ยงๆแต่ละทีคือต้องเน้นมาก (เพื่อไม่ให้เจอจังหวะสวนกลับและโดนเป๊ปสวด)

link gif ใหญ่กว่านิด

วิเคราะห์ดีเยี่ยม

หลังแมนยูแม่งกากเกิ้น แทงเป็นทะลุตลอด ดักบอลไม่เคยได้
อย่างลูกแรก มันไปรุมแบนาโด้กันทำไม สามคน ปล่อยเดอบรอยน์เฉยๆ
รุมแล้วก็โดนแทงหายตลอด เดอบรอยน์โคตรโล่ง ซานโช่ก็น่าบีบมาหน่อย
ไม่นัดแนะกันเลย เตเลสก็ชี้ไปเหอะ แมคไกวก็ไปปิดอีกที่นึง
ลูกสองนี่ก็หมดสภาพจัดๆ นอนกองกันสามสี่คน

-

เกือบทุกจังหวะเราจะเห็น สก็อต แมคโมมิเนย์ เชิญยิ้ม ไล่บอลด้วยสายตาเกือบทุกกิ๊ฟ

ตอนแรกคิดว่าแมนยูจะมารับเหนียวๆแล้วรอสวนเหมือนสเปอร์สนะ ผมว่าสเปอร์สทำได้ดี แต่พอมาไล่เพรสสูงเปิดช่องให้แมนซิที่ความสามารถเฉพาะตัวสูง ก็ยับแบบที่เห็น

อยู่ที่การวางระบบและฝึกซ้อมอย่างหนักถึงได้สุดยอดกันแบบนี้ ส่วนนักเตะแมนยูฯไม่รู้มันซ้อมอะไรกันมามีระบบแบบแผนรึเปล่าช่วง 4-5ปีที่ผ่านมา

ใครไม่ทัน กันเนอสยุคไร้พ่าย มาดูซิตี้ตอนจังหวะโบ๊ะบ๊ะต่อบอลแบบนิเลย

ไม่รู้ผมอคติไปมั้ย​ แต่ดูแล้วเหมือนแมคโทไม่เข้าใจตำแหน่งตัวเองเล​ย​ ดูยืนผิดที่ผิดทางไปหมด

ช้ำหนักเลย