ถึงขนาดได้ Ballond’or นี่คือแสดงว่าสุดจัดๆเลยใช่มั้ยครับ ผมไม่ทันได้ดู ถ้าเทียบนี่ประมาณบัปเป้หรือเหนือกว่าเลยมั้ยคับ เพราะตอนได้เหมือนหงส์ยุคนั้นก็ไม่ได้สุดอะไร เหมือนจะได้ก่อนที่ทีมจะได้ ucl อีก มีปัจจัยอะไรที่ทำให้ owen คว้ารางวัลนี้ไปได้ครับ

อารมณ์วาดี้แหละครับ ปีที่ได้น่าจะเพราะผลงาน5แชมป์บอลถ้วย+ทีมชาติด้วยยิงแฮตทริกใส่เยอรมันมันตราตึง555

ผมว่าประมาณซาลาห์ แต่องค์ประกอบทีมลิเวอร์พูลตอนนั้นยังไม่ดีเท่ายุคปัจจุบัน

ลิเวอร์พูลยุคที่มีโอเว่นนักเตะอยู่แดนตัวเองทั้งทีม มีโอเว่นเดินเล่นแถวๆ เส้นกลางสนาม พอคู่แข่งเผลอก็ส่งบอลให้โอเว่นวิ่งร้อยเมตรไปยิงประตู มันสนุกตรงที่นักเตะตัวเล็กๆ อายุแค่ 17 วิ่งแข่งกับกองหลังตัวโตๆ ลุ้นว่าจะยิงประตูได้มั้ย อย่างนัดในตำนานที่ยิงเยอรมัน 3 ลูก โอเว่นก็ลงไปเดินเล่น ได้วิ่ง 3 ทียิง 3 ประตูจบงาน ครึ่งหลังเปลี่ยนตัวออกมานั่งพัก
โอเว่นเทียบกับนักเตะสมัยนี้น่าจะไม่มีนะ ระบบการเล่นฟุตบอลแบบนั้นไม่มีแล้ว

สไตล์วาร์ดี้ กองหน้าที่มีความเร็วสูง

แต่องค์ประกอบตอนนั้นครบ คือจำนวนแชมป์ในฤดูกาลนั้นอะ

ผลงานแก 3 แชมป์บอลถ้วย+ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ + ผลงานทีมชาติก็ค่อนข้างโดดเด่นด้วย มีไปยิงแฮตทริคใส่เยอรมันคาบ้าน แต่ผมจำไม่ได้ว่าปีเดียวกันปะนะ ส่วนปัจจุบันคล้ายใคร ก็คล้ายวาร์ดี้ + โชต้าอะ คือ แกไม่ได้สูงแต่โหม่งค่อนข้างดีเหมือนกัน ถ้าให้เทียบกับเอ็มบัปเป้ บัปเป้อาจจะเหนือกว่าเล็กน้อยครับในช่วงอายุเท่ากัน ตอนที่ไม่เกิน 20 ปี

ผมแฟนแมนยูแต่มีโอกาสได้ดูผมว่าเก่งมากนะสำหรับตอนนั้นถ้าวัดกับยุคนี้ก็อารมเอ็มปับเป้เลยแหละครับ
แต่เสียดายที่ย้ายทีมแล้วดับอะไม่งั้นอาจจะตามรอยโด้อ้วนเลยก็ได้ความสามารถระดับนั้นกับอายุตอนที่ได้บัลลงดอร์

กระชากหาย ยิงแม่น บางทียิงแบบแทงสนุกเบาๆแต่เข้ามุม

ผมว่าเทียบกันไม่ค่อยได้ มัน what if อะ เพราะปจุบันกองหน้ามันจะเล่นยากกว่าอดีต

รูปแบบเกมส์รับบอลสมัยนี้ มันรับเป็นโซนๆ มีตัวซ้อน บีบพื้นที่ เจอทีมเล็กก็แพ็ครับ หลังสาม DM 2 เลยรู้สึกเทียบยาก

แต่ถ้าสไตล์ก็ประมาณวาดี้ กุน ละมั้ง

วาร์ดี้ เวอร์ชั่นอัพเกรดครบ ไอเทมตีบวกมากกว่า

เทียบกับใครนึกไม่ออกแหะ

แต่แกทั้งเร็ว ทั้งคม ใช้โอกาสไม่เปลือง

นัดที่ติดตาเลยก้ชิง FA กับปืน

แกเหมาสองพาทีมแซง ชนะ2_1

ตอนนั้นคือจังหวะวิ่งแข่งกับกองหลังเช่นเวลาโต้กลับ หรือเวลาเฮสกีโหม่งชง ถ้าไม่ตัดฟาวล์ หรือแทบจะลุ้นกดเพิ่มสกอร์ได้เลย เพราะโอเว่นจบสกอร์พอๆ กับฟาวเลอร์ช่วงฮอทๆ แต่เพิ่มเรื่องความเร็ว + สกิลเลี้ยงเข้าไปอีก

มีข้อเดียวที่โอเว่นด้อย คือตัวเล็ก ถ้าไม่เล่นนอกเกมกับโอเว่น จะแย่งบอลจากเท้าก็ยากอีก สรุปคือวิธีหยุดโอเว่นคือเตะ ดึง อย่างเดียว แต่ยุคนั้นฟาวล์แบบน่าเกลียดเกิน คือไม่ได้คิดจะเล่นบอลเลย หยั่งกะเล่นรักบี้ ถ้าจำไม่ผิดยุคนั้นการแจกใบเหลืองหรือแดงจากการเล่นแบบนี้ เหมือนไม่ได้บังคับอะไรกรรมการมากนัก บางทีก็แค่ฟาวล์ธรรมดาไม่มีใบอะไรเลย

หลังจากนั้นโอเว่นก็เริ่มเพิ่มสกิลตัวเอง ด้วยการยิงไกลด้วย ก็คมใช้ได้ เพื่อป้องกันกันจับฟาวล์ของฝ่ายตรงข้าม ที่จ้องจะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้โอเว่นพาบอลเข้าในกรอบเขตโทษได้ แต่แค่นั้นมันไม่พอ เพราะสกิลที่น่ากลัวที่สุดของเขา คือเรื่องความเร็ว การเลี้ยงบอล และการจบสกอร์ กลับไม่สามารถนำมาใช้ได้เท่าที่ควร เพียงเพราะถูกทำฟาวล์(แบบน่าเกลียด) มาตลอด และกรรมการก็เป่าฟาวล์เฉยๆ โดยไม่มีใบอะไรเช่นเคย

ปีต่อมาจากนั้นโอเว่นพยายามเพิ่มความหนาให้กับร่างกายตนเอง น่าจะเพื่อสลัดตัวประกบที่จ้องจะกอดรั้งเขาไม่ให้ไปตลอดเวลานั่นแหละ กล้ามเนื้อเพิ่ม น้ำหนักก็เพิ่ม และฤดูกาลนั้นก็เป็นฤดูกาลที่โอเว่นเจ็บตลอด ที่เท้า ที่ขา เข้าใจว่าเป็นเพราะส่วนขารับน้ำหนักกว่าเดิมมาก เพราะโอเว่นใช้ความเร็วเป็นหลักด้วย และนั่นคือจุดจบความสุดยอดของโอเว่น เมื่อเจ็บแล้ว ความเร็วก็หาย แม้จะยังเหลือการจบสกอร์ที่ดี แต่การหาโอกาสยิงแบบเดิม ก็ยิ่งน้อยลงไป

ผมเพิ่งย้อนกดดูคลิป1-5เมื่อกี้ นอกจากโอเวนแฮททริกแล้ว ผมยังสังเกตุว่า สามลูกแรกที่อังกฤษได้ เกิดจากบอลโด่งเข้าไป แล้วจะมีอีกคนโหม่งตั้งให้ 555 หรือว่านี่เป็นลูกสูตรเข้าทำยุคนั้นครับ จะว่าไปก็เหมือนวิธีโบราณนะ แต่ในคลิปก็ได้ผล

ผมว่าบับเป้

เฮสกีย์ชง โอเว่นจบ

ได้เพราะ3แชมป์บอลถ้วยนั้นแหละ

แล้วในทีมแกคือตัวยิงสตาร์เบอร์1

เห็นแล้วผมนึกถึงโชต้าเวอร์ชั่นที่ตีบวกสปีดกับความคมเข้าไป