BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
23 February 2022 11:59 by C_Phoenix
แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)




พรีเมียร์ลีก...ลีกสูงสุดของอังกฤษถือกำเนิดขึ้นในปี 1992 กับช่วงเริ่มต้นยุค 90 ที่มีแข้งระดับชั้นยอดแจ้งเกิดและสร้างสิ่งที่น่าจดจำตลอดช่วงทศวรรษนั้น แฟนบอลวินเทจอาจรับรู้ได้ถึงความ "เก่งกาจ" ของ 16 แข้งดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี เริ่มนับถอยหลังได้

16. แกรี่ สปีด (ลีดส์, เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิล)



ตั้งแต่พรีเมียร์ลีกถือกำเนิดมาในช่วงระยะเวลา 10 ปีแรก ไม่มีนักเตะคนไหนลงสนามมากไปกว่า แกรี่้ สปีด ด้วยความมุ่งมั่นและสภาพความฟิตที่เกินลิมิต ช่วงอายุ 35-37 ปี เขาลงเล่นทุกนัดตลอด 2 จาก 3 ฤดูกาลนั้นกับ โบลตัน การติดอันดับท็อปไฟว์ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 535 นัด จะไม่มีใครแซงหน้าได้ในเร็ววันนี้

แต่ความสุดยอดของสปีดนั้นมีมากกว่าความสม่ำเสมอ ในช่วงยุค 90 ของเขากับทีมยูงทอง (ซึ่งได้แขมป์ในปี 1991/92),เอฟเวอร์ตัน และ นิวคาสเซิล กองกลางทีมชาติเวลส์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา ความเก่งกาจ ความคิดสร้างสรรค์ ความอดทน ความกล้าหาญ ความเป็นผู้นำ การทำ 80 ประตูในพรีเมียร์ลีก ในทุกๆ 6 หรือ 7 เกม และหลายประตูที่มาจากการโหม่ง ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับผู้เล่นมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายหรือฟูลแบ็คแบบเขา

15. แกรี่ พัลลิสเตอร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, มิดเดิลสโบรห์)



กองหลังสัญชาติผู้ดีที่ค่าตัวแพงที่สุดในยุคของเขาที่ราคา 2.3 ล้านปอนด์ เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 1989-1998 แกรี่ พัลลิสเตอร์ จับคู่เซ็นเตอร์ฮ่าล์ฟกับ สตีฟ บรูซ ได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ฉายาของทั้งคู่ ดอลี่&เดซี่ ดูน่ารักไปสักหน่อย

เกียรติยศส่วนตัว เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีมปิศาจแดง 4 สมัย,เอฟเอ คัพ 2 สมัย,คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย,ซูเปอร์คัพ 1 สมัย,แชร์ริตี้ ขิลด์ 5 สมัย ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในปี 1992 และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 4 ซีซั่นติดต่อกัน เคยทำประตูที่ถูกจดจำได้มากที่สุดในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 1992–93 ตะบันฟรีคิกสุดสวยในช่วงทดเจ็บเป็นประตูชัยเอาชนะ แบล็คเบิร์น 2-1

14.ปาทริก วิเอร่า (อาร์เซนอล)



แข้งเฟรนช์แมนร่างโย่ง 193 เซนติเมตร คือหนึ่งในกองกลางที่ยิงใหญ่ที่สุดแห่งยุค 90 เพราะตอนที่เลยยุคนี้ไปแล้วเขาเพิ่งจะมีอายุแค่ 24 ปีเท่านั้น เล่นให้กับอาร์เซนอลตั้งแต่ปี 1996 หลังย้ายมาจากเอซี มิลาน ร่วมงานกับกุนซืออาร์แซน เวนเกอร์ ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์

ระยะเวลา 9 ปีกับสีเสื้อเดอะ กันเนอร์สในพรีเมียร์ลีก นี่คือสุดยอดมิดฟิลด์ที่เก่งกาจรอบด้าน เก็บบอลเนียน แย่งบอลเก่ง ยิงประตูได้ วิเอร่า เป็นกัปตันทีมปืนใหญ่ในชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกไร้พ่ายประวัติศาสตร์ปี 2003/04 และคว้าแชมป์กับยอดทีมจากลอนดอนรวมทั้งหมดคือ พรีเมี่ยร์ลีก 3 สมัย,เอฟเอ คัพ 4 สมัย,คอมมิวนิตี้ ขิลด์ 4 สมัย รวมทั้งคว้าแชมป์โลกกับทีมขาติฝรั่งเศสในปี 1998 ต่อด้วยแชมป์ยูโร 2000

ตอนนี้ ปาทริก วิเอร่า ในวัย 45 ปี ยังคงทำงานในพรีเมียร์ลีกด้วยตำแหน่งกุนซือของ คริสตัล พาเลซ โดยมีสัญญา 3 ปีในถิ่นเซลเฮิร์ตส์ ปาร์ค

13. เดวิด เบ็คแฮม (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)



ในปี 1999 คู่รักบันลือโลกได้เข้าพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวคือนักฟุตบอลรูปงามเท้าชั่งทองของแมนฯยูไนเต็ ดพกพาดีกรีทีมชาติอังกฤษ ส่วนเจ้าสาวคือ “Posh Spice” วิคตอเรีย อดัมส์ สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาะอังกฤษที่ฮอตที่สุดในโลก คู่รักคู่นี้โด่งดังคับโลกในแวดวงดารานักร้อง ทำให้มีคำถามตามมาว่า เดวิด เบ็คแฮม ที่ได้ใบแดงอื้อฉาวในฟุตบอลโลกปี 1998 นั้นเป็นนักเตะที่เก่งจริงหรือไม่

แน่นอน...เขาเก่ง ด้วยเทคนิคที่ยอดเยี่ยมและความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในทุกการฝึกซ้อม ทำให้เบ็คแฮมในวัย 20 ปีก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่และเป็นตัวหลักของทีมปิศาจแดงในปี 1995 แล้วคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีม ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นฤดูกาล 1996/97 ด้วยการยิงประตูครึ่งสนามที่โด่งดังที่สุดในเกมนัดเปิดซีซั่นกับวิมเบิลดัน มาถึงในฤดูกาล 1999/2000 เบ็คแฮมที่จะเล่นมิดฟิลด์ฝั่งขวามากกว่าที่จะเรียกว่าปีก ทำประตู+แอสซิสต์ไปแล้ว 88 ลูกจาก 175 นัดในพรีเมียร์ลีก...ไม่เก่งตรงไหนเอาปากกามาวง

12. โทนี่ อดัมส์ (อาร์เซนอล)




ในการเดบิวต์ลงเล่นเกมชุดใหญ่นัดแรกให้อาร์เซนอล โทนี่ อดัมส์ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอยู่ข้างหน้าของ แพ็ต เจนนิงส์ ตำนานมือกาวที่เฝ้าเสานัดสุดท้ายให้ปืนใหญ่ นับจากนั้นเขากับแบ็คซ้าย แอชลี่ย์ โคล ที่เล่นเคียงข้างเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของยอดทีมจากลอนดอนมาเกือบ 20 ปีที่น่าประทับใจ ในฐานะกัปตันทีมตั้งแต่อายุ 21 จนถึง 35 ปีในวันรีไทร์ มันเป็นสิ่งที่สุดพิเศษจริงๆ

การเข้ามาของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในปี 1996 ที่เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 5 ของ อดัมส์ ที่ไฮบิวรี่ ทำให้กองหลังจอมแกร่งที่ยอมรับว่าติดเหล้าอย่างหนักกังวลว่าเขาจะถูกเจ้านายคนใหม่เข้ามาจัดการเรื่องไลฟ์สไตล์นอกสนาม อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนทำงานร่วมกันเพื่อขับไล่วัฒนธรรมการดื่มของอาร์เซนอล และ อดัมส์ ยังคงเป็นหัวใจในแนวรับที่มีชื่อเสียงของทีม ในขณะที่ เวนเกอร์ เพิ่มความมีไหวพริบและความลื่นไหลให้กับกองหน้า นำมาซึ่งการคว้าดับเบิลแชมป์ในปี 1998

11. ดาวิด ชิโนล่า (นิวคาสเซิล, ท็อตแน่ม)



บางคนอาจจะมีข้อครหาว่า เราอาจตกหลุมพลางการเป็น "ศิลปินลูกหนัง" ของแข้งผมทองสลวยมันเงาสัญชาติเฟรนช์แมนผู้นี้ แต่มันไม่ใช่เลย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่การท้าทายลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสองปีติดของนิวคาสเซิล เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 ปีของ ดาวิด ชิโนล่า ในถิ่นเซนต์เจมส์ ปาร์คช่วงปี 1995-97 นั่นเอง ส่วนที่ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในปีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์คว้าเทรเบิลแชมป์ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA และ FWA ตกเป็นของ ชิโนล่า ที่พาไก่เดือยทองคว้าแค่ถ้วยลีกคัพ นั่นสามารถบอกได้เลยว่าเขาสร้างอิมแพ็คได้มากมายแค่ไหนในลีกเมืองผู้ดี

10. แมตต์ เลอ ทิสซิเอร์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)



นักฟุตบอลในยุค 90 ที่เล่นให้กับทีมเดียวแบบยาวนานตลอดทั้งยุค อาจจะเป็น เอียน วอล์คเกอร์ ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ แต่ผู้ที่กำหนดทศวรรษนั้นต้องรวม เลอ ทิสซิเอร์ เข้าไปด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่เอาตัวรอดได้ แต่เขาคือนักบุญ "เลอ ก็อด"

แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการเลือกรับประทานอาหาร ไม่ต้องไดเอ็ทเพื่อเสริมสร้างสถานะทางร่างกายที่แข็งแกร่ง เจ้าตัวเคยบอกไว้ว่าเขาสามารถเปลี่ยนเกมในสนามได้โดยไม่ต้องฟิตปั๋งเหมือนผู้เล่นคนอื่นๆ

สุดยอดแข้งระดับพรสวรรค์ ที่สามารถเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้ 7-8 คนได้โดยไม่ต้องใช้ความเร็ว เทคนิคบวกทักษะลูกหนังอันเอกอุ สามารถบันดาลทุกอย่างได้ในสนาม ตลอด 10 ฤดูกาลพรีเมียร์ลีกในถิ่้นเดอะ เดลล์ (สนามเก่าของเซาธ์แฮมป์ตัน) เขายิงไปทั้งสิ้น 100 ประตู กับอีก 64 แอสซิสต์


9. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล)



ในซีซั่น 1993/94 มีกองหน้าอังกฤษ 12 คนที่ยิงได้อย่างต่ำ 15 ประตูจาก 42 นัด แต่ ฟาวเลอร์ แตกต่างออกไปมากกว่านั้น เขาทำสถิติระเบิดแฮตทริกได้เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนั้น ซึ่งใช้เวลาเพียง 4 นาที 33 วินาที ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล 3-0 ขณะที่มีอายุแค่ 19 ปี

ครึ่งนึงจากทั้งหมด 163 ประตูที่ ฟาวเลอร์ ทำได้ก่อนที่เขาจะอายุเต็ม 22 ปีซะอีก อาการบาดเจ็บทำให้ทุกอย่างช้าลงไปหน่อย แต่แค่ถึงช่วงกลางของยุค 90 เขาไม่ใช่แค่เป็นนักเตะที่สุดยอดของพรีเมียร์ลีก - เขาคือ "ก็อด"

8. จานฟรังโก้ โซล่า (เชลซี)



ทำประตูด้วยการตอกส้นใส่นอริช,แอสซิสต์ตักบอลแบบเหมาะเหม็งให้กับกุส โปเยต์ และยิงงามหยดในเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศ อาจจะเป็นไฮไลท์ของแข้งร่างเล็กพรสวรรค์ผู้นี้ แต่กับตำแหน่งนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าว ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกของเขา มีอะไรที่มากกว่าทักษะและการเลี้ยงบอล และในครั้งหนึ่งแฟนบอลเชลซีเคยโหวตให้ จานฟรังโก้ โซล่า เป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสิงโตน้ำเงินคราม และฟุตบอลอังกฤษ

ด้วยการทำงานอย่างหนักในการซ้อม การมาของเขาจากปาร์ม่าในวัย 30 ปี เขากลายเป็นราชาเดอะ บริดจ์ พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ,ลีก คัพ, คัพ วินเนอร์ส คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ก่อนอำลาทีมไปในปีเดียวกับที่ โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์เจ้าของทีมคนใหม่

7. ปีเตอร์ ชไมเคิล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)



ตำนาน "ยักษ์เดนส์" ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เริ่มตั้งแต่ปี 1991 จนมาถึงปีสุดท้ายกับการสร้างความยิ่งใหญ่ "เทรเบิลแชมป์" คว้า 3 ถ้วยในปี 1999 หลายคนอาจลืมว่าตอนนั้นเขาอายุจะเข้า 36 ปี การลงเล่นมากกว่า 60 นัดในทุกรายการตลอดทั้งซีซั่้น ทำให้ ปีเตอร์ ขไมเคิล คิดว่าร่างกายอาจรับไม่ไหวอีกต่อไป ก่อนตัดสินใจย้ายไปเฝ้าเสาที่โปรตุเกสกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน

ขนาดใครว่าไม่สำคัญ นั่นทำให้เขาดูน่าเกรงขามเมื่อยามยืนตระหง่านอยู่ระหว่างเสาประตู แต่การเก็บ 112 คลีนชีตจาก 252 แมตช์ในพรีเมียร์ลีก ไม่สามารถทำได้ถ้าคุณไม่สั่งการเกมรับให้มันเข้าที่เข้าทาง และนั่นคือความฉลาดปราดเปรื่องของมือกาวเดนมาร์ก

6. เอียน ไรท์ (อาร์เซนอล, เวสต์แฮม)



มาสายแต่มานะ! กองหน้าสายสปีดเริ่มต้นอาชีพลูกหนังช้ากว่าปกติ จากทีมนอกลีกสู่คริสตัล พาเลซตอนอายุ 22 ได้ประเดิมทีมชุดใหญ่ตอน 25 ติดทีมชาติอังกฤษตอน 27 หลังจากนั้น 7 เดือนย้ายข้ามฟากลอนดอนมาสร้างตำนานกับอาร์เซนอลเมื่อเดือนกันยายน 1991

ความสำเร็จส่วนหนึ่งคือการเป็นดาวยิงสูงสุดในสีเสื้อเดอะ กันเนอร์ส (จนกระทั่งเธียร์รี่ อองรีแซงหน้าไป) และเล่นให้สิงโตคำรามจนถึงรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2000

ไรท์ตี้อยู่ในทีมชุดดับเบิลแชมป์ของปืนใหญ่ในปี 1997/98 ที่เขายิงได้น้อยที่สุด และในฤดูกาลสุดท้ายกับอาร์เซนอล เขาซัดไป 9 ประตูจาก 10 นัดแรก ก่อนที่จะยอมจำนนต่ออาการบาดเจ็บที่ปีนั้นพวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ โดยที่ ไรท์ เป็นตัวสำรองไม่ได้ใช้ ส่วน คริสโตเฟอร์ เรห์ ได้สตาร์ท มันช่างน่าเศร้า!

5. ไรอัน กิ๊กส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)



เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติชาวเวลส์อย่างแกรี่ สปีด ผู้คนมักจะพูดถึงอาชีพการค้าแข้งที่ยาวนานของ ไรอัน กิ๊กส์ มากไปกว่าความสามารถอันเอกอุ

ดังนั้น จงจำไว้ว่า กิ๊กส์ปีกซ้าย "พ่อมด" เป็นปรากฏการณ์แห่งยุค 90 เขาเร็วจัด จ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ ทำประตูเฉลี่ยหรือแอสซิสต์ในทุกๆ สองเกมตลอดทศวรรษ และมีการยิงฟรีคิกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เลือกได้ว่าจะใช้เท้าซ้ายของเขา หรือขวาของเดวิด เบ็คแฮม ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งการเล่นผันมาเป็นมิดฟิลด์นั้นก็สุดยอดเช่นกันกับจังหวะจ่ายคิลเลอร์พาสที่น่าตื่นตาตื่นใจ

4. รอย คีน (ฟอเรสต์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)



การเป็นกัปตันทีมฟุตบอลถือเป็นบทบาทที่น่ายกย่องอย่างมาก และความสำคัญของมันนั้นสามารถพูดให้มันโอเวอร์ได้ ซึ่งในทางกลับกันนั่นละคือคำนิยามของ รอย คีน...ปิศาจแดงเซ็นสัญญาคว้าตัว "คีโน่" ในวัย 21 ปี ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสโมสร หลังจากที่เขาติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA ในปี 1992/93 ทั้งๆที่จบอันดับบ๊วยกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ปีแรกในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดเขาลงเล่นไปมากถึง 37 นัด

แม้จะสอดแทรกด้วยโทษแบนและอาการบาดเจ็บ แต่กัปตันรอย คือแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมทีม ด้วยความมุ่งมั่นและจัดเต็มในทุกอิริยาบท, อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยเขียนไว้ว่า “เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับผู้เล่นคนนี้”

3. เดนนิส เบิร์กแคมป์ (อาร์เซนอล)



“เรารู้ถึงความสุขในการทำประตูได้ แต่สำหรับผม ความสุขของการทำแอสซิสต์มันอิ่มเอม มันเหมือนกับการไขปริศนา ผมนึกภาพในใจเสมอว่าสิ่งต่างๆ จะออกมาเป็นอย่างไรในสองหรือสามวินาทีต่อมา ผมสามารถคำนวณได้ . มีความยินดีอย่างที่สุดในการทำสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น”

คำพูดของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ในปี 2011 ได้สรุปความน่าดึงดูดใจด้านสุนทรียะของเขาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาไร้ความปรานี ทีมชุดดับเบิลแชมป์ของอาร์เซนอลมีนักเตะซูเปอร์สตาร์หลายคน – การทำประตูสำคัญๆของ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส นั้นถูกประเมินค่าต่ำเกินไป– แต่มีเพียง "ไอซ์เบิร์ก" นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA และ FWA ด้วยผลงาน 27 ประตูจาก 28 เกมลีกในฤดูกาลนั้น ผสมผสานศิลปะเข้ากับชั้นเชิงลูกหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. อลัน เชียเรอร์ (แบล็คเบิร์น, นิวคาสเซิล)



จำนวนการทำประตูไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ไม่มีอะไรจะแสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ในยุค 90 ของ อลัน เชียเรอร์ ได้เท่านี้อีกแล้ว สถิติระเบิดตาข่ายของเขาช่างบ้าบอสิ้นดี

ในระยะเวลา 4 ปีที่แบล็คเบิร์น อดีตหัวหอกเซาธ์แฮมป์ตัน กดระเบิดเถิดเทิง 112 ประตูใน 138 นัด และมีแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นรางวัล

แม้จะมีอาการบาดเจ็บรุมเร้า ดาวยิงก็คือดาวยิง ซีซั่้นแรกของ "ฮอตชอต" กับทีมกุหลาบไฟตอนอายุ 22 ปี เขาเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด (ACL) แต่ก็ยังยิง 16 ประตูจาก 21 นัด...ที่นิวคาสเซิล เขายิง 25 ประตูจาก 31 นัด ได้อันดับ 2 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี PFA และอันดับ 3 ดาวซัลโว ก่อนที่จะเอ็นข้อเท้าฉีก แต่ก็ไม่วายที่ยิงอีก 1 ประตูจาก 2 นัด

ยอดรวมเบ็ดเสร็จ เชียเรอร์ ยิงไป 260 ประตู จาก 441 นัด ในพรีเมียร์ลีก กับ 2 สโมสรเล็กๆ กุหลาบไฟ-สาลิกาดง ที่จบแค่อันดับ 7 ของตารางโดยเฉลี่ย และอีกครั้งที่อยากจะกล่าว มันบ้าบอไหมละ!

1. เอริค คันโตน่า (ลีดส์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)



เอกลักษณ์ของเอกบุรุษประจำตัว "คอปกตั้ง" โด่งดังด้วย "กังฟูคิก" และวลีเด็ดแบบงงๆ "นกนางนวลบินตามชาวประมงลากอวน"...กับแค่ระยะเวลา 4 ปีครึ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คันโตน่าได้สร้างอิมแพ็คแห่งฟุตบอลอังกฤษยุค 90 ได้แบบไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

เมื่อแข้งเฟรนช์แมนอินดี้มาถึงเมื่อพฤศจิกายน 1992 ปิศาจแดง รั้งอันดับ 8 ของตาราง ทำประตูได้น้อยกว่า 2 ทีมในโซนสีแดงซะอีก แล้ว "ก็องโต้" ก็เดินเข้าไปในห้อแต่งตัวราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทิ้งบอมบ์ความมั่นใจให้กับเหล่าผีแดงว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อย ทัศนคติของเขาทำให้เกิดความกระปรี้กระเปร่าเช่นกัน วิธีการเล่นที่เขาผันตัวลงต่ำและเรียกขอบอลก่อนจะขับเคลื่อนตะบึงไปข้างหน้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับเพื่อนร่วมทีม ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1967

ความทรงพลัง แต่ก็ยังเต็มไปความสร้างสรรค์ในเกมคือตัวตนของเขา ทำประตูสำคัญๆได้อย่างต่อเนื่อง ในปี 1995/96 คันโตน่า ทำประตูได้ 6 นัดติดต่อกัน โดยสกอร์คือ 1-0, 1- 1, 1-0, 1-0, 3-2 และ 1-0 ประตูของเขาที่ทำได้รวมถึงเกมที่ชนะนิวคาสเซิล และยิงตีเสมอนาทีที่ 90 จากนั้นเขาก็ทำประตูโทนในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศกับลิเวอร์พูล พาทีมคว้าดับเบิลแชมป์

"ถ้าจะให้พูดชื่อนักเตะเพียงคนเดียวบนโลกนี้ที่ถูกสร้างมาเพื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนนั้นก็คือ เอริค คันโตน่า" คำคมที่ไม่มีใครอยากจะโต้แย้งของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน...
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 1813
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 12:30
[RE]แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90
ชไมเคิ่ลเคยไปเล่นที่แมนซิตี้แถมยังไปทำสถิติเป็นโกลคนแรกที่ยิงในพรีเมียร์ลีกกับแอสตัน วิลล่าด้วยนะครับ ไม่ใส่หน่อยหรอ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Mar 2020
ตอบ: 549
ที่อยู่: ชล
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 13:52
[RE: แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90]
ไม่มี Owen ได้ไง บัลลงดอร์เลยนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 955
ที่อยู่: Turner's Cross Stadium, Curragh Road, Cork, T12 DY8P, Ireland
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 16:09
[RE: แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90]
แกรี่ พัลลิสเตอร์ นี่สุดจริงๆ ขึ้นมาลุ้นประตูจากลูกโหม่งได้เสียตลอด เคยโขกใส่ลิเวอร์พูลสองลูกด้วยนัดนั้นยังจำได้ดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Is fearr Gaeilge briste, ná Béarla clíste.
Broken Irish is better than clever English.
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3397
ที่อยู่: นครราชสีมา
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 16:13
[RE: แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90]
ขาดไปหลายคนเลย

แต่อันดับ 1 ต้องเป็นเดอะ คิง แน่นอน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Sep 2013
ตอบ: 5902
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 16:55
[RE: แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90]
Krith พิมพ์ว่า:
ไม่มี Owen ได้ไง บัลลงดอร์เลยนะ  


โอเว่น ปลายๆยุค 90 กับ 20s ต้นๆ

เลยไม่น่าติดมั้งครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Nobody knows...

ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2010
ตอบ: 8403
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 20:54
แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90
foamkp พิมพ์ว่า:
Krith พิมพ์ว่า:
ไม่มี Owen ได้ไง บัลลงดอร์เลยนะ  


โอเว่น ปลายๆยุค 90 กับ 20s ต้นๆ

เลยไม่น่าติดมั้งครับ  


ถ้าเอาแบบนั้น ตอนโอเวนขึ้น วิเอร่า/เปอร์ตีต์ ก็เพิ่งมาและเด่นไม่นานครับ

แถมบทความยังลากแอชลี่ย์ โคลมาร่วมสมัยกับโทนี่ อาดัมส์ในยุคเริ่มสร้างชื่อได้อยู่เลย...เห็นแบบนี้ จะไปคิดอะไรมากครับ

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Nov 2009
ตอบ: 4970
ที่อยู่: Strawberry Field
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 21:54
[RE: แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90]
คิดถึงแกรี่ สปีด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Gooner and Rossoneri
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 820
ที่อยู่: ยังนึกไม่ออก ติดไว้ก่อนนะ
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 22:14
แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90
แมคมานามา ไม่ติดเสียใจ นักเตะที่ชอบตอนเด็ก เลย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 May 2021
ตอบ: 6483
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 23, 2022 22:36
[RE: แข้งซุปตาร์วินเทจ! 16 ตำนานพรีเมียร์ลีกแห่งยุค 90]
ถ้าไม่นับผลงาน เอาความชอบล้วนๆ
ลี ชาร์ป
จอจี้ คิงคลัดเซ่
แพทริค แบเกอร์
ดิ มัตติโอ้
อัสปริย่า
โทมัส โบรลิน
แก้ไขล่าสุดโดย Joverload เมื่อ Wed Feb 23, 2022 22:41, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel