เอาแบบทั่วไปๆนะครับ ไม่ใช่พวก elite หรือพวกบ้านรวยที่มีคนขับให้

อย่างของผมเมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดจะขับเลย เพราะอยู่กทม นั่งรถไฟฟ้า นั่งรถเมย์ หรือเรียก taxi เป็นหลัก
แต่พอมาอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีรถนี่คือลำบากมาก เพราะขนส่งสาธารณะเข้าขั้นห่วยแตก
เลยไปฝึกขับรถตอนอายุ 22-23 ปี แต่พอเป็นแล้วคล่องเลย จะไปไหนมาไหนก็สะดวก

ซึ่งส่วนตัวผมถือว่าเป็น skill ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรมี โดยเฉพาะอยู่ในประเทศไทย
ขับรถไม่เป็น หรือไม่กล้ารถอะไรก็แล้วแต่ ชีวิตลำบากพอควรทั้งตัวเองและคนอื่น เวลาจะไหว้วานไปช่วยอะไรก็ลำบากเพราะไม่ขับรถ

แต่ก็เจอญาติๆหลายคนเหมือนกัน ที่ทำงานทั้งในกทม หรือต่างจังหวัด แต่ไม่ขับเลยกันเลย โดยให้เหตุผลว่า ไม่กล้าขับบ้าง ขับไม่เก่ง กลัวออกถนน หรือบางคนก็ทำงานเป็น freelance นั่งแต่รถสารณะ แต่พ่อแม่เค้าก็อยากให้ขับเป็น ก็ให้ผมมาช่วยคุย แต่ก็ยากครับ คนไม่อยากขับ ก็ไม่อยากขับจริงๆ --"

สมัยก่อน ที่บ้านผมมีพ่อขับเป็นคนเดียว

ใช้ชีวิตลำบากมาก เพราะบางทีพ่อผมแกก็ว่าง

บางวันมีแบบ จอดรถไว้ที่บ้านแท้ๆ เพราะพ่อไม่อยู่ แต่ยังต้องขึ้นรถโดยสาร

เพราะไม่มีใครขับเป็นอีกแล้ว ทำไรไม่ได้ แม้จะมีรถ

สำหรับผม การขับรถเป็นนี่จำเป็นทุกเพศครับ ในปัจจุบันนี้

ผมว่ามันต้องเป็นไว้ในวันที่เกิดเหตุฉุกเฉินอ่ะ คือจะไม่คล่องไม่เก่ง แต่อย่างน้อยวันที่มีเรื่องฉุกเฉินต้องขับได้บ้าง

ผมนอกจากขับเองได้แล้ว ผมยังพาแฟนไปเรียนขับรถด้วยครับ

เพราะบางครั้งถ้าเราเกิดปัญหาแฟนจะได้ขับแทนได้ เช่น ผมเมา

จำเป็นต้องมี

แต่ส่วนใหญ่ถ้าขับสอง ผมให้เด็กขับให้ตลอด

สำหรับผม เป็นสกิลที่จำเป็นและควรมีครับ

การขับรถเป็นกับการมีรถขับมันคนละกรณีกัน

อย่างตัวผมทำงานเซลล์มาตลอด ต่อให้เก่งแค่ไหน ขับรถไม่เป็นก็คงเดินสายนี้ไม่ได้แน่ๆ

และถามว่ามีใครในบ้านขับไม่เป็นบ้างไหม มีครับ แม่ผมเอง

สุดท้ายก็ลำบากมากครับ แกเคยบ่นน้อยใจบ่อยๆว่าเวลาเร่งด่วนอยากไปไหนมาไหนแบบด่วนสุดๆโดยตัวเองทำไม่ได้ หรือ วันที่ผมเกิดอุบัติเหตุถูกปล้นวันนั้นผมขยับขาไม่ได้แต่เจ้าหน้าที่โทรมาหาแก แกบอกสติแตกมากเพราะตอนนั้นไม่มีใครอยู่ใกล้ๆมีแต่รถจะไปหาผมเองแบบทันใจตอนนั้นมันทำไม่ได้ มันเจ็บปวดในบางเวลาอยู่เหมือนกันครับ

แต่แม่ผมตอนนี้แกแก่ละ ผมก็ไม่ส่งไปหัดนะ เพราะกลัวจะเกิดปัญหามากกว่า

ส่วนตัวเลยมองว่า ถ้ายังไง ทุกคนควรได้เรียนและหัดไว้ครับ แต่จะใช้บ่อยไหม ถนัดแค่ไหนอีกเรื่องนึง แต่มีไว้เผื่อวันนึงจำเป็นต้องใช้จริงๆ มันไม่เสียหายครับ ดีกว่าทำอะไรไม่เป็นเลย เพราะรถสาธารณะหรือแฟนหรือลูกหรือใครก็ตาม ไม่สามารถช่วยเราได้ทันเวลาเสมอครับ

จำเป็นมากๆ

ควรมี ผมโดนล้อมาตลอด เพราะพึ่งขี่จักรยานยนต์เป็นตอนอายุ 20

หลังจากนั้นก็ขับรถยนต์ต่อมา ช่วงใกล้วัย 21

ผมเป็นสายขับ 2 แนว แนวติ๋ม กับ ไวจนคนนั่งลำบาก ไม่มีตรงกลาง ขับติ๋มไว้เวลามีคนนั่ง

ขับไวไปคนเดียวรึกับแฟนเวลารีบ

แต่แฟนผมขับแนวเดียว คือขับดีเลย

มันจำเป็นสำหรับทุกเพศนั่นแหละครับ เหมือนกับการว่ายน้ำเลย
อย่างน้อยที่สุดก็ควรมีพื้นฐาน

ควรขับเป็นทุกคนครับ ไม่ใช่แค่ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ก็ขับได้ อย่างน้อยใช้ไปเลื่อนรถได้ก็ยังดี

ขับรถ กับ ว่ายน้ำ

ควรมีสกิลติดตัวไว้ครับ

ผมนี่พ่อแม่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน ไปเรียนตั้งแต่ประถมยันมต้น ซ้อนต่อมอไซค์ไปเรียนตลอด จนมาเป็นขี่มอไซค์เองไปเรียนตอน ม.4 ลากยาวมาจนทำงาน รถยนต์นี่นานทีปีหนจะได้นั่ง เพราะสังคมผมมีแต่คนไม่มีตังค์ทั้งนั้น ขี่แต่มอไซค์กันทุกคน

พึ่งมาเรียนขับรถตอนอายุ 27 เอาใบขับขี่ ละหลังจากนั้นก็ไม่ได้ขับอีกเลยจนกระทั่งปีนี้แหละ จะต้องมารื้อวิชาขับรถในกทม. เพราะแฟนทนซ้อมมอไซค์ ไม่ไหวละ

บอกตรงผมโคตรเสียวเลย กทม รถเยอะ ดูทรงละไม่ได้หัดขับง่ายๆแบบต่างจังหวัดแน่ๆ (ตอนเรียนขับรถสอบใบขับขี่ทำที่เชียงใหม่ เรียนวันที่ 2 ได้ขับขึ้นดอยสุเทพด้วย ยังงงผมขับขึ้นไปได้ไง ครูฝึกก็บิ๊วใหญ่)

ผมก็ขับไม่คล่อง แต่สำหรับผม ผมบอกเลยว่าโคตรจำเป็นสำหรับขับรถ
กับว่ายน้ำ ซึ่งผมไม่คล่องขับรถ แล้วก็ว่ายน้ำไม่เป็น

จำเป็นครับ ต่อให้คุณไม่มีรถก็ควรขับเป็น