เคยเห็นมีคนบอกว่าที่สมาคมบอลเยอรมันไม่จัดการ RB Leipzig ทั้งที่ทำตัวเลี่ยงกฎ50+1 เพราะตัวกฎขัดต่อกฎหมายของ EU ถ้าเรื่องถึงศาลอาจจะแพ้ได้นี่ จริงไหมครับ?ถ้า

ปี 2009 ฮันโนเวอร์เคยเอาข้ออ้างนี้แหละมาขอโหวตแก้ไขกฏนี้ แต่สมาชิกไม่เอาด้วยก็ตกไป
ต้องเข้าใจก่อนว่าการทำงานของกฏคือถ้าคุณไม่ทำตามกฏนี้คุณจะขอไลเซนน์เพื่อเล่นในบุนเดสลีก้าไม่ผ่าน
หมายความว่าเขาไม่ได้ห้ามคุณทำทีมฟุตบอลคุณจะทำทีมไปเตะที่ไหนยังไงก็ได้ แต่คุณเตะบุนเดสไม่ได้
เพราะไม่มีใบอนุญาติ เห็นความต่างไหมครับ ไม่ได้ห้ามคุณทำทีมฟุตบอลไม่ได้ละเมิดสิทธิ์คุณ
แต่ถ้าคุณอยากเตะในบุนเดสก็ต้องทำตามกฏบุนเดส ไม่พอใจก็ไปที่อื่นได้

ส่วนของไลซิกตามทฤษฎีสโมสรทำตามกฏ 50+1 นะครับ
แต่ที่โดนด่าคือสโมสรอื่นเวลาแฟนบอลสมัครเป็นสมาชิกที่มีสิทธิโหวตเขาจะรับพิจารณาตามความเหมาะสมหมดไม่มีแบ่งแยก
แต่ของไลซิกคือสามารถปฏิเสเธตั้งแต่”การยื่นใบสมัครเลย” ยังไม่ทันได้พิจารณาคุณสมบัติด้วยซ้ำ
แถมตั้งค่าสมาชิกผู้มีสิทธิ์โหวตรายปีไว้แพงมากๆ ถ้าเทียบกับสโมสรอื่นๆ เหมือนเป็นกำแพง
ทำให้ผลมันออกมากลายเป็นว่าไอ้สมาชิกที่มีสิทธิ์โหวตในระบบ 50+1 ของไลซิกเป็นคนขององค์กรหมดเลย
สรุปคือในทางนิตินัยก็ทำตาม 50+1 แต่พฤตินัยคือมีอำนาจบริหารเต็ม
เอาผิดทางกฏหมายไม่ได้ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นอยู่

เคยได้ยินมาว่าถ้าจะเลี่ยงกฎ 50+1 นี้ต้องไปสร้างทีมจากดิวิชั่นล่างสุดขึ้นมา

ซึ่ง RB ทำแบบนั้นมั้ง ผมไม่ชัวว์นะไม่ได้ตามบอลเย่อมัน

ปี 2009 ฮันโนเวอร์เคยเอาข้ออ้างนี้แหละมาขอโหวตแก้ไขกฏนี้ แต่สมาชิกไม่เอาด้วยก็ตกไป
ต้องเข้าใจก่อนว่าการทำงานของกฏคือถ้าคุณไม่ทำตามกฏนี้คุณจะขอไลเซนน์เพื่อเล่นในบุนเดสลีก้าไม่ผ่าน
หมายความว่าเขาไม่ได้ห้ามคุณทำทีมฟุตบอลคุณจะทำทีมไปเตะที่ไหนยังไงก็ได้ แต่คุณเตะบุนเดสไม่ได้
เพราะไม่มีใบอนุญาติ เห็นความต่างไหมครับ ไม่ได้ห้ามคุณทำทีมฟุตบอลไม่ได้ละเมิดสิทธิ์คุณ
แต่ถ้าคุณอยากเตะในบุนเดสก็ต้องทำตามกฏบุนเดส ไม่พอใจก็ไปที่อื่นได้

ส่วนของไลซิกตามทฤษฎีสโมสรทำตามกฏ 50+1 นะครับ
แต่ที่โดนด่าคือสโมสรอื่นเวลาแฟนบอลสมัครเป็นสมาชิกที่มีสิทธิโหวตเขาจะรับพิจารณาตามความเหมาะสมหมดไม่มีแบ่งแยก
แต่ของไลซิกคือสามารถปฏิเสเธตั้งแต่”การยื่นใบสมัครเลย” ยังไม่ทันได้พิจารณาคุณสมบัติด้วยซ้ำ
แถมตั้งค่าสมาชิกผู้มีสิทธิ์โหวตรายปีไว้แพงมากๆ ถ้าเทียบกับสโมสรอื่นๆ เหมือนเป็นกำแพง
ทำให้ผลมันออกมากลายเป็นว่าไอ้สมาชิกที่มีสิทธิ์โหวตในระบบ 50+1 ของไลซิกเป็นคนขององค์กรหมดเลย
สรุปคือในทางนิตินัยก็ทำตาม 50+1 แต่พฤตินัยคือมีอำนาจบริหารเต็ม
เอาผิดทางกฏหมายไม่ได้ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นอยู่

ไลป์ซิกมันทำทุกอย่างตามกฎไง
แต่ที่โดนด่าคือ แฟนบอลไม่มีสิทธิ์ได้เป็นสมาชิกไง

แล้วฮอฟเฟ่น เหมือน rb มั้ยครับเหนโดนโห่ แต่ผมชอบมาก ทีมหมู่บ้านเลกๆมาได้ขนาดนี้

ฮอฟเฟ่นนั่น เจ้าของสนับสนุนมาเกิน20ปี ตามกฎเปิดช่องให้เข้ามาเป็นเจ้าของเต็มตัวได้ครับ แต่แฟนบอลทีมอื่นก็มีไม่ถูกใจเหมือนกัน

ของฮอฟผมไม่ทราบรายละเอียดเลยครับ โดนเกลียดไม่มากพอคนเลยไม่ค่อยพูดถึง

นมนานกาเล ฟุตบอลเยอรมัน นับเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน สมบัติของชาวเมือง
เป็นทั้งกิจกรรมยามว่าง เอนเตอร์เทนคนดู สนับสนุนเข้ากันได้กับวัฒนธรรมชุมชน
ด้วยค่าตั๋วที่ถูก (extremely low ticket prices) ราคาจับต้องได้ ไม่ใช่มาขูดเลือดขูดเนื้อ จากนายทุนที่หวังจะฟันเงินชาวบ้านตาดำๆ

พอโลกหมุนไปเรื่อยๆ กลายเป็นระบบทุนนิยม เริ่มมีเศรษฐี มิลเลนเนียร์
คนร่ำรวยจากธุรกิจอื่นๆมาซื้อสโมสรฟุตบอลต่างๆทั่วโลก
สโมสรฟุตบอลก็กลายเป็น ของเล่นคนรวย ไป ขาดทุนก็ขาย ไม่สนุกหมดไฟก็ปล่อยทิ้ง

ปี 1998 ทางสมาคมฟุตบอลเยอรมัน DFB เลยตั้งกฏ 50+1 ใจความของกฏก็ง่ายๆ
1 แฟนคลับ ประชาชน เป็นเจ้าของสโมสร และมีสิทธิ์โหวตในที่ประชุม
เช่น จ่ายค่าสมัครสมาชิกผู้ถือหุ้นสโมสร สมมติใบละ 20 บาท เป็นเจ้าของร่วมได้เลย
2 ถ้าคุณเป็นเจ้าของมานานเกิน 20 ปี สามารถยื่นเรื่องเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว มีสิทธิ์100% ในสโมสร
เช่น Bayer Leverkusen มาจากพนักงานบริษัทยา, Wolfsburg มาจากผู้ผลิตถยนต์ Volkswagen, Hoffenheim มาจาก นาย Dietmar Hopp

สำหรับคำถาม

1 ทำไมคนเยอรมันเกลียด RB Leipzig?

เพราะ มาจากกลุ่มนายทุนออสเตีย เจ้าของกระทิงแดง ยุโรป หลังจากซื้อทีม RB Salzburg ได้แล้ว จะฮุบกิจการในเยอรมันเพิ่มอีก
RB Leipzig มีสมาชิกสโมสร มีสิทธิ์ออกเสียง 17 คน (คงไม่แต่งตั้งมาทั้งหมดหรอก คงไม่เข้าข้างเจ้าของทุกคน เค้าคงเป็นคนดีจริงๆ ไม่ได้ประชดนะ)
Dortmund มีสมาชิกสโมสร มีสิทธิ์ออกเสียง 170,000 คน
RB Leipzig คิดราคาค่าสมัครสมาชิกสโมสร มหาโหด ใบละ 1000 ยูโร ขณะที่ Dortmund คิดเพียงใบละ 62 ยูโร เท่านั้นเอง



ขนาดชื่อสโมสร ยังเลี่ยงบาลีได้ กฏหมายอื่นๆก็เลี่ยงได้

2 ทำไมประชาชนเยอรมัน ไม่สนับสนุน เจ้าของ Hannover 96 ทำตามสัญญาแล้วไง อยู่ครบ 20 ปี ตามกฏเป๊ะๆ

เพราะ Martin Kind เหมือน Glazer Family ของแมนยู และแย่กว่าด้วย
รักสโมสรก็จริงนะ แต่ผลงานไม่ได้เรื่อง ความสำเร็จไม่มี ถ้วยรางวัลอย่าพูดถึง บริหารห่วย ทำทีมตกชั้น แพ้เละเทะ ไม่มีทรงจะกลับมาได้
ชาวเมืองก็ไม่ค่อยรัก อยากให้คนอื่นที่มือถึง มีความสาสามารถในการบริหารมาเป็นเจ้าของมากกว่า



ป้ายไล่ลุง แปลเป็นไทยว่า ออกเถอะ ลุง

ปัจจุบัน ลุง Martin ก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว
อยู่บ้านเลี้ยงหลานดีกว่า อยู่เป็นประธานให้คนสาปแช่ง


แปลและเรียบเรียงเอง ข้อมูลจาก
https://www.sportsadda.com/football/features/rb-leipzig-hatred-bundeslida-50-1-rule-fans
https://www.dw.com/en/victory-for-hannover-fans-as-martin-kind-steps-down/a-48056230
https://santamonicatravelodge.com/rb-leipzig-most-hated/

บุนเดส กฏ 50+1 ตอนนั้นบังคับใช้กับ 4 ดิวิชั่นสูงสุด
RB ซื้อทีมดิวิชั่น 5 แม่มสุดจริงทีมงานมัน 5555

แต่ทีม RB อยู่ฝั่งตะวันออกนี่ ทีมดัง มีเพิ่มผมก็ว่าดีกว่านะ