[spoil] The Terror Live (2013)
หลายๆวันที่ผ่านมาเห็นพูดถึงเรื่องคนไทยไม่ดูหนังไทย ละครไทยกันเยอะครับ
บางคนก็ว่าเรื่องบท บางคนก็ว่าเรื่องทุน บางคนก็ว่าเรื่องงบสนับสนุน ผมเลยนึกๆไปว่าหนังหรือละครเรื่องไหนบ้างที่ใช้ทุนต่ำ แสดงดี ไม่ขาดทุนแล้วมีรางวัลติดมือ เลยนึกออกมาเรื่องนึงคือเรื่องนี้ครับ
The Terror Live
Release : 2013
Film Length : 1hr 37min (97 min)
IMDB Score : 7.1/10
Rotten Tomatoes : 74%
ทุนสร้าง : 3.12 ล้านเหรียญ US
รายได้ : 35.7 ล้านเหรียญ US
หนังพุดถึงอดีตนักข่าวทีวีที่ปัจจุบันต้องมาจัดรายการวิทยุครับ จนกระทั่งวันนึงมีสายลึกลับโทรมาขู่ว่าจะวางระเบิดสะพานแห่งนึงในเกาหลี
ที่ผมว่ามันน่าสนใจเพราะหนังเรื่องนี้เกือบทั้งเรื่อง (ผมให้ 95-96% เลย) ถ่ายทำอยู่ในห้องส่งวิทยุครับ
หนังเรื่องนี้พูดถึง "การหิวแสง" ของสื่อมวลชนในเกาหลีครับ การเล่นกับเรตติ้งสื่อโดยไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งการลามไปถึงการ "ขโมยผลงาน" ของสื่อมวลชนเบอร์ใหญ่ในหน้าสื่ออีก
จริงๆหนังเรื่องนี้คือหนังเก่าระดับนึง (ราวๆ 8-9 ปีที่แล้ว) ซึ่งมีรีวิว มีสปอยเต็มหน้าเน็ตไปหมด แต่เท่าที่ผมอ่านๆมา มีเว็บนึงคอมเม้นไว้ค่อนข้างดีมากครับ
ว่าหนังพูดถึงประชาชนชั้นสองในประเทศอันใหญ่โต ความหิวแสงไม่รู้จักเวล่ำเวลาของสื่อมวลชน อีโก้ของคนใหญ่คนโตในประเทศที่ถูกใครหักหน้าไม่ได้ และอดีตที่เลวร้ายของตัวเอกคนนี้นั่นเอง
Spoil
https://blogazine.pub/blogs/misteramerican/post/4625
The Terror Live : ชีวิตไพร่ในประเทศเลือดเย็น
เรื่องราวของ The Terror Live เกิดขึ้นในวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง ณ สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ยุนยองหวา อดีตนักข่าวชื่อดังกำลังทำรายการวิทยุ คุยข่าว ในช่วงเวลาบ่าย ๆ ที่มีคนฟังเพียงหยิบมือ นั่นเองที่ทำให้ยุนยองหวารู้สึกเบื่อหน่ายและหวังจะหาทางกลับไปจัดรายการทีวีให้ได้อีกครั้ง กระทั่งวันหนึ่งโชคดีหรือโชคร้ายก็มาหาเขา เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นผู้ก่อการร้ายที่ต้องการคุยกับเขา ในตอนแรกยุนยองหวาไม่สนใจพยายามปิดสายนี้ กระทั่งชายคนนั้นตะโกนบอกเขาว่า ถ้าปิดสายของสะพานมาโปจะถูกทำลาย เขาจึงตะโกนท้าทายให้ชายคนนั้นระเบิดสะพานไปเลยด้วยคำหยาบคาย และชั่ววินาทีนั้นเอง สะพานมาโปก็ถูกระเบิดจริง ๆ ดั่งตาเห็น ท่ามกลางความสับสนของทุกคนในสถานี ยุนยองหวาตั้งสติได้ก่อนและถามโปรดิวเซอร์ของเขาว่า ได้อัดเสียงที่สนทนาเอาไว้หรือไม่ และเมื่อได้ยินว่า มีการอัดเสียงเอาไว้ ยุนยองหวาที่รู้สึกเหมือนสวรรค์มาโปรด เขาคิดว่า เขามีโอกาสจะได้กลับไปทำงานทีวีอีกครั้ง ถ้าได้สัมภาษณ์สดผู้ก่อการร้ายคนนี้ เขาจึงโทรไปต่อรองกับผู้อำนวยการสถานีเรื่องนี้ และในที่สุดเขาก็ได้สัมภาษณ์ผู้ก่อการร้ายคนนี้สมใจ ทว่านั่นเองที่เขาได้พบว่า การสัมภาษณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาก็ได้
แน่นอนว่า หนังมันพาเรากระโจนไปตามติดการสัมภาษณ์ผู้ก่อการร้ายคนนี้กับยุนยองหวาในทันทีทันใด ด้วยจิตใจของเราที่พยายามเอาใจช่วยชายคนนี้ให้สามารถสัมภาษณ์ผู้ก่อการร้ายคนนี้และจับตัวเขาได้ตามสูตรของหนังทั่วไป ทว่าสิ่งที่เราได้จากดูพฤติกรรมของยุนยองหวานั้น เราจะพบว่า เขาเป็นตัวละครที่มีสภาพไม่น่าเอาใจช่วยเลยแม้แต่น้อยเลยด้วยซ้ำ เริ่มจากการที่เขาเลือกจะปกปิดเทปการสัมภาษณ์ของเขากับผู้ก่อการร้ายทั้ง ๆ ที่เขาควรจะโทรบอกตำรวจเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับเลือกจะเก็บมันไว้ก็เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการกลับไปเป็นผู้อ่านข่าวอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งนิสัยชอบพูดจาหยาบคาย ไม่ไว้หน้าใคร คิดหาแต่ผลประโยชน์ท่าเดียว แน่นอนว่า นอกจากยุนยองหวา ที่เรารู้สึกได้ถึงความเลือดเย็นของมนุษย์แล้ว อีกคนที่เรารู้สึกได้ถึงความเลือดเย็นนั่นก็คือ ผู้อำนวยการสถานีของยุนยองหวานั่นเอง ซึ่งเขานั้นคิดเพียงอย่างเดียวก็คือ การทำเรตติ้งของรายการนี้ให้ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยไม่สนใจว่า ใครจะต้องตายหรือสังเวยกับระเบิดด้วยซ้ำ เพราะ สิ่งที่เขาต้องการคือ ดราม่า ดราม่าที่จะทำให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นไม่แปลกใจที่เราจะได้เห็น เขาพูดออกมาในเชิงแล้งน้ำใจว่า ให้ปฏิเสธข้อเสนอของผู้ก่อการร้ายไปซะ ซึ่งหมายความว่า ตัวประกันที่เหลืออยู่บนสะพานที่ขาดสองท่อนจะต้องตายทั้งหมด
รวมทั้งอดีตภรรยาของยุนยองหวาที่เป็นผู้สื่อข่าวภาคสนามอยู่ที่สะพานนั่นด้วย
และในที่สุด ชายหนุ่มผู้ก่อการร้ายก็ถูกฆ่าตายด้วยคมกระสุนปืนของรัฐบาลตามบทบาทที่ถูกวางเอาไว้ว่า เขาจะต้องตาย
คนใหญ่คนโตพวกนั้นวางบทไว้ว่า เขาจะต้องตายด้วยเหตุผลที่ไม่ใช่ว่า เขาระเบิดสะพาน แต่เขาทำเหยียบหน้าเหล่าคนใหญ่คนโตเหล่านั้นเข้าเต็มตีนที่มาท้าทายอำนาจของพวกเขาและทำให้พวกคนใหญ่โตทั้งหลายรู้สึกว่า การถูกเหยียบหน้าโดยคนตัวเล็ก ๆ โดยไพร่ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งแบบนี้เป็นเรื่องเสียหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาจะต้องตายเพื่อให้รัฐบาลยังคงอำนาจและมีความศักดิ์สิทธิ์ต่อไป โดยไม่สนใจว่า เขาเองก็เป็นประชาชนอีกคนหนึ่งเหมือนกันที่ถูกรัฐกระทำให้ต้องพบกับความวิบัติ และการที่เขาไม่สามารถไปเรียกร้องความยุติธรรมจากใครได้ ทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่นอกลู่นอกทางแบบนี้
ก่อนจบลงด้วยความตายที่รัฐมอบให้เขาในฐานะปีศาจร้ายที่ต้องถูกกำจัดนั่นเอง