ถ้าผมเปนท่าน ก่อนน้องจะออกไปรับของกับแกรป ผมคงหยิบเสื้อมาคลุมให้น้อง แค่นั้นแหละ

เด็กสมัยนี้ไปพูดอะไรเยอะไม่ได้หรอกครับ

แต่ผมเองไม่เคยมีพี่น้อง คงบอกอะไรได้ไม่เยอะ

เอาแบบไม่ตลกนะ ถ่ายรูปมาลง SS ให้ชาว SS เม้น

แล้วเอากระทู้ให้น้องดู น้องจะได้เข้าใจว่า ผช ส่วนใหญ่โรคจิตขนาดไหน

เผื่อจะกลัวขึ้นมาบ้าง

บางสิ่งบางอย่าง เสียไปแล้ว ไม่ได้คืนนะ

ถ้าโจรข่มขืนมันมีสำนึกว่าสิทธิการแต่งตัวอยู่ที่ผญ
มันก็คงไม่ข่มขืนหรอกครับ
แต่เพราะมันคือโจรไง โจรอะ มันไม่มีสามัญสำนึกอยู่แล้ว

บอกน้องไปครับว่า กรูห่วงมึงไง กรูผิดมั้ย

ถ้าทุกคนเคารพสิทธิ และทำหน้าที่ตัวเองล่ะก็...คุฯณน้องคิดว่าประเทศจะมาถึงจุดนี้ไหม?

เป็นเรื่องที่เคยคิดจนตกตะกอนเหมือนกันว่า ถ้ามีลูกสาวจะสอนเขายังไง
คือบางทีก็ต้องก้าวข้ามเรื่องพวกนี้ไป แล้วไปสอนเรื่องของความเหมาะสม และให้เกียรติแทนครับ

คือต้องสอนให้เขาเข้าใจว่าทุกๆที่ ทุกๆสถานการณ์มันมีความเหมาะสม
และก็ต้องให้เกียรติทุกๆคน อย่างอยู่ในบ้านมันก็อาจจะแต่งตัวแบบนั้นได้
แต่การทำตามใจตัวเองแบบนั้น มันก็คือการไม่ให้ความ respect กับ
พ่อ แม่ และคนอื่นๆในบ้านไหม แล้วการแต่งตัวแบบนั้นมันออกไปเจอ
คนอื่นมันก็ไม่เหมาะสมในบริบทสังคมไทย และยังไม่ให้เกียรติ
คนขับ grab อีกด้วย ใช่ครับเราควร respect คนอื่นอย่างเท่าเทียมกัน
เขาอาจจะเป็นเพศที่สาม และเห็นว่าหัวนมผู้หญิงเป็นสิ่งน่ารังเกียจก็ได้
แล้วผมใส่ boxer ไข่ห้อย เสื้อกล้ามขนแผ่ม ออกไปเจอคนขับผู้หญิง
มันก็ไม่เหมาะสม และไม่ให้เกียรติคนอื่นเหมือนกัน

การแต่งตัวนอกบ้านก็เหมือนกัน การไปสถานที่หนึ่งๆมันก็มีความเหมาะสม
และการให้เกียรติคนอื่นไม่เหมือนกัน อย่างสถานที่ราชการผมก็ไม่ถึง
ขนาดคิดว่าการใส่รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้นมันผิดนะ อันนั้นมันก็เกินไป
แต่เราก็ไม่ควรใส่ sportbar กางเกงรัดรูป ไปในที่ๆคนเยอะแบบนั้น
ชุดออกกำลังมันก็ควรอยู่แค่ใน fitness

ส่วนการ nobar ออกนอกสถานที่นั้นมันก็ต้องยอมรับว่ามันยังไม่เหมาะสม
ในบริบทสังคมไทย บางอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงทันทีไม่ได้ แต่ถ้าบอกว่า
ประเทศอื่นไม่เห็นเป็นไรเลย ผมคงสอนเขาได้แค่ว่า ก็ทำตัวให้เป็น
ประชากรคุณภาพระดับที่สามารถไปขอ citizenship ประเทศที่อยากอยู่
ให้ได้ละกัน

คือถ้าเราไม่สนใจควรเหมาะสม และไม่ให้เกียรติคนอื่นๆในสังคมเลย
เราก็อยู่ที่ไหนไม่ได้ทั้งนั้นอะ เพราะเราไม่ได้หัวก้าวหน้า จริงๆแล้วเรา
แค่อยากทำตามใจตัวเองแค่นั้นแหละ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเนื้อแท้แล้ว
เราก็ไม่ได้ต่างจากผู้มีอำนาจที่เรารังเกียจอยู่ตอนนี้หรอกครับ

หนามยอกต้องเอาหนามบ่งครับ เราก็แก้ผ้าไปรับของมั่งเลย ขู่ไปเลยถ้าไม่เลิกแต่ตัวแบบนี้พี่ก็จะแก้ผ้าออกมารับของอยู่แบบนี้แหละ

ผมกลับกันตอนแรกน้องผมก็เป็นนะ พ่อผมปวดหัวทุกวันเตือนแล้วเถียงคอเป็นเอ็นแบบนี้เลย แล้วเริ่มทะเลาะกันหนักเรื่องแต่งตัว พ่อผมก็หัวโบราณนิดๆชอบให้น้องแต่งตัวเรียบร้อย ให้แกซื้อเสื้อให้นี่ไม่ต้องเดาสีเลย ไม่กากีก็กรม

สุดท้ายผมไปคุยกับน้องบอกเวลาอยู่บ้าน ไปไหนกับที่บ้าน มันมีแค่เรื่องเดียวเนี่ยแหละ คิดซะว่าทำเพื่อพ่อละกัน ส่วนจะเตรียมชุดไปเปลี่ยนถ่ายรูปสวยๆ ผมไม่ว่านะ แต่ไปอธิบายให้พ่อฟัง จนตอนนี้เข้ากันได้หมดละ พออยู่บ้าน ไปไหนกับพ่อมันก็เปลี่ยนมาใส่เดรสยาวแทน

คนเราไม่ชอบที่จะถูกตำหนิ บังคับ หรือสั่งสอนคนรับ แทนที่จะทำแบบนั้นเรามาคุยหาทางออกกันดีกว่า ลองนั่งคุยกันดีๆ

ควรจะเตือนแบบกันเองนะไม่ใช่เตือนแบบ จริงจังดุด่ส
ตอบในฐานะคนเคยมีน้องสาว น้องผมเสียคนไปเพราะที่บ้านเอาแต่ดูด่า ส่วนผมเองก็ยังคิดอยู่ว่าทำไมผมถึงไม่ทำตัวให้สนิทกับน้องสาวในช่วงเวลาที่ พ่อแม่ดุด่า ผมกลับหงุดหงิดใจนพฤติกรรมของน้องผมเหมือนกันจนน้องผมเหมือนขาดที่พึ่ง เวลามองพี่น้องคนอื่นรักกันดีผมนึกถึงโมเม้นท์แบบนั้นไม่เจอเลย มีแต่แบบหงุดหงิดเวลาชอบแอบมาเล่นคอมในห้องผมบ้าง ขโมยของผมบ้างแต่ไม่เคยคุยกันเลยแบบจริงจังว่าทำไปทำไมเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายก็หนีออกจากบ้านไปเรียนไม่จบ ท้องกลับมา พอคลอดได้ไม่นานก็ไปกลับเช้ากลุ่มแว้นอีก ตกมอไซเสียไป

ตามความเข้าใจผมเเม่มต้องเเยกประเด็นเเล้วอะ
ประเด็นการเเต่งตัวเข้าใจ มรึงอยู่ในบ้านอยากใส่อะไร ก็ได้ไม่เป็นไร
เเต่ประเด็น คือ ความปลอดภัย เราไม่สามรถรุ้ใจทุกคนได้ว่า
จะคิดเเบบไหนกับเรา ถ้าคนจิตใจดี เขาอาจะเฉยๆ
เเต่ถ้าคนที่คิด เเล้วเราไปทำให้มันจาก1 เป็น 2 จาก 2เป็น3
เพื่ออะไร จากที่เขาจะมาส่งของเเล้วไป
กลับมาส่งของเเล้วทำร้ายร่างกายหรืออะไรก็เเล้วเเต่
มันดูไม่คุ้มเลย เเค่ไปหยิบเสื้อคลุมหรืออะไรมาปกปิด
มันไม่ยากเลย เพื่อเเลกกับความปลอดภัย

เฟมทวิตชัดๆ กูจะทำอะไรก็ได้สิทธิ์กู เป็นห่วงเท่ากับเสือก ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ความคิดกูถูกเสมอ ทั้งๆที่มันไม่เข้าใจอะไรเลย
เหมือนเราเจอรถย้อนศรมากำลังจะชนเราแบบว่าถ้าชนคือเจ็บหนักหรือตายแน่ๆ วินาทีนั้นยังยืนกรานในสิทธิความถูกต้องรอให้รถชนอยู่มั้ยหรือจะหลบเอาชีวิตรอด