'แบนาร์โด้' เบิ้ล! 'ราฮีม' ส่องปิดท้ายเรือสบายอัดสปอร์ติ้ง 5-0 จ่อลิ่ว
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ถล่มเละสบายยันเกมนัดสองสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เหนือกว่าชัดเจนและประตูไหลมาเทมาได้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เหมาสองสมทบด้วย ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเดน และลูกยิงสวยๆของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นการส่งท้าย เรือใบสีฟ้า เอาชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ท่วมท้น 5-0 จ่อเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ
สปอร์ติ้ง ลิสบอน
Starting Formation: 3-4-2-1
24.
เปโดร ปอร์โร่

82'
5.5
17.
ปาโบล ซาราเบีย

75'
5.0
28.
เปโดร กอนซัลเวส

50'
5.0
21.
เปาลินโญ่

75'
5.5
ตัวสำรอง
15.
มานูเอล อูการ์เต้

50'
5.5
7.
บรูโน่ ทาบาตะ

75'
5.5
9.
อิสลาม สลิมานี่

75'
5.5
13.
หลุยส์ เนโต้

82'
-
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
สนาม เอสตาดิโอ โจเซ่ อัลวาลาเด้
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565
กรรมการ เซอร์ดาน โยวาโนวิช
สปอร์ติ้ง ลิสบอน
0
5
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0-1 มาห์เรซ 7'
0-2 ซิลวา 17'
0-3 โฟเดน 32'
0-4 ซิลวา 44'
0-5 สเตอร์ลิ่ง 58'
หลักๆแล้ว สปอร์ติ้ง มีการโรเตชั่นในตำแหน่งแผงหลังด้วยการให้ ปอร์โร่ ลงตัวจริงแทน เฟดดัล ส่วนแดนกลางส่ง ปัลญินญ่า ออกสตาร์ทและแดนหน้าเป็น กันซัลเวส ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ ไร้ วอล์คเกอร์ ในตำแหน่งแบ็คขวาเลยให้ สโตนส์ ขยับมายืนแก้ขัดแทนและ คันเซโล่ เล่นแบ็คซ้าย แดนกลาง เดอ บรอยน์ กับ โรดรี้ ก็คืนตัวจริง
มาอย่างไว! KDB ไม่ล้ำจ่ายให้ มาห์เรซ ยิงนำ
โอกาสยิงหนแรกของ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นประตูเลยจากที่ คันเซโล่ แทงให้กับ แบร์นาร์โด้ สอดเข้าเขตโทษทางซ้ายหักมาให้ โฟเดน ยิงติดเซฟบอลเด้งเข้าทาง เดอ บรอยน์ จ่ายมาที่ มาห์เรซ ตรงกลางยิงเข้าไปนิ่มๆ
กรรมการต้องใช้เวลาพักนึงย้อนเช็คว่าเป็นล้ำหน้าหรือไม่ก่อน VAR แจกให้เป็นประตู แมนฯ ซิตี้ นำทันที 1-0
เรือต่อเนื่อง! สโตนส์ โหม่งตัดหน้าประตูออกหลัง
แมนฯ ซิตี้ ลุยต่อแล้วมีลุ้นได้ประตูเพิ่มจาก เดอ บรอยน์ กลางสนามทิ้งยาวให้ สเตอร์ลิ่ง ควบไปดึงจังหวะไว้หน้าเขตโทษก่อนเปิดเข้าเขตโทษจบด้วย สโตนส์ พยายามโหม่งตัดหน้านายด่านแต่ออกหลัง
เรือแล่นฉิว! แบร์นาร์โด้ ฮาล์ฟวอลเล่ย์เช็ดคานเข้า
แล้ว เรือใบ ก็มาได้ประตูเพิ่มเข้าจนได้จากเตะมุมทางขวาเปิดเข้าไปบอลโหม่งกันยังลอยอยู่แถวเสาไกลก่อนที่ แบร์นาร์โด้ จะวิ่งมายิงฮาล์ฟวอลเล่ย์เต็มข้อส่งบอลเช็ดคานเข้าประตูไปอย่างยอดเยี่ยม แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 2-0
สปอร์ติ้งได้ส้มหล่นแต่ กอนซัลเวส ไม่ผ่าน คันเซโล่
สปอร์ติ้ง เกือบจะได้รับส้มหล่นเสียแล้ว แมนฯ ซิตี้ ดันจ่ายบอลพลาดในแดนตัวเองเข้าทาง กอนซัลเวส ดวลกับ คันเซโล่ แต่พาบอลไปไม่ผ่านโดนดักไว้ก่อนเข้าเขตโทษ
ไหลเลย! มาห์เรซ ปาดเรียดถึง โฟเดน ยิงตุงสาม
แล้วพอ แมนฯ ซิตี้ ก็เอาประตูเพิ่มไปได้อีกลูกหลังจาก มาห์เรซ ทางขวารับบอลมาพาเข้าเขตโทษล็อกหาเพื่อนก่อนจะปาดเรียดไปหน้าประตูแนวรับ สปอร์ติ้ง สกัดกันไม่ได้ โฟเดน เกี่ยวไปล่อเป้าไม่พลาดพาทีมนำ 3-0
สปอร์ติ้งขอทวงสักลูก กอนซัลเวส ยิงไกลออกหลัง
สปอร์ติ้ง โดนไปเยอะพยายามจะทวงคืนลูกนึงแล้วได้โอกาสที่ เปาลินโญ่ จ่ายมาให้ กอนซัลเวส ตัดสินใจยิงไกลแต่ก็ห่างไกลจากปากประตู
เขาอีกแล้ว! ราฮีม จ่ายย้อนให้ แบร์นาร์โด้ ยิงแฉลบเข้า
ก่อนหมดครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ มาได้เพิ่มอีกลูกนึงด้วย เริ่มจากการถ่ายบอลออกซ้ายแล้ว คันเซโล่ เป็นคนเปิดข้ามแผงหลังเข้าเขตโทษให้ สเตอร์ลิ่ง ตามไปเก็บแล้วจ่ายย้อนมาให้ แบร์นาร์โด้ ยิงลอดขากองหลังแฉลบเข้าประตู แมนฯ ซิตี้ นำสบายๆ 4-0
เกือบแฮตทริก! แบร์นาร์โด้ โหม่งมุมแคบเข้าแต่ล้ำหน้า
กลับมาครึ่งหลังเกือบจะมีประตูเพิ่มให้ แมนฯ ซิตี้ โดยทันที ด้วยบอลจาก มาห์เรซ ริมกรอบเขตโทษทางขวาจ่ายย้อนให้ เดอ บรอยน์ เปิดไปเสาไกลมี แบร์นาร์โด้ วิ่งมาโหม่งมุมแคบกดพื้นเบียดเสาเข้าไปแต่ VAR ย้อนเช็คเป็นล้ำหน้า
ลูกห้ายังมา! ราฮีม ส่องไกลโค้งๆเสียบสามเหลี่ยมยอดเยี่ยม
แมนฯ ซิตี้ ยังมาเรื่อยๆแล้วก็เอาประตูบวกเพิ่มไปอีกลูก หลังจาก โรดรี้ โหม่งดักบอลกลางสนามจ่ายต่อ แบร์นาร์โด้ ตามด้วยส่งให้ สเตอร์ลิ่ง หน้าเขตโทษเข้าขวายิงโค้งๆเสียบสามเหลี่ยมไปเลย แมนฯ ซิตี้ นำยาวๆ 5-0
ประตูนี้ยังเป็นลูกที่ 150 ในเส้นทางอาชีพของ สเตอร์ลิ่ง ด้วย
KDB โหม่งให้ ลาปอร์ต วิ่งมายิงโด่งออกหลัง
สปอร์ติ้ง บุกมาไม่ได้ทำให้ เอแดร์ซอน ได้ออกแรงสักทีกลับกัน แมนฯ ซิตี้ ยังมาหาโอกาสจบได้เรื่อยๆจากเตะมุมทางซ้ายจ่ายสั้นวนออกมาถึงตรงกลางที่ มาห์เรซ ก่อนเปิดให้ เดอ บรอยน์ วิ่งไปโหม่งตั้งเข้ากลางเขตโทษ ลาปอร์ต ยิงโด่งออกหลัง
เรือยังครองเกมเหมือนเดิม
ผ่านมาจนถึงช่วง 15 นาทีสุดท้ายเกมยังเป็นของ แมนฯ ซิตี้ เหมือนเดิมแม้จะไม่มีโอกาสลุ้นเพิ่มโดยที่ สปอร์ติ้ง ก็พยายามแล้วแต่ยังทำอะไรไม่ได้
คันเซโล่ ยิงหน้าเขตโทษยังโด่งไป
กลับมาเป็น ซิตี้ ได้จบอีกครั้งหลังบุกกันขึ้นมาทางขวา สเตอร์ลิ่ง จะหลบเข้าเขตโทษโดนดักไว้หลายด่านสุดท้ายบอลเข้าทาง คันเซโล่ ยิงหน้าเขตโทษโด่งออกไป
เรือเล่นไปเรื่อยมีจังหวะบุกก็บุก
ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ ก็ยังสบายเลยเล่นกันไปเรื่อยๆมีจังหวะให้บุกก็บุก ซินเชนโก้ ได้เติมขึ้นริมเส้นไปทีก่อนเปิดเรียดเข้าเขตโทษแต่โดน อาดาน ดักง่ายๆ
จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ สปอร์ติ้ง ไปแบบสบายๆ 5-0 คว้าชัยไป 19 นัดจาก 21 เกมหลังสุดและสกอร์แบบนี้ทำให้พวกเขาแทบไม่ต้องไปลุ้นนัดสองเลยจ่อเข้ารอบสุดๆ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
14.
อายเมอริค ลาปอร์ต

84'
6.5
5.
จอห์น สโตนส์

61'
6.5
16.
โรดรี้

73'
7.0
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา

85'
8.5
47.
ฟิล โฟเดน

61'
7.5
ตัวสำรอง
6.
นาธาน อาเก้

84'
-
8.
อิลคาย กุนโดกาน

61'
6.0
25.
แฟร์นานดินโญ่

73'
6.0
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้

61'
6.0
48.
เลียม ดีแล็ป

85'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Feb 16, 2022 05:16, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ