'เลเอา' ยิงหัววัน! มิลานตุงเดียวอยู่ซิวลาซามพ์ 1-0 ขึ้นฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
มีโอกาสให้ขึ้นเป็นจ่าฝูงแล้ว เอซี มิลาน ก็ไม่พลาดได้ประตูตั้งแต่นาทีที่ 8 จาก ราฟาเอล เลเอา แถมยังหาโอกาสเพิ่มได้เรื่อยๆขาดเพียงแค่ความคม ถึงอย่างนั้น รอสโซเนรี่ ยังเป็นฝ่ายเอาชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 ขึ้นมานำเหนือ อินเตอร์ มิลาน 1 แต้มโดยที่แข่งมากกว่า 1 นัด
เอซี มิลาน
Starting Formation: 4-2-3-1
25.
อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่

89'
6.5
4.
อิสมาแอล เบนนาเซอร์

75'
7.0
10.
บราอิม ดิอาซ

57'
5.5
17.
ราฟาเอล เลเอา

57'
7.0
30.
จูเนียร์ เมสซิอัส

57'
6.5
ตัวสำรอง
56.
อเล็กซิส ซาเลอมาเคอร์ส

57'
6.0
12.
อันเต้ เรบิช

57'
5.5
20.
ปิแอร์ คาลูลู

89'
-
33.
ราเด้ ครูนิช

75'
6.0
79.
ฟรองค์ เคสซี่

57'
6.0
ฟุตบอลเซเรีย อา
สนาม ซาน ซิโร่
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565
กรรมการ ดานิเอเล่ ชิฟฟี่
เอซี มิลาน
1
0
ซามพ์โดเรีย
เกมนี้ มิลาน ได้ โทโมรี กลับมาคุมหลังแต่ต้องโยก ฟลอเรนซี่ ไปคุมแบ็คซ้ายแทน เตโอ ส่วนแดนกลาง เบนนาเซอร์ ได้ออกสตาร์ทแทนที่ เคสซี่
ซาม์โดเรีย เองไม่มี กับเบียดินี่ ที่เจ็บยาวปรับแผนเล็กน้อยให้ คอนติ ลงมาเล่นริมเส้นแทนแล้วเหลือ คาปูโต้ ไว้ในแดนหน้าโดยมี เซนซี่ สนับสนุน
มาไว! เมญอง เปิดยาวถึง เลเอา ควบไปยิงนำ
มาถึง มิลาน ก็เอาประตูออกนำเลยเป็นจังหวะที่ เมญอง มองหาเพื่อนแล้วเปิดยาวจากเขตโทษตัวเองขึ้นมาให้ เลเอา ริมเส้นซ้ายก่อนใช้ความเร็วกับความแข็งผ่าน เบเรซีนสกี้ เข้าเขตโทษมากดมุมแคบเข้าเสาทางเสาไกลส่ง มิลาน นำ 1-0
หลังจากนั้นยังไม่มีฝั่งไหนหาโอกาสได้
หลังจากนั้นมายังไม่มีโอกาสให้ลุ้นเพิ่ม มิลาน พยายามเคาะหาช่องเจาะไปลุ้นอยู่ ส่วน ซามพ์โดเรีย พยายามไล่กดดันแล้วแต่ยังหาบอลไม่ค่อยเจอ
เกมยังเหมือนเดิม มิลานพยายามบุกแต่ไม่แม่นพอ
ผ่านครึ่งชั่วโมงมาแล้วยังไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก ไม่มีฝั่งไหนหาโอกาสเพิ่มได้เลยโดยที่ มิลาน พยายามทำเกมบุกมาซ้ายบ้างขวาบ้างแต่ยังต่อบอลสุดท้ายไม่แม่นพอ
ลาซามพ์ได้จบ เซนซี่ ยิงติดบล็อกก่อนย้อนจับล้ำหน้า
ซามพ์โดเรีย เพิ่งมาหาโอกาสจบกับบอลที่ทิ้งยาวขึ้นหน้าให้ คันเดรว่า ฉีกมารับบอลทางขวาก่อนหักเข้าเขตโทษจบด้วย เซนซี่ วิ่งมายิงติดบล็อกก่อนจะย้อนกลับมาจับล้ำหน้า คันเดรว่า
หล่อเหลา โหม่งตั้งให้ เมสซิอัส ยิงผิดไปเยอะ
เข้าท้ายครึ่งแรก มิลาน หาโอกาสจบเพิ่มได้กับจังหวะโยนยาวขึ้นหน้า ชิรูด์ ตามมาโหม่งย้อนหลังให้ เมสซิอัส วิ่งมายิงหน้าเขตโทษแต่หลุดกรอบไปเยอะเลย
ได้ลุ้น! หล่อเหลา โหม่งตั้งอีกทีจบด้วย เมสซิอัส ซัดติดเซฟ
มิลาน ได้ลุ้นอีกทีหนนี้ใกล้เคียงจะเป็นประตูเพิ่มหลัง เลเอา ตักเข้าเขตโทษ ชิรูด์ โหม่งตั้งออกมาตรงกรอบเขตโทษ ธอร์สบี้ สกัดไม่พ้นโดน เมสซิอัส สับไกใส่แต่ถูกปัดทิ้งไปก่อน
มิลานลุ้นต่อ เมสซิอัส ยิงเฉี่ยวเสาไกล
กลับมาครึ่งหลัง มิลาน มีลุ้นจะเอาประตูเพิ่มด้วยจังหวะที่ โตนาลี่ เบิ้ลให้ เมสซิอัส เข้าเขตโทษทางขวาแล้วได้โอกาสเอี้ยวตัวยิงไปเสาไกลหลุดออกไปหน่อย
หล่อเหลา พยายามเบียดโหม่งยังออกหลัง
มิลาน แย่งบอลกลับมาได้บุกอีกครั้ง คาลาเบรีย เติมขึ้นมารับบอลทางขวาก่อนจะครอสไปแถวเสาไกลมี ชิรูด์ พยายามเบียดโหม่งทำได้แค่ออกเสา
คันเดรว่า พาบอลมาส่องไกลยังถูกเซฟไว้
ซามพ์โดเรีย พยายามตอบโต้บ้างเมื่อ คันเดรว่า เก็บลูกจ่ายพลาดกลางสนามแล้วเลี้ยงพาขึ้นมาเองก่อนตัดสินใจยิงไกลมา เมญอง ยังเซฟได้
ยังไม่สอง! เรบิช เปิดถึง หล่อเหลา ลังกายิงติดเซฟ
เกือบมีประตูให้กับ รอสโซเนรี่ เพิ่มแล้วหลังจังหวะโต้กลับ เคสซี่ ตวัดให้ เรบิช ซ้ายมือทางสะดวกควบเข้าเขตโทษแต่แตะยาวไปนิดโดนเสียบไว้ เรบิช ยังลุกมาเก็บได้ก่อนเปิดข้ามไปเสาไกลให้ ชิรูด์ กระโดดลังกายิงเจอปัดออกมา
หล่อเหลา ได้โหม่งอีกโดนปัดข้ามคาน
หลังจากนั้นมา มิลาน ยังกดดันได้ดีจนมีลุ้นเอาประตูเพิ่มอีกหลังเตะมุมเปิดเข้าไปโดนโหม่งสกัดมาหน้าเขตโทษ เบนนาเซอร์ ตักเข้าไปในกรอบอีกที ชิรูด์ โดนเบียดสองยังโหม่งเสยได้แต่ ฟัลโคเน่ ปัดไปได้
เตะมุมมิลานลุ้นอีก โรมันญอลี่ โหม่งโดนรับ
จังหวะเตะมุมถัดมาของ มิลาน ก็ได้ลุ้นเช่นกันหลัง โตนาลี่ คนเดิมเปิดเข้ามาแถวเสาแรกแล้วคราวนี้ โรมันญอลี่ โหม่งได้แต่น้ำหนักไม่พอโดน ฟัลโคเน่ รับติดมือ
ยังไม่สอง! เรบิช ได้ง้างสองหนแต่ยังไม่เป็นประตู
มิลาน มาหาโอกาสเอาประตูเพิ่มได้อีกสองหนไล่ๆกันเลย จังหวะแรกจากที่ เรบิช ได้บอลมาหน้าเขตโทษโยกเข้าขวาถนัดๆแล้วยิงส่งบอลออกเสาไกล จากนั้นก็ไปแย่งบอลกลับมาเปิดเกมโต้กลับ โตนาลี่ ลุยมาเองก่อนส่งให้ เรบิช ในเขตโทษสับไกอีกทีติดเซฟ
จบเกม มิลาน เฉือนเอาชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 เก็บชัย 3 นัดติดในทุกรายการและขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงเหนือ อินเตอร์ แต้มนึงโดยที่แข่งมากกว่า 1 นัด
ซามพ์โดเรีย
Starting Formation: 4-4-1-1
29.
นิโคล่า มูร์รู

53'
5.5
24.
บาร์ตอร์ซ เบเรซีนสกี้
6.5
88.
โทมัส รินคอน

73'
6.0
2.
มอร์เท่น ธอร์สบี้

53'
5.5
13.
อันเดรีย คอนติ

53'
5.5
87.
อันโตนิโอ คันเดรว่า

85'
5.5
ตัวสำรอง
11.
อับเดลฮามิด ซาบิรี่

85'
-
6.
อัลบิน เอ็คดัล

53'
6.0
14.
โรนัลโด้ วิเอร่า

53'
6.0
3.
ทอมมาโซ่ ออเจลโล่

53'
6.0
27.
ฟาบิโอ กวายาเรลล่า

73'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sun Feb 13, 2022 23:09, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ