เมื่อวันก่อนเพิ่งนั่งคุยกับพี่ที่ทำบริษัทโฆษณาว่า ละครไทย(ยิ่งหลังข่าว)คือดูแล้วน่าเบื่อมุมกล้องมาก เหมือนฉากนึงตั้งกล้องนิ่ง ๆ ไม่กี่ตัว พอฉากขับรถไล่กันก็ภาพสั่นเป็นเจ้าเข้า ลำพังคุณภาพยังดูสู้คนทำ Youtube ไม่ได้เลย

ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าเอาสาขารางวัลภาพยนต์ที่สถาบันทั้งหลายมอบ ๆ กันเป็นที่ตั้ง แล้วนักแสดงตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าหนังที่เล่นมันพอจะไปชิงรางวัลสาขาไหนได้บ้าง เช่น พวกบท กำกับภาพ ดนตรีประกอบ ออกแบบเครื่องแต่งกาย มาขายยังดีกว่ามาขายความพยายามอ่ะ

เลิกเอาภาพสวยหรือยังล่ะ

ตื่นนอนมาหน้าแต่งเต็ม บทละครที่ร้อยละ95%เดาได้ง่ายมาก

เอาแค่ข้อนี้ก่อนหมดหรือยัง

ก็ถามมุมกลับคนเราเวลามัน24ชม.เท่าเดิม เวลน้อยลงคอนเท้นมีมากขึ้นคนก็ดูแต่สิ่งที่ดีกว่าเรื่องธรรมดานะ

หนังดีก็ดูนะ หนังห่วยจะดูให้เสียเวลาทำไม

ผมในฐานะที่ดูละครไทยบ่อยอยู่ (ยกเว้นละครช่อง 3 ไม่ชอบดูแล้วเลี่ยน) ขณะที่เพื่อนรอบข้างไม่มีใครดู

ก่อนอื่นเลย ต่อธนภพ เป็นนักแสดงชายที่ผมมองว่าแสดงดีมากๆครับ ดีเป็นอันดับต้นๆเลย

ดีกว่าดาราพระเอกรุ่นพี่หลายคนเลย บทละครธรรมดามาก แต่ดูสนุกขึ้นเพราะการแสดงของน้องต่อเลย

แค่ปรับบทให้ดี ให้ทันสมัย เลิกเอาบทประพันธ์ของนักเขียนสลิ่มมาทำละคร แค่นี้ก็ดีขึ้นเยอะละครับ


และถ้าจะด่าต่อเรื่องเป็นสลิ่มหรืออิกนอร์ ต่อนี่ผมว่าคอลเอ้าท์อยู่พอสมควรเลยนะครับ

ดาราช่องวัน ช่องGMM สามกีบอย่างเยอะครับ พูดถึงละครไทย คนไปนึกถึงพวกดารา กปปส ช่อง 3

ถ้าสำนวนไทยคือ ลำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
เห็นตัวอย่างคนในสภาออกมาน้อยใจ คิดว่าทำบ้างจะได้คะแนนความเห็นใจ
อยากให้คนสนใจซีรี หนังไทยก็ต้องทำให้ดีก่อนและโปรโมทหนักๆ พวกนี้คิดว่าเกาหลี เมกา ไม่จ่ายต่อมาเกตติ้งเลยหรือไง
แต่นั่นล่ะทำให้ดีก่อนก็มีตัวเปรียบเทียบเยอะแล้วทำให้เสมอหรือดีกว่าคนก็สนับสนุนเอง

แทนที่จะตีแผ่ปัญหาของไอ้พวกบนๆ ที่ตัวคุณก็น่าจะรู้นะ

ตัวอย่างก็ พวกผู้จัดล็อคตัวนักแสดงโดยไม่ต้องแคสอ่ะ หรือเอะอะก็จะรีเมคๆอย่างเดียว

คนดูก็ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นนะ เลือกดูที่ดีที่สุดก็ไม่แปลก ของเกาหลีแต่ละเรื่องบทรีเสิร์ชอาชีพนั้นๆแบบโคตรจริงจัง ไทยมีสักกี่เรื่องกันที่นำเสนออาชีพเป็นหลัก ไม่ใช่ขายคู่จิ้นคู่ชชขายโรแมนติก แล้วประเทศอื่นเขาไปถึงไหนละ แซะนักการเมือง กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ ศาล ตำรวจ ทหารโดนหมด ไทยยังแตะไม่ได้เลย

วิเคราะห์ง่ายๆเลย เพราะคนดูเลือกได้ อีนไหนดีเขาก็ดูอันไหนไม่ดีก็ไม่ดู ถ้าอยากให้คนดูต้องทำให้ดีและน่าดู แค่เอานางเอกพระเอกมาล่อโดยไม่นึกถึงเนื้อเรื่องหรือส่วนอื่นๆ มันหมดยุคแล้ว

เอาแต่ตัวอย่างง่ายๆเลยนะ ตัวประกบในซีรี่ย์เกาหลีนี่เล่นดีจัดๆ ไม่รู้จ้างร้อยเล่นล้านหรือจ้างล้านเล่นล้าน แต่นี่ก็แสดงถึงความเอาใจของกองละ

ดู hospital playlist ตัวประกอบก็ทำให้น้ำตาไหลได้แล้วอะ อินเกิ๊นนนน

ก็พยายามกันต่อไปนะครับ เอาใจช่วย

ไม่ดูเพราะมันไม่สนุกมันไม่น่าสนใจส่วนทำไมมันถึงไม่สนุกไม่น่าสนใจผมว่าทุกคนรุ้ดีอยู่แล้วละว่าเพราะอะไร

อุตสาหกรรมบันเทิงของไทยขนาดมันเล็กมากและมีข้อจำกัดยิบย่อยเต็มไปหมด ถ้าจะยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย มันต้องปลดล็อกอะไรหลายๆอย่างออกไปให้ได้ก่อน วงการนี้มันเป็น artist มันต้องมีอิสระในการคิดในการนำเสนอ ตัวอย่างประเทศเราตอนนี้ถ้าเป็นคนเขียนบทภาพยนต์,ซีรีส์ สมมติว่าเขียนบทซีรีส์พีเรียด เขียนทำยังไงให้มีคนซื้อ ง่ายๆเลยคือต้องอวยเจ้า...

ผมดูในคลิปเต็มๆ ต่อ มันก็ไม่ได้หมายความแค่ "คนดู" ต้องหันมาดูหนังและซีรีส์ไทยอย่างเดียว

แต่ให้คน "ทุกคน" กล้าสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิงไทยด้วย

ทีนี้ ภาครัฐ ผู้ใหญ่ ภาคเอกชน หรือไดโนเสาร์ทั้งหลาย กล้าสนับสนุนและยอมปรับตัวมากน้อยขนาดไหน?

ซึ่งผมว่า มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว พอไม่มีเม็ดเงินมาลง คนในประเทศก็ต้องขวนขวายกันเอง

แล้วสุดท้าย ก็เป็นได้แค่ทีมงานเบื้องหลังของ ผลงานระดับโลกทั้งนั้น

แล้วพอรู้ว่าคนไทยมีฝีมือ ก็มาเย้วๆๆๆ สนับสนุน Soft Power เด็กไทย บลาาๆๆๆๆๆ

ถ้านักแสดง ดารา หรือผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย อยากเปลี่ยนแปลง ให้เกิดการสนับสนุนจริงๆ

เริ่มจากเปลี่ยนให้เป็น ประชาธิปไตย ให้ได้จริงๆ ซะก่อน รับรองได้ทุกอุตสาหกรรมแน่ๆ

ถ้าผมเป็นนักแสดงแล้วไปสัมภาษณ์แบบนี้ตอนหนังจะฉายนะ ผมคงโทรไปขอเจ้าของรายการให้ตัดออกอ่ะ

ตรรกะความคิดมันโคตรไม่ได้เลย โทษคนดูชัดๆ ผมพยายามเต็มที่แล้ว ทีมงานพยายามเต็มที่แล้ว ดังนั้นคนดูเอาตังมาให้พวกผมหน่อยเถอะนะ นะๆ คนไทยด้วยกันช่วยๆกันไป โคตรแย่

คุณบอกคุณทำเต็มที่แล้ว แต่ 100% ของคุณมันได้กี่ % ของเขาล่ะ มุมนี้เคยคิดไหม ปัจจุบันโลกนี้มันพัฒนาไปไกลแล้ว มีหนังหรือซีรีย์ที่ดังๆ ในต่างประเทศที่เขาพยายามมากกว่าคุณ ทำคุณภาพได้ดีมากกว่าคุณ ให้คนดูสามารถเลือกชมได้ง่ายๆ ในราคาที่เท่ากัน ทำไมเราถึงต้องไปจ่ายกับอะไรที่แย่กว่า ทั้งๆ ที่เราสามารถเลือกในสิ่งที่ดีกว่าได้

ผมชอบที่เปรียบเทียบกับร้านก๋วยเตี๋ยว คุณขยัน พยายามทำงานหนัก เปิดขาย 24 ชม. แต่ก๋วยเตี๋ยวคุณไม่อร่อยอ่ะ สิ่งที่คุณควรทำไม่ใช่ไปตั้งแง่ว่าลูกค้าอคติกับร้านคุณ กับอาหารของคุณ แต่เป็นหาคำตอบว่าก๋วยเตี๋ยวเรามันไม่อร่อยที่ตรงไหน ร้านที่อร่อยเขาทำกันยังไง แบบนี้ต่างหาก

กรณีนี้ ผมว่าก็โยนมาที่คนดูมากไป

แรกสุดเลย GDP ไทยเล็กกว่าเกาหลีราวๆ 5 เท่า
แค่ประเด็นกำลังซื้อในประเทศเองก็ต่างกันมากแล้ว

ค่าแรงขั้นต่ำไทยวันละ 300 เดือนนึงสมมติทำงานทุกวัน รายได้ 9000 ต่อเดือน
ค่าแรงขั้นต่ำเกาหลี ชั่วโมงละ 250 วันนึงทำ 8 ชั่วโมงก็ 2000 บาท เดือนนึง 60000 บาท

แค่นี้ก็เห็นแล้วไหมครับ ว่าทำไมต้นทุนในการสร้างหนังมันถึงต่างกัน ทำไมตลาดไทยถึงเล็กกว่ามาก
ตอบแบบตรงๆนะ ถ้าผมมีเงินเดือน 9000 บาท ผมไม่สมัคร Netflix ผมไม่ดูหนังในโรงหรอก
ผมดูเถื่อนเอาดีกว่า เพราะเงิน 100กว่าบาท มันมีค่ามากๆ
แต่ถ้าเดือนนึงผมมี 60000 แบบนี้ ถ้ามีหนังดีดีเข้ามาเดือนละ 4 เรื่อง ผมก็ดูในโรง นั่งแถวบนๆ เก้าอี้ดีดีด้วย

ประเด็นที่สอง ทุนในการสร้างหนังหรือซีรี่ย์ไทย กับเกาหลี ต่างกันระดับ 5-50 เท่าเลย
แบบนี้ก็ไม่แปลกหรอกครับ ที่หนัง/ซีรี่ย์เกาหลีจะดีกว่าไทยอยู่มาก

และก็ยิ่งไม่แปลกที่คนดูส่วนนึง จะบอกว่าไม่ดูหนัง/ซีรี่ย์ไทย
เพราะหนัง/ซีรี่ย์ นอกมันสนุกกว่า ภาพสวย เสียงดี ทุกอย่างดี เพราะงบมันเยอะกว่ามาก

ส่วนหนังไทย ก็เห็นจะมีแค่ GDH นี่แหละ ที่ทำหนังฉีกออกมา แต่ก็ทำได้เต็มที่แค่หนังปรัชญาแทรกๆ
หนังเสียงสีสังคม หนังสะท้อนสังคมต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถทำหนัง/ซีรี่ย์ฟอร์มยักษ์ออกมาได้จริงๆจังๆ

ประเด็นที่สาม ใครจะอยากลงทุนให้ในระดับ 500-1000 ล้านให้ลองทำ
ผมเชื่อว่าถ้าไทยอยากจะทำหนังระดับนั้น ถ้ามีเงิน ผมก็เชื่อนะว่าทำได้ โดยเฉพาะให้ GDH ทำ

ยกตัวอย่างหนังอย่าง Squid game ที่ดังไปทั่วโลก
ผมว่าคนไทยก็ทำได้ แต่จะไปหาเงิน 700 ล้านจากไหนมาทำ
คำตอบก็คือ ไม่มีใครลงทุนให้หรอก นักลงทุนก็จะมองว่ามันเสี่ยงเกินไป
แถมยังไม่เคยมีพอร์ทหนัง/ซีรี่ย์ ระดับนั้นไปโชว์เค้าด้วย ก็แน่หละก็ไม่เคยมีใครให้เงินไง มันก็ไม่มีทางเกิด

โดยสรุป ผมคิดว่ามีแค่ 2-3 ทางออกเท่านั้นแหละ ที่จะทำให้หนังไทยไประดับหนังเกาหลีได้
1. เพิ่มรายได้คนในประเทศให้สูงๆ ถ้าคนไทยได้ค่าแรงขั้นต่ำชั่วโมงละ 200-300 บาท
แบบนี้เดี๋ยวตลาดมันโตไปเอง เม็ดเงินดูหนังถูกลิขสิทธิ์ก็แพงขึ้น โฆษณาก็ได้เรทดีขึ้น ตามๆกันไปเอง
2. รัฐบาลสนับสนุนแบบที่รัฐบาลเกาหลีเคยทำเลย มันก็การทำ Blitzscaling หรือ Burn cash
แบบที่พวกบริษัท Tech เมกาทำนั่นแหละ อัดเงินเข้าไปจนตลาดยอมรับ เดี๋ยวมันก็ไปได้เอง
3. หานักลงทุนใจบุญ ที่กล้ารับความเสี่ยงสูงๆ มี Passion มากๆมาลงทุนให้

นอกนั้นผมว่าเป็นประเด็นรองทั้งนั้นอะ ต่อให้เลิก
- วัฒนธรรมกรี๊ดๆ ตบจูบ ผัวเมีย ชิงสมบัติ .. แบบที่ละครไทยเป็น
- Remake หนังเดิมๆซ้ำๆวนไป
- เลิกเซ็นเซอร์
- ปลดล็อกให้ทำเนื้อหาอะไรได้เต็มที่

ผมว่าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก หนังไทยเต็มที่ก็อยู่ได้ประมาณนี้ต่อไป

เอาง่ายๆ แพลตฟอร์มดูหนังโครตเยอะ แล้วจะเอาเวลาที่เสียไป 2-3 ชม. เพื่อหนังแบบไหน หนังไทยบางเรื่องบทอาจจะดี แต่ดีในระดับ 7/10 แต่หนังอื่นๆ เยอะแยะ 10/10 ใครจะไปดู แต่เรื่องหลังสุดของไทยที่ผมชอบมากคือ The Gifted บทอย่างดี นักแสดงก็ดี แค่โปรดักชั่น ยังอ่อน