ไม่มีแฮงก์! มาห์เรซ จุดโทษนำร่อง "เรือ" ซิวผึ้งนิ่ม 2-0 ทิ้ง 12 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แม้จะสะดุดมาในเกมลีกนัดที่แล้วแต่วันนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังกลับมาคว้าชัยชนะได้ตามฟอร์ม เมื่อพวกเขาเปิดบ้านเชือด เบรนท์ฟอร์ด 2-0 จากจุดโทษนำร่องท้ายครึ่งแรกของ ริยาด มาห์เรซ ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ จะบวกเพิ่มในครึ่งหลัง ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้าเก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนนจาก 24 นัด นำจ่าฝูงทิ้งห่างลิเวอร์พูล 12 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 2 เกม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
47.
ฟิล โฟเด้น

71'
6.5
7.
ราฮีม สเตอร์ลิง

67'
7
ตัวสำรอง
10.
แจ็ค กรีลิช

67'
6
8.
อิลคาย กุนโดกาน

71'
6
พรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
พุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565
กรรมการ ดาร์เรน อิงแลนด์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
0
เบรนท์ฟอร์ด
1-0 มาห์เรซ 40' (Pen.)
2-0 เดอ บรอยน์ 69'
เรือจัดเต็ม, ผึ้งยังไม่มีอีริคเซ่น
ซิตี้ในระบบ 4-3-3 แนวรุกเป็น ราฮีม,โฟเด้น,มาห์เรซ ตรงกลางมี เดอ บรอยน์ ทำเกมร่วมกับ แบร์นาร์โด้,โรดรี แนวรับซ้ายไปขวา คันเซโล่,ลาปอร์ต,ดิอาส,สโตนส์ ขณะที่ เอแดร์ซอน เฝ้าเสาตามเดิม สำรองยังมีชื่อ กรีลิช,กุนโดกาน ที่รอลงไปเปลี่ยนเกม
ฝั่งเบรนท์ฟอร์ดบุกไปเล่น 3-5-2 โดยให้ โกดอส,กาญอส ยืนค้ำในแนวรุกโดยมี ตรงกลางมี เยนเซ่น,นอร์การ์ด,ออนเยก้า เฮนรี,โรเออร์สเลฟ ยืนวิงแบ็คซ้ายขวา แนวรับสามคนเป็น พินน็อค,ยานส์สัน,อายอร์ ขณะที่ ราย่า เฝ้าเสา เกมนี้พวกเขายังไม่มี อีริคเซน ที่ยังต้องเรียกความฟิต
เรือได้ักทายก่อน
โอกาสแรกในเกมนี้เป็นของฝั่งซิตี้ เป็นจังหวะที่เดอ บรอยน์เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเป็นโฟเด้นที่โหม่งหลุดกรอบไป
ผึ้งนานๆได้สวน
เบรนท์ฟอร์ดสวนเร็ว เยนเซ่นได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนซัดไปติดเซฟเอแดร์ซอนที่ปัดออกหลัง แต่ถึงเข้าก็ไม่ได้เพราะเขาโดนจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
เรือครองเยอะแต่ยังเจาะไม่เข้า
เกมผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 ซิตี้ครองบอลบุกได้มากกว่าตามคาดแต่พวกเขายังหาช่องเจาะเข้าทำและมีโอกาสยิงไม่มาก ส่วนฝั่งเบรนท์ฟอร์ดเน้นรอสวนแต่ก็สร้างปัญหาให้แนวรับเข้าถิ่นไม่ได้เช่นกัน
คันเซโล่เติมซัดปลิวข้ามคาน
ซิตี้เกือบได้ประตูออกนำจากจังหวะที่มาห์เรซเปิดบอลจากริมกรอบฝั่งขวาเรียดลอดขาพินน็อคไปหน้าประตูแล้วราย่าต้องออกแรงล้มตัวปัด บอลไม่พ้นอันตรายและเป็นคันเซโล่วิ่งมาซัดด้วยขวาทางเสาสองแต่ก็พุ่งแรงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ราฮีมฟาดท่าสวยแต่ข้ามคาน
ซิตี้ยังครองเกมบุกต่อเนื่อง จังนี้โฟเด้นตักบอลจากริมกรอบฝั่งขวาเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นสเตอร์ลิงที่ทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลก็พุ่งหลุดข้ามคานไป
ลาปอร์ตตวัดยิงเร็วเฉี่ยวเสาหวุดหวิด
อีกครั้งของซิตี้ พวกเขาได้ลูกฟรีคิกตรงกลางสนามทางฝั่งซ้าย เป็นเดอ บรอยน์ที่รับหน้าที่เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ดิอาสขึ้นโหม่งชงให้ลาปอร์ตจับแล้วจวัดยิงเร็วด้วยขวา แต่บอลพุ่งผ่านมือรายาหลุดกรอบขวามือไปนิดเดียว
ปลดล็อค!ราฮีมเรียกโทษ มาห์เรซซัดไม่เหลือ 1-0 เรือนำ
แล้วเจ้าถิ่นได้เฮเมื่อพวกเขาได้จุดโทษจากจังหวะที่สเตอร์ลิงได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายเกือบถึงเส้นหลังแล้วโดนโรเออร์สเลฟเข้าพรวดเสียบล้ม ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษแบบไม่ลังเล
เป็นมาห์เรซที่รับหน้าที่สั่งหาร เขาสืบเท้าแปด้วยซ้ายพุ่งไปทางซ้ายมือหมดสิทธ์สำหรับราย่าที่ไปคนละทาง 1-0 เรือใบแล่นแล่ว
เฮนรี่หลุดแล้วดันเลือกเปิด
เบรนท์ฟอร์ดเกือบตีเสมอได้ทันควัน จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร สโตนส์พักบอลห่างตัวแล้วโดนเฮนรี่วิ่งมาฉกกระชากไปถึงริมกรอบเขตโทษก่อนเล่นชิงกับโกดอสหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย จังหวะสุดท้ายเขาเหมือนพยายามตวัดเปิดแต่ไปติดเซฟเอแดร์ซอน บอลกระฉอกแล้วกาญอสพยายามโฉบมาชาร์จแต่ก็กลายเป็นการทำฟาวล์ใส่เอแดร์ซอนไปอีก
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นเรือใบที่ทำได้ดีกว่าและออกนำไปก่อน 1-0 จากจุดโทษของมาห์เรซ
คันเซโล่ส่องไกลข้ามคานได้ลุ้น
เริ่มครึ่งหลังยังเป็นซิตี้ที่บุกต่อเนื่อง จังหวะนี้เป็นคันเซโล่ที่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนวางเท้ากดด้วยขวาเต็มข้อพุ่งแรงหลุดข้ามคานไปนิดเดียว
คันเซโล่แหวกยิงติดเซฟ
อีกครั้งของซิตี้ คันเซโล่ได้บอลริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนพลิ้วแหวกผู้เล่นเบรนท์ฟอร์ดสองคนแล้วได้เหลี่ยมแปด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งไปติดเซฟราย่า
แบร์นาร์โด้ได้ปั่นเน้นๆ
แมน ซิตี้ยังมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่แบร์นาร์โด้รับบอลจากโฟเด้นก่อนเลี้ยงตัดมาหน้ากรอบเขตโทษแล้ววางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ แต่บอลพุ่งไปติดเซฟราย่า
คันเซโล่เติมได้ซัดอีกแล้ว
ซิตี้มาอีกแล้ว จังหวะที่ต่อบอลมาถึงริมกรอบเขตโทษ เป็นสเตอร์ลิงพักบอลแล้วไหลให้คันเซโล่เติมมาวางเท้าแปด้วยขวาทางริมกรอบฝั่งซ้าย แต่บอลก็พุ่งตรงตัวเข้ามือราย่า
ราย่าแจก!ราฮีมฉกซัดติดเซฟก่อนเดอ บรอยน์ซ้ำดาบสองไม่เหลือ
แล้วเจ้าถิ่นก็ได้เฮขึ้นนำเป็น 2-0 จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร เบรนท์ฟอร์ดต่อในแนวรับอยู่ดีๆแล้วราย่าดันออกบอลพลาดไปเข้าทางสเตอร์ลิงที่ดักแล้วหลุดแปเน้นๆ ราย่าแก้ตัวเซฟได้ แต่บอลยังเด้งมาเข้าทางเดอ บรอยน์ที่ตามมาซ้ำเข้าไปไม่เหลือ
คันเซโล่ได้ยิงอีกแล้วแต่ยังไม่คม
ซิตี้นำสองลูกแล้วยังเล่นไปตามทรง จังหวะนี้เป็นคันเซโล่ที่ได้โอกาสจบอีกแล้ว คราวนี้เขารับบอลจากเดอ บรอยน์หน้ากรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาแฉลบหลุดกรอบไปอีก
โรดรีตะบันแถวสองเกือบหาย
เรือใบมาเรื่อยๆ คันเซโล่ได้ยิงริมกรอบเขตโทษไปติดเบล็อคแล้วฝั่งเบรนท์ฟอร์ดเคลียร์ออกมาเข้าทางปืนโรดรีที่วิ่งมากดด้วยขวาเน้นจากแถวสอง บอลพุ่งตรงกรอบแต่ราย่ายังพุ่งปัดเอาไว้ได้
ท้ายเกมผึ้งยังพยายาม
ท้ายเกมเบรนท์ฟอร์ดพยายามจะเอาประตูตีไข่แตก จังหวะนี้นอร์การ์ดกระดกบอลข้ามแนวรับซิตี้ให้วิสซ่าหลุดไปพลิกตัวตวัดยิงโล่งๆติดเซฟเอแดร์ซอน แต่ถึงเข้าก็ไม่ได้เพราะเขาล้ำหน้าไปแล่ว
เรือซิว 2-0 นำหงส์ 12 แต้ม
สุดท้ายจบเกมเป็นแมน ซิตี้เปิดบ้านเอาชนะไป 2-0 เก็บคะแนนนำเป็นจ่าฝูงหนีห่างลิเวอร์พูล 12 แต้มแต่แข่งมากกว่า 2 เกม ขณะที่เบรนท์ฟอร์ดแพ้ 5 นัดติด รั้งที 14 ของตารางห่างโซนตกชั้น 6 คะแนน
เบรนท์ฟอร์ด
Starting Formation: 3-5-2
15.
แฟรงค์ ออนเยก้า

70'
6
14.
ซามาน โกดอส

62'
6
7.
เซร์กี้ กาญอส

62'
6
ตัวสำรอง
10.
จอช ดา ซิลวา

62'
6
19.
ไบรอัน เอ็มบูโม

62'
6
11.
โยอัน วิสซ่า

70'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Feb 10, 2022 04:51, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ