Dying Light 2 เป็นเกมที่ live up to expectations มันมีทั้งความสะใจ ความมัน ความน่ากลัว ความตื่นเต้น ความหวาดเสียว จากระบบการเล่นในโลกเปิดที่มีอิสระ
เกริ่นก่อนว่าเป็น Quick Review/ Early Impression เพราะผมเองก็ยังเล่นไม่จบ แต่มารีวิวเผื่อเป็นข้อมูลให้คนตัดสินใจครับ
เกมเพลย์ของเกมนี้สนุกและดึงดูดเวลามากๆ มันมีอะไรที่ให้เราทำเยอะแบบ โคตรเยอะ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราเบื่อจากความซ้ำซาก เพราะมันเยอะจนเราสามารถเลือกจะทำเควสต์แบบเปิดหลายๆ แบบ ที่สุดท้ายพอเราวนกลับมาทำเควสต์ลักษณะเดิมๆ มันก็กลายมาเป็นสนุกและอยากทำอีกรอบ เช่น เควสต์ challenge parkour ส่งของ, เควสต์เข้าไปหาของในอาคารมืดๆ, เควสต์ปีนกังหันลม, เควสต์เปิดโรงไฟฟ้า, เควสต์เปิดทางรถไฟใต้ดิน, เควสต์เปิดจุดพัก, เควสต์ตีป้อมโจร และอื่นๆ อีกมากมาย ที่พอจบอันนึงปุ้บ อ้าวอีกอันใกล้ๆ อีกหน่อยละกันวะ จบปุ้บ อ้าวอีกอันใกล้ๆ อีกหน่อยละกันวะ จบปุ้บ อ้าวอีกอันใกล้ๆ อีกหน่อยละกันวะ วนไปจนลืมเวลา ไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งส่วนที่ว่านี่ก็เป็นแค่จุดต่างๆ ในเกมด้วยซ้ำไม่นับเควสต์หลักและรอง
ส่วนของเนื้อเรื่องหลัก ผมว่าแม่ง mediocre at best คือ กลางๆ และไม่ได้ดีเด่อะไร คือมันโคตร cliché มากๆ ทั้งการเล่าเรื่อง การนำเสนอประมาณว่าแบบ เฮ้ยเห็นภาพในอดีตซ้อนตอนตัวเอกเป็นวัยละอ่อน เป็นระยะๆ ในการเล่น (น่าเบื่อมวากกกกก) เหตุการความสัมพันธ์ตัวละคร ไม่มีห่าอะไรเมคเซนส์ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้คาดหวังมากนักแต่แรก ตัวละครบางตัวมึงสู้กันอยู่ดีๆ แป๊ปเดียวแม่งดีกันเหมือนสนิทกันมานาน คนเล่นก็งงไปสิ (แต่ก็ต้องบอกก่อนว่ายังเล่นไม่จบ ซึ่งก็คิดว่าต่อให้เล่นจบก็ยากที่จะประทับใจกับเนื้อเรื่อง)
เควสต์รองในเกมก็มีทั้งน่าสนใจนิสๆ (นิสสสสสจริงๆ) จนไปถึงเฉยๆ ในแง่ที่ว่าไม่ได้อิน ไม่ได้สนุกกับเนื้อหา อาจจะเพราะการเขียนบท หรือการนำเสนอของเกมที่มันไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากกกกกกก.. อีโมชั่นการแสดงอารมณ์ต่างๆ ที่ตกยุคสมัย และเสียงพากย์ที่มันจืดสนิท มันบั่นทอนความอินไปเยอะพอสมควรกับเนื้อเรื่อง ที่สุดท้ายก็กลายเป็นกด space bar อ่านจบข้ามรัวๆ เพราะเผลอๆ อ่านเองแม่งยังจะอินกว่าฟังเสียงพากย์
ส่วนของกราฟิก… ภาพในเกมนั้นถ้าหากเราดูที่ภาพรวมแล้ว ก็ค่อนข้างจะสวยงามตามท้องเรื่อง แสงแดด ต้นไม้ พื้นที่สีเขียว แต่ถ้าหากเราโฟกัสที่รายละเอียด กราฟิกในเกมมีความ outdated พอสมควร มันไม่ได้สวยงามตามยุคสมัย แต่มันสวยงามจากความกลางๆ ที่เอามาวางซ้ำๆๆๆ ให้ดูมีรายละเอียดจนกระทั่งภาพรวมมันดูดี แน่นอน มันก็ตามมาด้วยการกินสเปคที่ไม่สมเหตุสมผลกับกราฟิกที่ได้รับ ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้ดูแย่มากขนาดนั้น อาจจะแค่ผิดหวังนิดหน่อย
สำหรับคนที่กลัวจะเวียนหัว ก็อยากจะให้ได้ลองเล่นเอง เพราะถ้าคุณไปดูตามคลิปยูทูปที่เกมเพลย์ไวๆ ยังไงก็ยากที่จะรอด ส่วนตัวผมที่เวลานั่งรถบัสถ้าเล่นมือถือก็มีมึนจนอาจจะอ้วกแตก ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้แบบไม่เวียนหัว เล่นได้เรื่อยๆ สบายๆ แต่เกมก็มีข้อติเรื่องประเด็นความเวียนหัวเหมือนกัน บางจังหวะที่เกมมันต้องการจะซูมเพื่อจะโฟกัสหรือเพื่อเล่าเนื้อเรื่องต่างๆ แทนที่มันจะปรับภาพแบบซูม มันเสือกดึง FOV เข้าออก อาจทำให้คนที่อ่อนแอเรื่องพวกนี้ ต้องมาแพ้ไปแบบไม่จำเป็น (คือมึงจะดึง FOV ทำไมอะ จะซูมก็ซูมไปสิวะ คนออกแบบมึงคิดอะไร)
พิมพ์ไปพิมพ์มาเหมือนเกมจะมีแต่ข้อติ ทั้งๆ ที่จั่วหัวมาดี… ก็ต้องบอกว่านี่คือข้อติทั้งหมด ที่พอมาหักล้างแล้วความสนุกก็ยังชนะเลิศแบบง่ายดาย เพราะเกมเพลย์มันสนุกและเร้าใจจริงๆ อยากชิลๆ กระโดด ดูวิวสวยๆ ก็เล่นกลางวัน เปิดพื้นที่ อยากเปลี่ยนอารมณ์ตื่นเต้น เร้าใจ น่ากลัว ก็เล่นกลางคืน เข้าอาคารปิดตาย หาของ วนไปไม่จบไม่สิ้น
ส่วนตัวก็คิดว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกมที่แนะนำมากๆ แม้ราคาแรงแต่คุณภาพและเนื้อหาก็สมเหตุสมผล ไม่เสียดายเงินแน่นอน
แต่ขอเตือนก่อนว่าช่วงแรก เกมดำเนินช้ามากๆ ช้าจนน่าเบื่อ จนกระทั่งได้ไปถึงที่เปิดเท่านั้นและคุณเอ้ยยยย อวสานงานการกันเลยทีเดียว
ใครสงสัยอะไรก็พิมพ์ถามได้ จะมาตอบถ้าไม่ได้ไปมัว parkour อยู่ในเกม หรืออออ ใครชอบรีวิวก็ไปกดติดตามเพจผมได้สำหรับรีวิวอื่นๆ ฮะ