พ่อหมีรอดแดง 2 หน! "แซมบ้า" บุกเจ๊าเอกวาดอร์สุดเดือด 1-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ วันนี้ บราซิล ที่เข้ารอบไปแล้วยังจัดเต็มหลายตำแหน่งบุกมาเจอกับ เอกวาดอร์ แบบสุดเดือดโดนใบแดงฝั่งละใบตั้งแต่ต้นเกม แถมมีดราม่าที่ อลิสซอน โดนใบแดงไล่ออกในเกมถึง 2 รอบแต่ VAR ยกเลิกหมด สุดท้ายจบเกมเสมอกันไปสุดมัน 1-1
เอกวาดอร์
Starting Formation: 4-4-2
17.
อังเฆโล่ เปรเซียโด้

66'
21.
อลัน ฟรังโก้

18'
8.
คาร์ลอส กรูเอโซ่

66'
23.
มอยเซส ไคเซโด้

86'
11.
ไมเคิ่ล เอสตราดา

85'
ตัวสำรอง
1.
เฮอร์นาน กาลินเดซ

18'
6.
โรมาริโอ้ ไคเซโด้

66'
16.
ไมเคิ่ล คาร์เซเลน

85'
18.
อายตอน เปรเซียโด้

66'
20.
เซบาสเตียน เมนเดซ

86'
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้
สนาม เอสตาดิโอ โรดรีโก้ ปาซ เดลกาโด้
พฤหัสบดี ที่ 27 มกราคม 2564
กรรมการ วิลมาร์ โรลแดน
เอกวาดอร์
1
1
บราซิล
บราซิล จ่าฝูงกลุ่มผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่ กาตาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน เอกวาดอร์ เจ้าบ้านอยู่อันดับ 3 และยังต้องการคะแนน
ทีมเยือนวันนี้จะไม่มีตัวที่ติดโทษแบนอย่าง ฟาบินโญ่ และ ลูคัส ปาเกต้า ที่ติดโทษแบน รวมถึงที่ไม่ติดมาด้วยอย่าง เนยมาร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ริชาร์ลิซอน วันนี้เลยเป็นโอกาสของ มาเตอุส คุนญ่า และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่จะได้ออกสตาร์ท
วาเลนเซีย ได้โขกบอลเฉียดเสานิดเดียว
เจ้าบ้านได้ทักทายก่อนจากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบทางซ้าย เอสตูปิญาน เปิดเข้ามาให้มาให้ วาเลนเซีย ได้ขึ้นโขกหน้าเสาขวาแต่บอลสุดท้ายหลุดเสาไปนิดเดียวถือว่าได้ลุ้น
คาเซมิโร่ ชาร์จจ่อๆ! แซมบ้าบุกมานำแล้ว 1-0
โอกาสแรกของทีมเยือนกลายเป็นประตูขึ้นนำทันที จากเตะมุมฝั่งซ้ายบอลสุดท้ายที่ คูตินโญ่ สุดเส้นซ้ายเปิดเข้ามาให้ คุนญ่า ได้ขึ้นโขกหน้าเสาขวาติดบล็อคแล้วมาตกหน้าเส้นสุดท้ายเป็น คาเซมิโร่ วิ่งมาล้มตัวชาร์จเข้าไปจ่อๆไม่เหลือ
เจ้าบ้านเหลือ 10 คน! โดมิงเกซ คาราเต้ยันหน้า คุนญ่า
เจ้าบ้านมาเหลือผู้เล่น 10 คนจากจังหวะที่ โดมิงเกซ ผู้รักษาประตูออกมาใช้เท้ายันสวนจังหวะบอลที่หน้ากรอบแล้วไปโดนคอ คุนญ่า เต็มๆ ผู้ตัดสินไปเช็ค VAR แล้วแจกเป็นใบแดงทันที
คูตี้ ปั่นฟรีคิดบอลไม่เข้าเป้า
จากจังหวะต่อเนื่องเป็นฟรีคิกติดเส้นหัวกระโหลก คูตินโญ่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามคานออกไปยังไม่ได้ลุ้นเพิ่ม
ทีมเยือนไม่น้อยหน้า! เอแมร์ซอน โดนเหลืองสองไล่ออกไปอีก
ทีมเยือนอยู่ดีๆก็มาเหลือ 10 คนบ้าง เอแมร์ซอน ที่มีเหลืองติดตัวตั้งแต่ต้นเกมไปทำฟาวล์ทางฝั่งซ้ายจนโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากเกมไปอีกคน
ไคเซโด้ ได้โขกบอลข้ามคานไม่เยอะ
จังหวะต่อเนื่องเป็นฟรีคิกฝั่งซ้าย เอสตูปิญาณ เปิดเข้ามาให้ ไคเซโด้ ได้ขึ้นโขกตรงกลางประตูแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไป
เกือบไปกันใหญ่! อลิสซอน โดนแดงก่อนเปลี่ยนเป็นเหลือง
เกมเดือดกันอีกจังหวะนี้ อลิสซอน ออกมาเตะสูงตัดบอลหน้ากรอบแต่เท้าดันค้างแล้วไปโดนใส่หัว วาเลนเซีย ที่ตามเข้ามาทีหลังผู้ตัดสินแจกใบแดงทันที ก่อนจะลังเลอยู่นานแล้วไปเช็ค VAR สุดท้ายเปลี่ยนใจเปลี่ยนเป็นใบเหลือง
เอสตูปิญาณ ปั่นฟรีคิกก็ยังข้ามคาน
จากจังหวะฟาวล์ต่อเนื่องหน้ากรอบ เอสตูปิญาณ วิ่งมาปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
วาเลนเซีย สอดมาโขกโล่งๆบอลเฉียดเสา
จังหวะฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเกือบครึ่งสนามของเจ้าบ้าน เอสตูปิญาณ เปิดเข้ามาตรงกลางให้ วาเลนเซีย สอดเข้าไปโขกโล่งๆแต่บอลสุดท้ายยังเฉียดเสาแรกออกไปอีก
ตอร์เรส โขกกลางประตูแฉลบออกหลัง
เจ้าบ้านก็ยังมาได้ลุ้นจากฟรีคิกมุมซ้ายเหมือนเดิมคราวนี้ เอสตูปิญาณ เปิดมาให้ ตอร์เรส ได้ขึ้นโขกกลางประตูบอลแฉลบออกหลังเป็นเตะมุม
คุนญ่า หวดซ้ำหน้ากรอบบอลเฉียดเสา
โอกาสเกือบได้ประตูนำห่างของทีมเยือน วินิซิอุส พาบอลมาถึงหน้ากรอบก่อนจะแตะให้ คุนญ่า ตรงกลางได้หวดด้วยขวาติดบล็อคมาเข้าทางได้หวดซ้ำไปอีกหนบอลเฉียดเสาซ้ายออกไปนิดเดียว
เอสตราดา ซ้ำเต็มๆแต่บอลออกหลังไปก่อน
จังหวะที่เกือบได้ประตูตีเสมอของเจ้าบ้าน เอสตราดา ซ้ำจ่อๆหน้าเสาแรกบอลตุงตาข่ายแต่บอลจังหวะแรกที่ เอสตูปิญาณ เกี่ยวบอลมาให้ที่สุดเส้นซ้ายออกหลังไปก่อนแล้ว
คาเซมิโร่ ลองส่องฟรีคิกบ้างบอลข้ามคานไปไกล
จังหวะที่ทีมเยือนได้ฟรีคิกตรงกลางประมาณ 30 กว่าหลา แล้วเป็น คาเซมิโร่ ลองวิ่งมาส่องเองด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกไปไกล
เจ้าบ้านได้จุดโทษ! แต่เปาเช็ค VAR แล้วยกเลิก
เจ้าบ้านมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ราฟินญ่า ไปเกี่ยว เอสตูปิญาน ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินไปเช็ค VAR ก่อนจะเปลี่ยนคำตัดสินยกเลิกจุดโทษ
เชซุส หลุดมาเกือบได้ส่องโล่งๆ กาลินเดซ ยังบล็อคทัน
จังหวะนี้ เซซุส ได้บอลยาวทะลุช่องมาหน้ากรอบเกือบได้ประชากหลุดเข้าไปซัดโล่งๆแต่ จังหวะสุดท้าย กาลินเดซ ยังออกมาล้มตัวบล็อคได้ทัน
ซานโดร ได้เติมมาส่องตรงตัว กาลิเดซ
ซานโดร เติมขึ้นมาหน้ากรอบฝั่งซ้ายแล้วได้บอลจาก เฟร็ด ก่อนจะวางเท้าหวดด้วยขวาเต็มๆบอลไม่ผ่าน กาลิเดซ ชกออกมาได้ทัน
เชซุส ได้ลากมาซัดในกรอบอีกยังไม่ผ่าน กาลินเดซ
จังหวะต่อเนื่อง เซซุส ได้บอลข้างกรอบฝั่งซ้ายแล้วลากตัดมาซัดด้วยขวาในกรอบอีกแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไปเข้ามือ กาลินเดซ
ตอร์เรส โขกหาย! เจ้าบ้านตีเสมอจนได้ 1-1
ทีมเยือนมาตีเสมอจนได้จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา ปลาต้า เปิดเข้ามาให้ ตอร์เรส ได้ขึ้นโขกหน้าเสาแรกเต็มๆบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปไม่เหลือ อลิสซอน พยายามล้มตัวปัดแต่ไม่ทัน
โคตรดราม่า! อลิสซอน โดนใบแดงแต่รอดอีกแล้ว
ท้ายเกมมีดราม่าอีกจากจังหวะที่ อลิสซอน ชกบอกในกรอบเขตโทษแล้วไปโดนหัว เปรเซียโด้ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษและแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงทันทีก่อนจะไปเช็ค VAR อีกรอบแล้วก็ยังยกเลิกเหมือนเดิม
จบเกมเสมอกันไปสุดเดือด 1-1
ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ วันนี้ บราซิล ที่เข้ารอบไปแล้ว บุกมาเสมอกับ เอกวาดอร์ 1-1 ยังนำเป็นจ่าฝูงที่ 36 แต้ม ก่อนจะไปแข่งกันต่อต้นเดือนหน้า
บราซิล
Starting Formation: 4-3-3
11.
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

33'
19.
ราฟินญ่า

63'
7.
มาเตอุส คุนญ่า

79'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

63'
ตัวสำรอง
9.
กาเบรียล เชซุส

63'
13.
ดานี อัลเวส

33'
18.
อันโทนี่

63'
21.
กาเบรียล บาร์โบซ่า

79'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Fri Jan 28, 2022 09:51, ทั้งหมด 24 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ