เส้นทางชีวิต ฮาคาน ซูเคอร์
"จากคิงสู่ผู้ลี้ภัย"
กลางปี 2016 เกิดเหตุวุ่นวายถึงขั้นจลาจลที่ตุรกี ทหารกลุ่มหนึ่งพยายามจะหวังทำรัฐประหารรัฐบาลของ ตายยิป เออร์โดกาน ประธานาธิบดีจอมเรียกแขกที่มาจากการเลือกตั้ง มีเสียชีวิต 250 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 2,000
แต่ฝ่ายต่อต้านกระทำการไม่สำเร็จ ก่อนจะโดนไล่เช็คบิลจับกุมพวกตัวการสำคัญถูกยัดใส่คุกหลายคน
รัฐบาลเติร์กมีรายชื่อแกนนำกบฎ 350 คนด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ ฮาคาน ซูเคอร์ อดีตกองหน้าระดับตำนานของประเทศ ผมว่าคอลูกหนังยุคกลางคุ้นเคยดีอยู่นะ
ซูเคอร์ ร่วมมือกับ เซอร์เม็ต ซูเคอร์ พ่อของเขาในปฎิบัติการครั้งนี้ด้วย ปรากฏว่าพ่อหนีไม่ทันถูกจับควบคุมตัวได้หลังจากก่อเหตุไม่เท่าไร ระหว่างละหมาดอยู่ในมัสยิดแห่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไล่ล่า ซูเคอร์ ด้วย ไปค้นบ้านทั้ง 2 หลังที่อิสตันบูล และ ซาการ์ยา แต่ปรากฏว่าไหวตัวทันพาครอบครัวที่เหลือ หนีไปอยู่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาแบบหวุดหวิด แต่ก็ต้องถูกอายัดทรัพย์สินมูลค่าถึง 60 ล้านยูโร ตัดท่อน้ำเลี้ยงก่อนอื่นใด
ถ้าในโลกฟุตบอลแล้ว ซูเคอร์ ยิ่งใหญ่ไม่น้อย เคยเป็นแกนนำสำคัญพาทัพเติร์กคว้าอันดับ 3 เวิล์ดคัพฉบับเอเชียเมื่อปี 2002 นอกจากนี้ยังครองสถิติยิงมากสุดในนามทีมชาติ 51 ประตูด้วยกัน จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีกองหน้าคนไหนโค่นลงได้
เท่านั้นไม่พอยังรับใช้ชาติทั้งสิ้น 112 นัดมากเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงแค่ รุสตู เร็คเบอร์ ผู้รักษาประตูที่อายุการใช้งานมักจะเยอะกว่าผู้เล่นเอาท์ฟิลด์อยู่แล้ว
ส่วนผลงานในระดับสโมสรก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจด้วย โดยเฉพาะตอนอยู่ กาลาตาซาราย เคยคว้าแชมป์ซูเปอร์ลีกาหรือลีกสูงสุดของตุรกี 8 สมัย เตอร์กิช คัพอีก 5 สมัย
ได้ไปค้าแข้งในกัลโช่ เซเรียอากับ โตริโน่ , อินเตอร์ มิลาน และ ปาร์ม่า ในพรีเมียร์ลีกก็เคยมาสร้างชื่อกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ช่วงท้ายของอาชีพ ซูเคอร์ โผกลับถิ่นเก่า กาลาตาซาราย ก่อนจะประกาศแขวนเกือกในปี 2008 หากเป็นนักบอลอื่นคงหันไปเอาดีทางด้านโค้ช แต่ ซูเคอร์ เลือดพ่อเข้มข้นโจนสู่เวทีการเมืองมันซะเลย
ปี 2011 ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเขาลงเลือกตั้งในนามพรรคเอเคพี ซึ่งอยู่คนละขั้วกับ เออร์โดกาน มีบทบาทอยู่ในสภาได้ 2 ปีก็ตัดสินใจลาออก มาเดินแผนใต้ดินเพื่อโค่นล้มอำนาจฝ่ายตรงข้ามให้ได้
ว่ากันว่าเขาและพ่อเป็นสมาชิกองค์กรลับของ เฟตฮูลเลาห์ กูเลน นักศาสนา ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารครั้งล่าสุดนั่นแหล่ะ
จริงๆแล้ว ซูเคอร์ ไม่ได้มีสายเลือดเติร์กเลยสักนิดเดียว พ่อเป็นชาวอัลแบเนี่ยนที่อาศัยอยู่ในเขตโคโซโวเดิม สมัยอาณาจักรยูโกสลาเวียยังไม่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
แม่ก็มาจาก มาซิโดเนีย แล้วทั้งคู่ก็หอบหิ้วลูกๆ หนีพิษการเมืองและสงครามมาพึ่งในบุญตุรกี
ตอนเขาแต่งงานกับ เอสร่า เอลเบอร์ลิค ภรรยาคนแรกนั้น มีการถ่ายทอดสดพิธีวิวาห์ไปทั่วประเทศด้วย รวมไปถึง ตานซู ซิลเลอร์ นายกรัฐมนตรีสาวและ เออร์โดกาน ซึ่งตอนนั้นครองตำแหน่งนายกเทศมนตรีของอิสตันบูลมาร่วมเป็นสักขีพยาน ใหญ่แค่ไหนคิดดูเอา
ซูเคอร์ นั้นหลงไหลคลั่งไคล้การเมืองมาตั้งแต่ยังเล็กแล้ว เหมือนกับ เซอร์มิต ผู้พ่อ ว่ากันว่าพรรคพวกสายเดียวกัน เคยวางตัวไว้ถึงประธานาธิบดีเลยทีเดียว
จากความฝันจะเป็นดาวบนเวทีการเมือง มีบทบาทในการขับเคลื่อนตุรกีตามแนวทางของตัวเอง พอหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่สหรัฐฯเปิดร้านเบเกอรี่ชื่อว่า Tuts ขายขนมปังสไตล์เติร์กนานาชนิด
นอกจากนี้ยังมีไส้กรอกที่ว่ากันว่าอร่อยถูกปากอย่างมาก รวมไปถึงเพนเค้กที่ดัดแปลงมาจากของกรีซก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเลย
รวมทั้งภายหลังยึดอาชีพโชเฟอร์ขับอูเบอร์อีกต่างหาก เพื่อยืนหยัดให้ได้กับการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ
ความจริงเขาได้รับข้อเสนอจากสโมสรในสหรัฐฯ ให้มาเป็นโค้ชหรือใช้ความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลมาทำงานด้านนี้ แต่ ซูเคอร์ ปฏิเสธไป ไม่รู้ในใจคิดอะไรอยู่ ยังอยากจะหวังกลับมาถิ่นเกิดอีกหรือเปล่า
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะครับ จากนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ระดับตำนานขึ้นหิ้งฝังเพชรของตุรกี ถูกเรียกว่า "คิง ฮาคาน" เวลานี้กลายมาเป็นนักโทษการเมืองซะอย่างนั้น
"ผมไม่เหลืออะไรเลย เออร์โดกาน เอาไปทุกอย่าง สิทธิเสรีภาพ การแสดงออก รวมทั้งเรื่องงาน"
"ไม่มีใครอธิบายได้เลยว่าบทบาทของผมในการทำรัฐประหารคืออะไร ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย คนทรยศหรือผู้ก่อการร้าย"
"ผมเป็นแค่ศัตรูของรัฐบาลชุดนี้ แต่ไม่ใช่กับตุรกี ผมรักประเทศของผม"
"หลังหนีจาก เออร์โดกาน มาแล้ว ผมเริ่มโดนข่มขู่คุกคาม ร้านค้าของภรรยาโดนทำลาย ลูกๆตกอยู่ในความอันตราย พ่อของผมถูกจับเข้าคุกและทรัพย์โดนยึดไปหมด"
"ดังนั้นผมจึงต้องหนีมาสหรัฐฯ ตอนแรกเปิดร้านกาแฟที่แคลิฟอร์เนีย แต่มีคนแปลกหน้าเข้ามาบ่อย ภายหลังเลยเปลี่ยนมาขับอูเบอร์และขายหนังสือ"
ซูเคอร์ เล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะประคับประคองให้ชีวิตตัวเองและครอบครัวอยู่รอดปลอดภัย แม้จะย้ายประเทศหนีแล้วก็ตาม
ฟุตบอลทำให้เขาเป็นคิง การเมืองทำให้เขาเป็นผู้ลี้ภัย -- นี่แหล่ะที่ชัดเจนสุดแล้ว
เครดิตเพจ ดร.พิว Sunday