"อาซาร์" สำรองฮีโร่! ชุดขาว 10 คนฮึดแซงเอลเช่ 2-1 ลิ่วโกปา
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออกบุกมาเสมอกับ เอลเช่ ในช่วงต่อเวลาปกติ 0-0 ก่อนจะมาเหลือ 10 คนจากใบแดงของ มาร์เซโล่ และโดนยิงนำไปก่อนแต่ยังดีมาได้ อิสโก้ ยิงตีเสมอทันควันและสุดท้ายเป็น เอแด็ง อาซาร์ ที่ยิงประตูชัยนาทีที่ 116 ช่วยให้พวกเขาแซงชนะไป 2-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปของ โกปา เดล เรย์
เอลเช่
Starting Formation: 4-4-2
26.
จอห์น โดนัลด์

87'
17.
โฆซาน

66'
12.
ลูคัส เปเรซ

79'
7.
กุยโด้ คาร์ริโญ่

95'
ตัวสำรอง
5.
กอนซาโล่ แวร์ดู

87'
10.
เปเร่ มิญ่า

79'
11.
โฆเซ่ อันโตนิโอ โมเรนเต้

66'
34.
โฆเซ่ หลุยส์ เฟรียซ่า

95'
โกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สนาม เอสตาดิโอ มานูเอล มาร์ติเนซ บาเลโร่
พฤหัสบดี ที่ 20 มกราคม 2565
กรรมการ ฮอร์เก้ ฟิเกรัว
เอลเช่
1
2
เรอัล มาดริด
1-1 อิสโก้ 108'
1-2 เอแด็ง อาซาร์ 116'
มาดริด วันนี้จะไม่มีชื่อตัวหลักอย่า ธีโบต์ คูร์กตัวส์, คาริม เบนเซม่า, คาริม เบนเซม่า และ ดานี่ การ์บาฆาล รวมถึง เอแดร์ มิลิเตา ที่ติดโทษแบน แต่จะได้ ลูก้า โยวิช ฟิตพออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและ แกเร็ธ เบล ที่กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง
คาร์ริโญ่ ชาร์จจ่อๆบอลชนคาน!
โอกาสแรกของเกมเจ้าบ้านเกือบได้ประตูขึ้นนำ จังหวะที่ โฆซาน ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นขวาก่อนจะตบเข้ามาตรงกลางให้ คาร์ริโญ่ ล้มตัวมาชาร์จจ่อๆแต่บอลยังไปชนคานแล้วเด้งออกมาน่าตาเฉย
คามาวิงก้า ลากมาซัดเองบอลไม่เข้าเป้า
จังหวะนี้เป็น คามาวิงก้า ลากบอลมาเองตรงกลางสนามจนถึงหน้ากรอบก่อนจะซัดด้วยซ้ายเต็มๆบอลพุ่งแรงแต่หลุดเสาออกไปไม่ได้ลุ้น
คาร์ริโญ่ ได้โขกเต็มๆบอลก็ยังหลุดกรอบ
จากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้ายของเจ้าบ้าน กุมเบา เปิดเข้ามาให้ คาร์ริโญ่ ได้ยืนโขกเต็มๆกลางประตูบอลยังเฉียดเสาซ้ายออกไปพอได้ลุ้น
โครส วางเท้าปั่นหน้ากรอบบอลหลุดเสา
จากจังหวะที่ บาซเกซ พาบอลมาทางขวาแล้วแตะให้ โครส หน้ากรอบตรงกลางได้วางเท้าปั่นด้วยขวาแบบไม่จับแต่บอลยังเบาโค้งหลุดเสาออกไป
คาร์ริโญ่ ได้โขกอีก ลูนิน คราวนี้ ลูนิน ต้องพุ่งปัด
เจ้าบ้านยังได้ลุ้นต่อเนื่องจังหวะนี้ โมฮิก้า ได้บอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะครอสมาถึง คาร์ริโญ่ คนเดิมได้ขึ้นโขกกลางประตูกดลงพื้นบอลเกือบเด้งเข้าประตูแต่ ลูนิน ยังล้มตัวปัดออกมาทัน
วินิซิอุส ลากสวนมาซัดเองบอลข้ามคาน
จากจังหวะที่เจ้าบ้านกำลังโหมบุก ทีมเยือนได้บอลสวนเร็วมาทางซ้าย วินิซิอุส ลากล็อคหลบไปเข้าไปเองถึงกลางประตูก่อนจะล้มตัวยิงด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกไป
คามาวิงก้า หวดเน้นๆยังไม่ผ่านมือ แวร์เนอร์
จังหวะนี้ วินิซิอุส ได้บอลทางซ้ายอีกแล้วลากมาแตะ คามาวิงก้า หน้ากรอบจับบอลหนึ่งจังหวะแล้วหวดด้วยซ้ายบอลยังไปตรงตัว แวร์เนอร์ รับติดมือ
คามาวิงก้า ลากมากดเต็มๆอีกก็ยังไม่ผ่าน แวร์เนอร์
จากจังหวะที่ คามาวิงก้า ตัดบอลได้ตรงกลางแล้วลากมาซัดเองด้วยซ้ายตรงหัวกระโหลกแต่บอลสุดท้ายก็ยังไปตรงตัว แวร์เนอร์ รับติดมือได้อีก
นาโช่ ลองยิงลักไก่แต่ไม่เข้าเป้า
เริ่มครึ่งหลังมาทีมเยือนยังครองบอลบุกต่อเนื่องจังหวะนี้ นาโช่ ได้บอลกลางสนามแล้วลองลักไก่ส่องไกลแต่บอลไม่เข้ากรอบ แวร์เนอร์ เดินไปคว้าได้สบาย
มาร์เซโล่ ลากตัดมาซัดเองบอลหลุดเสา
จากจังหวะที่ มาร์เซโล่ ได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากตัดเข้าตรงกลางแล้วปั่นด้วยขวาบอลสุดท้ายโค้งหลุดเสาขวาไปไม่เยอะ
กุมเบา ปั่นฟรีคิกหลุดกรอบไม่ได้ลุ้น
เจ้าบ้านได้ฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวาประมาณ 30 หลา แล้วเป็น กุมเบา กึ่งยิงกึ่งเปิดด้วยซ้ายหลุดเสาซ้ายออกไปไม่ได้ลุ้นอะไร
คาเซมิโร่ ซัดเกือบหาย แวร์เนอร์ ต้องพุ่งเซฟ
โอกาสเกือบได้ประตูของเจ้าบ้าน บาซเกซ ในกรอบฝั่งขวาแตะบอลให้ คาเซมิโร่ หน้ากรอบวิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งเกือบเสียบเสาแรกแต่ แวร์เนอร์ ยังพุ่งปัดออกมาได้ทุน
วินิซิอุส ได้จบในกรอบก็ยังไม่ผ่าน แวร์เนอร์
เริ่มจาก โรดริโก้ ได้บอลหน้ากรอบตรงหัวกระโหลกแล้วแตะให้ วินิซิอุม ได้หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายจังหวะสุดท้ายได้แปด้วยขวาเน้นๆก็ยังไม่ผ่าน แวร์เนอร์
จบเวลาปกติทำอะไรกันไม่ได้ต้องต่อเวลาเพิ่ม
แม้ทั้งเกมจะแลกกันสนุกแต่จบเวลาปกติไม่มีประตูจากทั้งสองฝั่งเลยต้องทดเวลาพิเศษอีก 30 นาที ก่อนจะไปยิงจุดโทษตัดสินหากยังไม่มีผู้ชนะ
กุมเบา ปั่นฟรีคิกเกือยหาย! ลูนิน ยังพุ่งเซฟทัน
เจ้าบ้านเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบตรงหัวกระโหลก กุมเบา วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลตรงกรอบเกือบเข้าประตูแต่ ลูนิน ยังพุ่งปัดออกมาทัน
คาเซมิโร่ ได้ซัดในกรอบยังหลุดเสา
จังหวะที่ วินิซิอุส ตัดบอลได้หน้ากรอบแล้วแต่ให้ คาเซมิโร่ ที่เติมขึ้นมาถึงในกรอบฝั่งซ้ายได้จบด้วยขวาเต็มๆบอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไป
มาร์เซโล่ โดนแดง! ชุดขาวเหลือ 10 คน
ทีมเยือนต้องมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่เจ้าบ้านสวนมาจากแดนตัวเองบอลสุดท้าย โมเรนเต้ ได้หลุดเข้าไปเกือบถึงในกรอบแล้วเป็น มาร์เซโล่ ที่เข้าไปสกัดตัวสุดท้ายโดนใบแดงโดนตรงไล่ออกไปเลย
แวร์ดู ซ้ำฟรีคิกแฉลบเข้าประตู! เจ้าบ้านนำแล้ว 1-0
เจ้าบ้านขึ้นนำจนได้จากจังหวะต่อเนื่องที่เป็นฟรีคิก แวร์ดู ซัดด้วยขวาไปติดกำแพงจังหวะแรกเด้งออกมาได้ซัดเข้าไปอีกคราวนี้แฉลบกองหลังทีมเยือนเปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย
อิสโก้ ดีดเปลี่ยนทางเข้าประตู! ชุดขาวไล่มา 1-1
ทีมเยือนมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เซบาญอส ได้ง้างเท้ายิงหน้ากรอบแล้วบอลมาโดน อิสโก้ ตรงกลางหันหลังดีดเปลี่ยนทางเข้าประตูไปไม่เหลือ เกมยังไม่จบ
วินิซิอุส สอดมาซัดเต็มๆยังไม่ผ่าน แวร์เนอร์
จังหวะนี้ โมดริช เลาะเข้ามาทางขวาก่อนจะจ่ายให้ วินิซิอุส สอดเข้ามายิงหน้าเสาขวาเต็มๆแต่บอลยังไม่ผ่าน แวร์เนอร์ เซฟติดมือ
อาซาร์ ฮีโร่! ซัดให้ชุดขาวพลิกแซง 2-1
ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นไปเลยจากจังหวะที่ อลาบา โยนบอลกลางสนามมาให้ อาซาร์ หลุดเข้าไปกลางประตูแล้ว แวร์เนอร์ ออกมานอกกรอบโดนแตะหลบซัดเข้าไปไม่เหลือ
จบเกม ชุดขาว ทำได้พลิกชนะ 2-1
เรอัล มาดริด ต่อเวลาแซงชนะ เอลเช่ ไป 2-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปของ โกปา เดล เรย์ เกมต่อไปจะได้เจอกับอีกในเกมลีกที่สนาม ซานติเอโก้ เบร์นาเบว
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า

71'
8.
โทนี่ โครส

91'
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

72'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

115+2'
16.
ลูก้า โยวิช

79'
21.
โรดริโก้

91'
ตัวสำรอง
7.
เอแด็ง อาซาร์

91'
10.
ลูก้า โมดริช

72'
14.
คาเซมิโร่

71'
19.
ดานี่ เซบาญอส

91'
22.
อิสโก้

79'
23.
แฟร์กล็องด์ เมนดี้

115+2'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Fri Jan 21, 2022 03:48, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ