POWER GAME (วิเคราะห์ผลเลือกตั้งซ่อม)
https://youtu.be/8cqPjsJf1fI
ฝากแปะหน่อยครับ
ep. คุณตุ้มวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ ก็ค่อนข้างน่าสนใจ ลองฟังกันดูครับ แต่มีประเด็นอื่น ๆ ที่โยงมาถึงในบอร์ดที่ผมสนใจมากกว่า
1. เรื่องกองเชียร์พรรค กก.
อย่างที่รู้ว่าในบอร์ดนี้แถบจะ dominant ด้วยกองเชียร์ กก. ซึ่งเหตุผลแต่ละบุคคลก็คงแตกต่างกันไป รวมถึงเป้าหมายด้วย อันนี้ผมไม่ก้าวก่าย
แต่อยากจะให้ทำความเข้าใจธรรมชาติของพรรคและ position ในการเมืองไทย พรรค กก. เป็นพรรคที่เน้นอุดมการณ์เป็นหลัก เรื่องฝีมือการบริหารคงยังชี้ชัดไม่ได้เพราะไม่ได้มีโอกาส แต่โดยพื้นฐานแล้วทั้งจุดประสงค์ตั้งแต่ตอนที่ตั้ง , พันฐกิจ และฐานเสียง พรรคมีคาแรกเตอร์ค่อนข้างชัดเจน
และถ้าคุณดูประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในประเทศทุนนิยมเสรีประชาธิปไตย น้อยครั้งมากที่พรรคที่มีคาแรคเตอร์แบบนี้จะชนะการเลือกตั้ง อย่างดีคือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลโดยมีคะแนนเสียงเป็นลำดับ 2 (ซึ่งก็น้อยครั้งมาก) โดยฐานเสียงส่วนมากมักจะอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางและคนมีการศึกษา ซึ่งไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ
แน่นอนว่าอย่างไรก็ตาม พรรคต้องการจำนวนเสียงให้มากที่สุดเพื่อที่จะใช้ขับเคลื่อนอุดมการณ์ และเพิ่มพลังของเสียงที่จะใช้ชี้นำสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้น
2. ความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
ในขณะที่คนในบอร์ดมักจะให้ความสนใจกับความขัดแย้งระหว่าง พท. และ กก. ไม่ว่าจะทั้งกองเชียร์ทั้ง 2 ฝั่ง ร่วมถึงสลิ่มแอบกลางที่นาน ๆ ทีจะได้โอกาสโผล่จากรูมาตามน้ำบ้าง หลายครั้งฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยก็มักจะมองข้ามเรื่องความขัดแย้งของฝ่ายสนับสนุนเผด็จการ และมาโฟกัสที่ความขัดแย้งของฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเป็นทั้งธรรมชาติและข้อเสียในตัวของฝ่ายประชาธิปไตยที่มีความหลากหลายทางความคิด
ฝ่ายเผด็จการเองก็มีความขัดแย้งเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมันมีที่มาจากเรื่องของผลประโยชน์ อำนาจและเงินเป็นของที่มาเป็นเพกเกจ เมื่อคุณมีสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อีกสิ่งจะตาม แต่ทั้งสองอย่างก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมาเมื่อมันไม่ถูกจัดสรรให้ลงตัวและเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย
แน่นอนว่าคงยากที่จะเห็น ประยุทธ์และประวิตรหักกัน แต่คนรอบตัว 2 คนนี้แทงกันไม่พัก ไม่เว้นแต่ละวัน ตอนนี้ ปชป. กับ พปชร. กลายเป็นคู่แข่งในฐานเสียงฝ่ายขวาอย่างเต็มตัวในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า และ ปชป. พิสูจน์กิติศัพท์แมลงสาบอีกครั้งว่าตายยากแค่ไหน
การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้ายังคงมีล็อค สว.250 อยู่ แต่ก็จะเหลือวาระอีกแค่ 1 ปี และถ้าอยากจะแก้บทบัญญัติเพื่อต่ออายุอำนาจ ก็จำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนจากทั้ง ปชป. และ ภท. ในรายของ ภท. อาจจะพอโน้มน้าวได้ แต่ ปชป. คงไม่ยอมเป็นลูกไล่ พปชร. อีก
ดังนั้นช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองไทย ถ้าใครเคยอ่านบทวิเคราะห์ทางการเมืองน่าคุ้นกับประเด็นที่ว่าสถานการณ์การเมืองไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมาอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านจากสมดุลอำนาจเก่า ไปหาสมดุลอำนาจแบบใหม่ ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร หน้าตาเป็นยังไง คิดว่าภาพอาจจะชัดขึ้นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้แหละ