ผมพยายามจะเข้าใจ ปชป. นะว่าถ้าการเมืองแบบจับต้องได้ถูกรันไปแล้วมันเห็นผล การเมืองแบบพวกเขาก็ตายครับ อาจจะตายยาวๆแพ้ยับๆไป 10 หรือ 20 ปีก็ได้ (หรืออาจจะแพ้จนกว่าทักษิณจะเลิกเล่น) ดังนั้นการมีม็อบหรืออะไรสักอย่างมาเตะตัดขาพวกนี้ก็เป็นเรื่องจำเป็น

ซึ่งขณะที่ผมกำลังพิมพ์ก็นึกๆไปว่าถ้าเตะขา ปชป. อย่างเดียวไม่แตะเจ้าจะได้ไหม คำตอบคือไม่น่าจะได้ (และส่วนสำคัญที่ทำให้ทักษิณ & ไทยรักไทยแพ้พ่าย ไม่ใช่เสื้อเหลืองหรือ ปชป. นะ แต่คือเจ้านี่แหละ) มันทำให้ผมคิดว่าจริงๆแล้ว ปชป. เนี่ยอาจจะเป็นนอมินีของเจ้าในนามพรรคการเมืองก็ได้

ส่วนเรื่องซื้อเสียง ผมว่ามันคือ combination จารีตแบบไทยๆได้ทุกเรื่องเลยนะ

ซึ่งผมก็ไม่อยากโทษว่าคนพวกนั้นโง่หรือเอาเงินซื้อได้นะ แต่อาจจะด้วยความลำบากด้วยแหละ ที่เห็นอะไรก็ต้องคว้าไปก่อน เขาอาจจะไม่ได้โง่จนไม่เข้าใจก็ได้อย่างการเลือกตั้งปี 2548 ที่พรรคชนะการเลือกตั้งใช้เงินซื้อเสียงน้อยกว่าเพราะอะไร เพราะนโยบายของพรรคมันรันแล้วทำให้คนเลิกคิดเรื่องปากท้องจนมองถึงอนาคตได้ไงครับ

ทุกคนจะบอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย ที่ไหนก็เหมือนกัน ไม่เชื่อไปถามคุณลุงหน้าด้านดูสิ

อย่าลืมว่าปี้นี้ประเทศไทยเข้าสู่ ประเทศสูงวัยเต็มตัวแล้ว ยังไงก็ต้องรอให้คน gen นี้ล้มหายไปก่อน อีกสัก 10-20 ปี เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ น่าจะเสียงแตกบ้างแหละ

การศึกษาคือสิ่งสำคัญนั่นแหละ ชัดเจนที่กระทรวงเวทมนตร์ของไทย ก็พยายามทำให้เด็กไทยไม่เท่าเทียม ส่วนนึงคือทำให้โง่ไปเลย ซึ่งหลายคนก็มาจากฐานครอบครัวของแต่ละคนด้วยแหละ ไม่เกี่ยวว่ารวยหรือจน บางทีลูกคนรวยสนับสนุนเผด็จการมากกว่าอีก เพราะตัวเองได้ประโยชน์ไง ส่วนลูกคนจนหลายครัวก็ถูกบีบให้โง่ เพราะข้อจำกัดหลายๆอย่าง ต้องดิ้นเอาเอง

ตรรกเหมาเข่ง คือตรรกควายไหมครับ
ปล ผมไม่ใช่คนใต้

แต่ส่วนนึงผมว่าเพราะคนพอใจกับนโยบาย"ขยันแจก"ของรบ.ะยอะอยู่นะครับ อยู่เฉยๆก็ได้เงินนี่ คนพอใจกันเยอะมาก

การเลือกตั้ง คือประชาธิปไตย ในเมื่อเลือกแล้วเค้าชนะก็ต้องยอมรับ ส่วนคนที่เลือกเค้ารับได้กับพรรคที่ไร้สัจจะ ไร้ฝีมือ มีแต่พูด ทำไม่เป็น บริหารงานไม่เคนสำเร็จ แม้กระทั่ง พืชผลจากภาคตัวเองก็ไม่เคยช่วยอะไรๆ ให้มันดีขึ้น สุดท้ายเลือกเพราเลือกมานานแล้ว ก็แค่นั้น

เป็นมานานแล้วท่าน เป็นมาตั้งแต่แรกๆ เผลอๆตั้งพรรคมาเพื่อการนี้แหละ

แต่ส่วนตัวผมว่าหลังๆมันไม่ใช่ภาพของการต่อสู้ระหว่างคนเอากับไม่เอาเพียงแค่นั้น

มันเป็นการต่อสู้กันระหว่าง Gen ไปด้วย เพราะเอาจริงๆหลายๆคนที่อายุเยอะเค้าก็ไม่ได้ชอบ

แต่ยังไม่อยากยอมรับว่ากระแสมันเปลี่ยนไป เด็กรุ่นใหม่มีพลังมีพื้นที่มากขึ้น มัน disrupt สิ่งที่เค้าเชื่อ

ผมไม่รู้ว่าตีความผิดหรือเปล่านะ แต่เม้นท์แบบนี้ผมว่าไม่สร้างสรรค์เลย

ความเห็นผมคือเหมารวมไม่ผิด มันเหมือนสุ่มตัวอย่างมาแล้วมันมีแนวโน้มไปในทิศทางนั้นเลยเหมารวมว่าคนใต้มีแนวโน้มเลือกตามเพื่อนฝูง ไม่ดูจากสภาพความเป็นอยู่อะไรก็ว่าไป แบบนี้จะเอาไปคิดต่อได้ว่าแล้วจะทำยังไงให้เค้าหันมามองสภาพความเป็นจริงแทนการเชื่อพวกพ้อง แต่การไปเหมารวมว่าโง่เนี่ย มันไม่ควร เพราะไม่ได้ช่วยให้เกิดอะไรเลย

ประฃาธิไตยแบบ ไทยonly
เงินไม่มา กาไม่เป็น
แล้วเงินมาจากไหนล่ะ
เอาเงินทั่วประเทศไปลงไม่กีที่

เราไปว่าเค้าไม่ได้ เดี๋ยวจะเป็นสลิ่มกลับด้านนะ ชิบ..วายวอดกันมาแค่ไหน ก็เลือกแบบเดิมๆ อย่าได้หวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง ต่อไปจะออกมาประท้วงอะไร คนอื่นเค้าไม่เห็นใจ ก็อย่าไปว่าคนอื่นเค้าคืนล่ะ

ว่าตามความหมายของคำว่าโง่ ในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ดังนี้ คือ เขลา , ไม่ฉลาด , ไม่รู้

จะว่าไม่รู้ก็ไม่ใช่ เขารู้แต่เขาไม่สนใจ เขาเชื่อพวกพ้อง ตรงนี้อาจจะตัดไป

เขลาเนี้ยสิใช่ที่สุด ขาดไหวพริบ รู้ไม่ถึง รู้ไม่เท่าทัน ไม่เฉียบแหลม ไม่ฉลาด

เพียงแต่คำว่าโง่มันแรงและตรงแบบขวานผ่าซากที่สุด เลยอาจจะจี้ใจดำใครหลายคนครับ

เอาเป็นว่า ขาดไหวพริบละกันครับ โดนล่อด้วยเงินหลักพันก็เอาแล้ว ไม่มีไหวพริบคิดว่าเขาจะเอาคืนจากภาษีกี่เท่าตัวนั้นแหละ

ประเทศเราเป็นประเทศที่มีหลักการพิลึก ย้อนแย้ง พลิกตลบมากสำหรับผม

อะไรที่สลิ่มด่าคนอื่นเนี้ย เข้าตัวตัวเองหมดเลย ไม่ว่าจะไปแตะจุดไหน วงการไหนก็ตาม

แถมขี้น้อยใจด้วยนะ พอโดนด่าก็พยายามแอ๊บเอาหลักการกลวงๆขึ้นมาสู้ ตลกดีครับ