แชมป์แรกมาแล้ว! "ชุดขาว" สอยบิลเบา 2-0 ซิวซูเปอร์คัพ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ซูแปร์โคปา เด เอสปันญ่า รอบชิงชนะเลิศ วันนี้เป็น เรอัล มาดริด ที่เอาชนะ แอธเลติก บิลเบา แชมป์เก่าไป 2-0 จากประตูสุดสวยของ ลูก้า โมดริช กับ จุดโทษของ คาริม เบนเซม่า แถมท้ายเกม ธีโบต์ คูร์กตัวส์ ยังเซฟจุดโทษช่วยทีมได้อีก ทำให้พวกเขาประเดิมคว้าแชมป์แรกของซีซั่นนี้มาครองเป็นที่เรียบร้อย
แอธเลติก บิลเบา
Starting Formation: 4-4-2
24.
มิเกล บาเลนเซียก้า

58'
7.
อเล็กซ์ เบเรนเกวร์

46'
19.
โออิเยร์ ซาร์ราก้า

58'
10.
อิเคร์ มูเนียอิน

81'
8.
ออยอาน ซานเซ็ท

58'
ตัวสำรอง
6.
มิเกล เวสก้า

58'
17.
ยูรี เบร์ชิเช่

58'
22.
ราอูล การ์เซีย

58'
30.
นิโก้ วิลเลียมส์

46'
33.
นิโคลัส เซร์ราโน่

81'
ฟุตบอล ซูแปร์โคปา เด เอสปันญ่า รอบชิงชนะเลิศ
สนาม คิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม
อาทิตย์ ที่ 16 มกราคม 2565
กรรมการ เซซาร์ โซโต้
แอธเลติก บิลเบา
0
2
เรอัล มาดริด
0-1 ลูก้า โมดริช 38'
0-2 คาริม เบนเซม่า 52'
มาดริด จะเปลี่ยน 3 ตำแหน่งจากเกมนัดก่อน วันนี้ไม่มีชื่อของ ดานี่ การ์บาฆาล และ มาร์โก้ อเซนซิโอ แต่จะได้ ดาบิด อลาบา กลับมาประจำการแผงหลัง โดยอีก 2 ตำแหน่งเป็น ลูคัส บาซเกซ กับ โรดริโก้ ที่ได้ออกสตาร์ท
ส่วน บิลเบา จะใช้ชุดเดิมที่เจอกับ แอตฯ มาดริด นัดก่อนไม่มีตัวขาดไปหรือได้เพิ่มกลับมา
โรดริโก้ ได้ลากมาซัดทักทายยังไม่มีอะไร
เริ่มเกมมา มาดริด ได้ทักทายก่อนจังหวะนี้ คาเซมิโร่ หน้ากรอบแทงบอลให้ โรดริโก้ ได้ลากเลาะมาทางสุดเส้นขวาก่อนจะได้ซัดหน้าเสาแต่บอลสุดท้ายแป๊กออกหลังยังไม่ได้ลุ้นอะไร
เยราย ได้ขึ้นโขกบอลหลุดเสาขวาไม่เยอะ
จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาของ บิลเบา มาร์ติเนซ ขึ้นโขกแล้วบอลมาถึง เยราย ตรงกลางได้โขกซ้ำเข้าไปบอลสุดท้ายหลุดเสาขวาไปไม่เยอะพอได้ลุ้น
เบนเซม่า ได้ซัดเน้นๆบอลติดเซฟเฉียดเสา
โอกาสใกล้เคียงของ มาดริด โรดริโก้ แตะให้ เบนเซม่า หน้ากรอบฝั่งขวาได้จับบอลแล้วหาจังหวะซัดด้วยขวาเน้นๆบอลพุ่งเกือบเสียบเสาซ้ายแต่ ซิม่อน ยังพุ่งปัดปลายมือออกหลังเป็นเตะมุม
คาเซมิโร่ ลากมากดเต็มข้อ ซิม่อน ต้องพุ่งปัดออกหลัง
จังหวะบุกขึ้ยมาเร็วทางขวาของ มาดริด คาเซมิโร่ ได้บอลลากมาถึงข้างกรอบฝั่งขวาก่อนจะกดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเกือบเสียบเสาแรกแต่ ซิม่อน ยังพุ่งปัดออกหลังทัน
คาเซมิโร่ ได้โขกอีกเกือบหาย! ซิม่อน ก็ยังปัดได้
จากจังหวะต่อเนื่องเป็นเตะมุมฝั่งขวา โครส เปิดเข้ามาให้ คาเซมิโร่ คนเดิมได้ขึ้นโขกกลางประตูอีกบอลเกือบมุดคานแต่ ซิม่อน ยังพุ่งปัดออกไปได้ทัน
ซาร์ราก้า ส่องหน้ากรอบบอลข้ามคานไปไกล
จังหวะบุกมาของบิลเบา มูเนียอิน ลากบอกมาแล้วแตะให้ ซาร์ราก้า หน้ากรอบได้ลองซัดด้วยขวาเต็มๆแต่บอลยังแรงเหินข้ามคานออกไปไกลไม่ได้ลุ้น
โมดริช ปั่นอย่างงาม! มาดริด นำจนได้ 1-0
มาดริด มาได้ประตูนำจนได้จากจังหวะที่ โรดริโก้ ลากบอลสวนเข้ามาถึงในกรอบฝั่งขวาก่อนจะแตะให้ โมดริช ตรงหัวกระโหลกแตะแล้วปั่นด้วยขวาเน้นๆบอลโค้งหนีมือ ซิม่อน เสียบเข้าไปไม่เหลือ
โมดริช ได้ลองส่องอีกแต่หลุดข้ามคานไปไกล
จากเตะมุมฝั่งขวาของ มาดริด บอลสุดท้ายมาถึง โมดริช หน้ากรอบได้โอกาสลองวางเท้าขวาหวดเน้นๆแต่คราวนี้บอลเหินข้ามคานไปไกลไม่ได้ลุ้น
ซานเซ็ท ได้ปั่นเน้นๆบอลหลุดเสานิดเดียว!
โอกาสเกือบตีเสมอของ บิลเบา มูเนียอิน แตะบอลให้ ซานเซ็ท ทางซ้ายในกรอบลากหาช่องมาถึงตรงกลางก่อนจะซัดด้วยขวาบอลโค้งหนีมือ คูร์กตัวส์ หลุดเสาขวาไปนิดเดียว
เบนเซม่า เรียกโทษเองก่อนซัดไม่เหลือ! มาดริดนำห่าง 2-0
มาดริด มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เบนเซม่า ยิงไปติดมือ เยราย ผู้ตัดตัดสินไปเช็ค VAR แล้วยืนยันเป็นจุดโทษแล้วเป็นเจ้าตัวอาสาซัดเข้าไปเองไม่เหลือ
มูเนียอิน ได้ส่องบอลข้ามคานไปไกล
จังหวะนี้ บาเลนเซียก้า แตะบอลให้ มูเนียอิน หน้ากรอบลองซัดด้วยขวาแต่บอลยังพุ่งเหินข้ามคานออกไปไกลยังไม่ได้ลุ้นตีไข่แตก
ราอูล การ์เซีย ลุ้นสองจังหวะก็ยังไม่ได้
ราอูล การ์เซีย ตัวสำรองที่เพิ่งลงมามีโอกาสได้จบ 2 หนในกรอบทั้งยิงและโหม่งแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังหลุดเสาขวาออกไปทั้งหมด
ราอูล การ์เซีย ขึ้นโขกเต็มๆบอลหลุดเสานิดเดียว
โอกาสเกือบได้ตีแขกแตกของ บิลเบา เบร์ชิเช่ ทางซ้ายครอสบอลเข้ามาให้ ราอูล การ์เซีย ได้ขึ้นโขกหน้าเสาขวาแต่บอลยังหลุดเสาออกไปนิดเดียว
เซร์ราโน่ ได้ปั่นหน้ากรอบเข้าซอง คูร์กตัวส์
บิลเบา พยายามโหมบุกหวังเอาประตูตีไข่แตกจังหวะนี้ เซร์ราโน่ ตัวสำรองได้บอลหน้ากรอบก่อนจะลองปั่นด้วยขวาบอลโค้งเข้าประตูแต่ไม่ผ่านมือ คูร์กตัวส์
มาดริด เสียจุดโทษ+ใบแดง แต่ ราอูล การ์เซีย ยิงติดเซฟ!
ท้ายเกมมาดริด มาเสียจุดโทษจากจังหวะที่ มิลิเตา ไปแฮนด์บอลในกรอบแถมเจ้าตัวยังโดนใบแดงแต่สุดท้ายเป็น ราอูล การ์เซีย ที่ยิงไปติดเซฟ คูร์กตัวส์ เต็มๆ
จบเกม ชุดขาว สอย บิลเบา 2-0 ซิวซูเปอร์คัพ
ซูแปร์โคปา เด เอสปันญ่า รอบชิงชนะเลิศ วันนี้เป็น เรอัล มาดริด ที่คว้าแชมป์มาครองจากการเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา แชมป์เก่า 2-0
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
17.
ลูคัส บาซเกซ

90+1'
21.
โรดริโก้

64'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

86'
ตัวสำรอง
6.
นาโช่

90+1'
12.
มาร์เซโล่

86'
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

64'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Mon Jan 17, 2022 05:27, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ