พอดีเคยมีประสบการณ์สัมเยอะๆแล้วก็ยังไม่ได้ย้าย[ไม่รับซํกที่]

ก็เลยสัมเยอะๆต่อไป ทีนี้เสือกผ่านรัวๆเลย

แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกได้แล้ว เลยต้องปฎิเสธๆไปหลายที่เลย

ซึ่งก็เป็นที่ที่ชื่อเสียงดูดี ในอนาคตน่าทำงานด้วยอยู่ด้วย[แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้]

ท่านๆรู้สึกยังไงกันบ้างอะครับ พอดีมันย้ายงานเป็นครั้งแรก

ตอนยังไม่ได้งานก็เครียด พอปฎิเสธไปหลายที่ก็นอยด์อีก

นอยด์แบบว่าอนาคตจะมีโอกาส จากบ.พวกนี้เข้ามาอีกไหม

จะโดนแบลคลิสต์แล้วหรือเปล่า บลาๆๆๆงี้

แล้วแต่คนมั้ง บางคนก็ใจแคบก็มีแหละ ไม่รับคนที่เคยออกไป ไม่รับคนที่ปฏิเสธงานมันมีหมดแหละ

แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่สนอ่ะ มีน้องในทีมคนนึงเคยปฏิเสธงานไปรอบนึง ผ่านอีกเดือนนึง ผมเปิดตำแหน่งเพิ่มก็โทรมาถามว่ายังรับมั้ย ผมก็รับนะ ก็มันผ่านแล้วอ่ะ ตอนเรียกมาสัมภาษณ์อีกรอบก็ทำแค่พอเป็นพิธี

ทุกวันนี้ก็แซวๆว่ามันเคยเทพี่ไปเว้ย

ไม่โดนแบลคลิส มั้งครับ ตราบใดที่เราไม่ได้ไปเซ็นสัญญา หรือ ตกลงปากเปล่ากับเค้า

แต่เวลาปฏิเสธที่นึง อีกที่นึงเค้าไม่ถามหรอครับ ว่าที่นั่นให้เท่าไหร่ เอาเพิ่มไหม อะไรงี้

ผมเจอแบบนี้ตลอดนะ

ถ้าเอาตามความรุ้สึกคือ เวลามีหลายที่รับเรา แล้วเราเป็นฝ่ายเลือกผมชอบนะ อย่างน้อยๆเราก็ได้เงินเดือนมากกว่าที่เราขอแน่ๆหละ เพราะมันจะต้องมี ที่ๆสู้แล้วเสนอเงินมากขึ้นมาเพื่อดึงให้เราเลือกเค้า ถ้าเราต้องการเราจริงๆนะ

เป็นผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน เข้าใจฝั่งผู้จ้างเหมือนกัน

แต่ผมก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองอยู่แล้ว

เป็นผม ผมจะบอกกับทุกที่ ที่ปฏิเสธไปว่า ผมได้งานอีกที่แล้ว

ถ้าในมองในอีกมุม พอบอกไปว่าได้งานอีกที่ เขาอาจจะoffer เกทับก็ได้

อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนใจ555555 ฉะนั้นอย่าไปเครียดครับ เลือกสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดพอแล้ว

อย่าไปแคร์มาก ฝั่งผู้จ้างเขารับคนเข้าออกมาเยอะ เขาเข้าใจ

ผมเป็นอยู่ครับ
ตอบรับมา 4 ที่พร้อมกันเลยครับของผม
ปวดหัวตอนหางานก็ทีนึงละ ตอนนี้ต้องมาปวดหัวตอนเลือกที่ทำงานอีก เงินเดือนก็ได้เท่ากันหมดเลย คือจะบ้าตาย
บางที่ไกลแต่อยู่ติดรถไฟฟ้า
บางที่ใกล้แต่ต้องขับรถไปอย่างเดียว วันไหนรถเสีย taxi only ดีไม่ดีอาจจะหลายร้อย
บางที่ก็บริษัทเล็กๆ แต่ก็เป็นงานที่อยากทำ
บางที่ก็บริษัทค่อนข้างใหญ่ คนก็รู้จักเวลาย้ายงานน่าจะง่าย แต่งานก็โหดเหมือนกัน


ใครก็ได้ช่วยทีครับ

ไม่ครับ ส่วนใหญ่คือ เขาเข้าใจได้นะ เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์เลือก แล้วเอาจริงๆ HR กับ Hiring Manager เจอแบบนี้มาเยอะอยู่แล้วครับ

ผมเจอหลายเคสรวมถึงตัวผมเองด้วย ที่เคยปฏิเสธที่นี่ไป พอผ่านไป ก็กลับไปสมัครที่นั่นอีก เขาก็รับสัมภาษณ์อีกนะ

แต่ถ้าจะโดน Blacklist จริงๆ คือ เซ็นสัญญาแล้วไม่ไป ซึ่งผมก็เคยทำมาแล้ว อันนี้น่าจะมองหน้าไม่ติดครับ

อยู่ที่เดิมครับน้า

ปฏิเสธไปตรงๆ ดีแล้วคับ HR เขาเข้าใจ เขาไม่ได้แค้นฝังหุ่นอะไรขนาดนั้นหรอก มีคนต่อคิวอีกเยอะ ดีไม่ดีสมัครใหม่อีกรอบเขาจำเราไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

ของผมมีครั้งนึง เทสต์ผ่านคุยเบื้องต้นทางเมลล์หมดแล้ว สุดท้ายตกลงค่าตัวไม่ได้ ผมใช้คำว่า ขอคิดดูก่อนนะครับ รู้สึกผิดจนวันนี้ วงการผมมันแคบไง มีให้สมัครไม่กี่ที่

เจอครับ แต่คือเราคุยกับที่ A ไปแบบนัดจะเซ็นสัญญากันแล้ว พอปฎิเสธ B B

ก็ให้เพิ่มแล้วบอกให้ไปลองคิดดูแล้วติดต่อมา

พอเราไปบอก A Aก็ให้เพิ่มอีก กลัวจะไปบอก B แล้วเกทับอีกรอบ เลยไม่ติดต่อ B กลับไปครับงี้

ดันทะลึ่งลาออกมาแล้วสิ

เกทับจริงๆครับ เกทับแล้วให้ไปพิจารณาดู แล้วติดต่อกลับมานะ

ผมเลยไปเล่าให้ที่ที่จะตกลงไว้ทีแรกฟัง(เล่าให้ฟังเฉยๆอะไม่ได้จะเปลี่ยนใจ) เค้าเกทับอีกรอบนึงอีก ผมเลยไม่ติดต่อกลับไปอีกที่แล้ว ปวดหัวว

งั้นผมว่าอย่างน้อยๆควรติดต่อ B กลับครับ ผมปฏิเสธชัดๆไปเลยถ้าเราเลือก A

ใจเค้า ใจเราแหละครับ ตัวเราเองก็ไม่ชอบรอ

ส่วนฝั่งเค้าอาจจะรออยู่แบบ อาจจะทำเรื่องสัญญาเสนอทางผู้บริหารไปแล้วงี้ (แนวๆนี้เจอกับ บ start up เยอะ)

โทรไปปฏิเสธ B ชัดๆ ดีกว่าครับ อย่างน้อยๆเราก็ทำตามมารยาทแหละครับ

ทั้งนี้ ทั้งนั้น ยินดีด้วยสำหรับงาน + ฐานเงินเดือนใหม่ครับ

ผมเคยแต่ตอบไปว่าขอโทษครับพอดีผมได้งานอีกที่ไปแล้ว แค่นั้นเค้าก็ไม่ว่าไรหรอกครับคนมาสมัครน่าจะเยอะเค้าไม่มาโฟกัสที่เราคนเดียวกรอก แต่ของผมแม่มพีคตรง บริษัทที่ผมตัดสินใจไปตอนนั้นทำได้เกือบปีแม่มดันเจ๊ง สุดท้ายผมเลยโทรกลับไปที่เบอร์คนที่เคยโทรมาเรียกผมตอนนั้น 555 ผมยังเซฟไว้บอกพี่ครับ พี่จำผมได้ไหมที่เคยสมัครตอนนี้ตำแหน่งนั้นยังว่างไหม 555

เค้าก็บอกตอนนี้เต็มปิดรับไปแล้ว แต่อาจจะเปิดเร็วๆ นี้ลองโทรมาถามเรื่อยๆ ก็ได้ โชคดีพี่คนนี้เค้าดีมาก ผมเลยโทรไปเดือนละครั้ง ประมาณ 4 ครั้งได้จนเค้าเปิดรับคนละรับผมเข้าทำงาน

ถ้ามืออาชีพ เค้าก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ ก็เข้าใจคนตามหางาน พอมีงานให้เลือกก็เข้าใจอ่ะแหละ

แต่ถ้าพอเทแล้วจะรีเทิร์น อันนี้ก็จะเขินๆหน่อย

ถ้าให้ผมเลือกนะ ผมจะตัดเหลือช้อย 2-3 ครับ

ใกล้แต่ต้องขับรถไปอย่างเดียว คีย์เวิดคือใกล้ ผมว่าเวิร์คไลฟ์บาลานซ์จะโอเคครับ

ส่วนบริษัทเล็กแต่งานที่อยากทำ ก็น่าสนใจครับ บริษัทเล็กบรรยากาศใน บ.น่าจะไม่แย่

เพราะก็มีกันไม่เยอะน่าจะสนิทชิดเชื้อกัน งานก็สนใจอยู่แล้วน่าจะทำแล้วมีความสุขดี[ความคิดเห็นส่วนตัว]

แต่ถ้าเหลือ2ช้อย ผมเลือกเวิร์คไลฟ์บาลานซ์อะครับ ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานครับ แต่เกิดมาใช้ชีวิต

แค่ต้องหาเงินไป เพื่อให้ใช้ชีวิตได้สบายแค่นั้นครับ