ของ มิลาน เรียกว่า 4-4-2 ดีกว่า ครับ ไม่เหมือนแบบ รังนิก เลย
ใช้น้อยเกมส์มาก ส่วนใหญ่ ถ้าสมัยนั้น มิลาน ชอบใช้ 4-3-1-2, 4-4-2 หรือ 4-1-2-1-2 มากกว่า

4-2-2-2 ตัวรุก 2 ตัวต้องเป็น playmaker

ลุงเอาปีกมาเล่น ภาระก็ตกกับคู่กลาง ซึ่งทำเกมไม่เป็นอยู่แล้ว

เหมือนเล่น 4-4-2 ยุคก่อน ซึ่งปัจจุบันจะมีนักเตะสักกี่คนที่เล่นกลาง 2 รุกรับได้

เจอบอลยุคนี้ คู่แข่งมีกลางอย่างน้อย 3 คนมาชน (วูฟมารุม 4-5 คนตรงกลาง)

ที่สำคัญแผนที่ไม่มีปีก แบ็คต้องรุกเก่ง ซึ่งนัดเมื่อคืนขึ้นได้บ่อยนะฝั่งขวา แต่เปิด...มาก

สรุปคือ ต้องร่วมรับผิดชอบทั้งโค้ชและนักเตะ ที่ห่วยกันทุกคน

ใจชื่นเรื่องเดียว โจนกลับมาแล้ว

มีปีกแต่เอามเล่นกลาง งงดิ

แผนนี้ มิดฟิลด์แดนกลางต้องเก่ง ความเข้าใจแทคติกต้องสูง

โรลนี้แบ๊คต้องขึ้นมาช่วยชิ่งบอล เพราะจะโดนเพรสจนหาช่องจ่ายไม่เจอ

ปัจจุบันหลายทีมใช้หน้าเดี่ยว เพื่อที่จะเติมมิดฟิลด์มาช่วยต่อบอล ไล่บอล หรือจะเป็นแผนเป๊ป ที่ไม่มีกองหน้าเลย แล้วใช้นักเตะ วิ่งเข้ากรอบเพื่อไปรับบอลแทน

แผนหน้าคู่แบบนี้ เหมาะกับทีมที่เล่นไดเรค นั่นคือรับแล้วสวน รับแบบรับลึกๆด้วยนะ เพราะมันมีช่องว่างตรงริมเส้น ให้ฝั่งตรงข้ามมาพักบอล

แผนนี้มีข้อเสียตรงที่ มีโอกาสที่จะโดนตัดบอลแล้วสวนได้ง่าย ถ้ามิดฟิลด์ตรงกลางไม่แกร่งพอ

ในเกมรับ โรลนี้ เล่นกับดักล้ำหน้ายาก เพราะพื้นที่ระหว่างกองหน้ากับกองหลังกว้างเกินไป

ถ้าดูแผนเป๊ป ระยะระหว่างกองหน้ากับกองหลังจะไม่กว้าง กองหลังจะดันไลน์สูงมาก จะทำให้นักเตะมีพื้นที่ในการรับผิดชอบเวลาเพรสไม่เยอะ

สงสัยว่า รังนิกจะมายัดฟอเมชั่น 4-2-2-2 ไปทำไม
ในเมื่อลุงก็อยู่แค่ 6 เดือน
ฟอเมชั่นทั่วๆไปเดี๋ยวนี้ยังไงก็ 4-3-3 เป็นหลัก
แล้วเดี๋ยวพอโค้ชใหม่มา ก็มาปรับระบบกันอีก บ้าบอ

หรือนักเตะยังไม่อิน ได้ใจใหญ่มากที่กล้าแหก ฮาๆ

มันมีปีกมั้ย แผนนี้หรือแบค ขึ้นมาเปิด

เมือคืนผมเห็นว่าหลังจากครึ่งแรก ทีมเราเล่นหลัง 3 ให้ชอว์ลงมาเล่นหลังแล้วถอยซานโช่มาเล่นวิงแบ็คซ้ายครับ

กองกลาง ต้องกล้าออกบอล กล้าทำเกม ทำชิ่ง ตัดบอล แถมต้องมีทั้งรับและรุก ซึ่งแมคโท ทำไม่ได้เลย ห่างไกลมาก ถ้าจะตอบโจทย์แผนนี้ แนะนำ กำเงินไปซื้อก้องเต้ รับลองเห็นผลครับ