[RE: รีวิว ประสบการณ์รับราชการมา 10 ปี จาก 2 หน่วยงาน]
greencheer99 พิมพ์ว่า:
N'Square พิมพ์ว่า:
greencheer99 พิมพ์ว่า:
N'Square พิมพ์ว่า:
ข้าราชการลำบากต้น เหนื่อยกลาง สบายตอนปลาย
ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัด การเป็นข้าราชการ มีเงินเดือนประจำเดือนละ15000+นี่คือสบายมากแล้ว
แต่ถ้าอยู่ในเมือง คนกรุง 15000 ไม่พอยาไส้แน่นอน
แต่ส่วนตัวผมเคยเห็นจากครอบครัว ทำงานเอกชน เงินเดือนสูงจริง แต่พอเริ่มแก่ เจ็บป่วย ทำงานไม่ได้เหมือนเก่า เอกชนจะมองหาคนใหม่ เด็กรุ่นใหม่มาแทน ยามเจ็บป่วยก็ต้องดูแลตัวเอง ถ้าไม่มีคอนเน็คชั่นหรือเนื้อหอมมีหลายบริษัทอยากดึงตัวไปทำวานด้วย ช่วงปลายเอกชนคุณลำบากแน่ถ้าโดนให้ออกหรือลดบทบาท ส่วนราชการนั้นความมั่นคงคือข้อดีสุด จะน้ำท่วม เศรษฐกิจแย่ มีม็อบ มีโควิด ก็ยังมีกินมาใช้ไม่ขาดรายได้ ไม่อดตายแน่อะเอาง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้รวยเวอร์ ยกเว้นจะทำอะไรเทาๆมืดๆ แต่ก็เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางเหมือนกัน เนื้องานก็แล้วแต่ที่ เจอแบบไม่ประสาทแดร๊กก็ดีไป แล้วจริงๆถ้าใต่เต้าได้ระดับสูงๆ ข้าราชการบางที่ เอกชนเค้าจะเชิญไปนั่งที่ปรึกษาหรือบอร์ดอีก ตรงนี้ก็ได้เงินเพิ่มหลักแสน แบบถูกกฎหมายด้วยครับ
เอาจริงๆแบบนี้ก็ไม่ค่อยดีนะครับ
เอกชนเค้าหาคนรุ่นใหม่เข้าเพื่อจะพัฒนาองค์กร
แต่รัฐบาลก็ ใช้คนเก่า ไม่พัฒนา เข้าไปเจอแต่ป้าๆลุงๆ หัวแข็งๆ
ไม่รับเทคโนโลยีใหม่ๆ ชั้นทำแบบนี้มา 30 ปี ชั้นก็จะทำอยู่แบบนี้
ใครๆเค้าก็ทำกัน มีการวางอำนาจ ชั้นอยู่มา 30 ปีแล้ว แกพึ่งเข้ามาใหม่
เอกชนมีความคล่องตัวกว่าครับ ประสิทธิภาพสูงกว่าภาครัฐใครๆก็รู้ แต่ผมพูดในแง่ของการปกป้อง "คนในองค์กร" ซึ่งผมมองว่าภาครัฐทำได้ดีกว่า ในขณะที่ภาคเอกชนนั้นเค้าพร้อมจะเขี่ยคุณทุกเมื่อครับ นึกสภาพคุณอายุ50แล้วตกงานนะ ส่วนการไม่รับเทคโนโลยีใหม่ๆ ผมว่าภาครัฐทำนะครับแต่อาจจะทำในอัตราที่ช้ากว่าเอกชน คุณบอกว่า 30 ปีทำยังไงก็ทำยังงั้น ผมว่าไม่ใช่นะ ตอนนี้ภาครัฐใช้ระบบดิจิตัล การเก็บข้อมูลก็พัฒนาขึ้น ถ้าคุณบอกว่าภาครัฐไม่รับเทคโนโลยี ผมถามว่าแล้วนโยบายอย่างคนละครึ่งที่ใช้งานผ่านระบบธนาคารออนไลน์ก็ไม่เกิดขึ้นหรอก อีกอย่างการทำงานคนรุ่นใหม่จำเป็นแน่นอนครับ แต่คนที่มีประสบการณ์ก็จำเป็นเช่นกันครับ
คนละครึ่งที่ต้องไปธนาคารเพื่อยืนยันตัวตน
เจ้าของร้านต้องไปเอาใบสมัครที่ธนาคาร แล้วเอาไปให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็น
ที่ต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนไป
ที่เงินเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง
ถ้าเอางบที่ทำขนาดนั้นไปให้เอกชน
ผมว่าคล่องกว่านี้เยอะนะครับ เพราะเงินนั้นก็เป็นเงินภาษีของพวกผมที่จ่ายเข้าไปเหมือนกัน
บัตรประชาชนมีชิปที่ยังต้องถ่ายสำเนาบัตร
กรมที่ดิน ที่ยังต้องไปแต่เช้า ไปหยิบบัตรคิว
ผมว่ามันก็ค่อนข้างล้าหลังอยู่นะครับ
ใช่ครับมันดีกว่า สำหรับตัวคนทำงาน ที่ทำงานนานๆไปจะไม่โดนเขี่ยออก
ถ้าเค้าทำงานดีก็ดีไปครับ
แต่ถ้าทำงานไม่ดี ช้า ตกประเมินตลอด มาสายกลับก่อน
แบบนี้คือประชาชนก็ต้องทนจมอยู่กับข้าราชการแบบนี้หรอครับ
อันนี้ผมมองในแง่ของประชาชนผู้ไปใช้บริการนะครับ ไม่ได้มองในมุมของข้าราชการ
1. คนละครึ่งยืนยันผ่านทางแอพเป๋าตังได้เลยนะครับ แต่สำหรับใครที่ทำไม่เป็น โลวเทค คนแก่คนเฒ่า ก็สามารถไปใช้บริการที่ธนาคารได้ครับเป็นทางเลือก
2. สำเนาบัตรประชาชนตอนนี้ราชกิจจาให้ยกเลิกการใช้แล้วนะครับ ถึงจะเพิ่งประกาศยกเลิกและหลายๆที่ยังคงเคยชินกันแบบเก่าๆ แต่ภาครัฐมีการปรับตัวกับเทคโนโลยีนะครับ
3. เลยนำมาสู่เรื่องไม่รับเทคโนโลยีไง ผมเลยแย้ง argument คุณไง คุณบอก 30ปียังไงก็ยังงั้น ซึ่งผมชี้ให้เห็นว่ามันไม่จริง ภาครัฐมีการปรับตัวกับเทคโนโลยีมากขึ้นแล้วครับ แต่ผมเองก็เขียนบอกเหมือนกันว่าแต่มันคงยังไม่เปิดรับและไฮเทคเท่ากับเอกชนที่มีความคล่องตัวกว่าหรอกครับ องค์กรภาคเอกชนมันขนาดเล็กกว่าภาครัฐมาก จะปรับเปลี่ยน จะทำอะไรก็ง่ายกว่าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าภาครัฐเขาไม่ปรับเลย
4. ผมแชร์ให้ว่า ผมจะบอกให้ว่า ต่อให้คุณทำงานดี ประเมินดี คุณก็โดนเขี่ยออกได้ครับในภาคเอกชน ถ้าคุณค่าแรงเริ่มสูงมากเกินไป และผมพูดถึงเรื่องการเจ็บป่วย พูดง่ายๆเอกชนใช้งานคุณทำงานงกๆถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่งมาตลอดเป็นสิบปี แล้วเราทำงานดีมาตลอด โปรเจ็คไม่มีปัญหา แต่พอใช้งานเรามากๆจนเริ่มอายุมากขึ้น เริ่มเจ็บป่วย เริ่มใช้งานไม่ได้แล้ว แต่ยังต้องจ่ายเงินสูง เขาก็หาเรื่องเขี่ยคุณออกครับ หรือถ้าไม่เขี่ยก็จะลดบทบาทและให้ความสำคัญกับคุณน้อยลง ทั้งๆที่คุณทำงานดีนะ ทำเพื่อบริษัทมาตลอด บางบริษัทถ้าเจ้าของเค้าคำนึงถึงลูกจ้างบ้าง ก็อาจจะช่วยครับ แต่บางทีเค้าคำนึงถึงผลกำไรของบริษัทเป็นหลัก เค้าก็ไม่สนครับ ซึ่งต่างจากภาครัฐที่เค้าใช้งานคุณ แต่เค้ายังไม่ทิ้งขว้างคุณง่ายๆนะ แต่แน่นอนข้อเสียของภาครัฐคือพวกที่ทำงานไม่ได้เรื่องก็ยังได้อยู่แต่ภาคเอกชนก็จะปลิวไวกว่า
5. ในแง่ของประชาชน ใช่ครับเห็นด้วยว่าภาครัฐต้องบริการประชาชนให้ดีให้ไว ซึ่งจริงๆพูดไปก็เดี๋ยวหาว่าผมอวย ผมเป็นติ่งแม้วอีก แต่ในยุคลุงโทนี่ครับ เค้าสั่งภาครัฐให้ทำงานบริการประชาชน ทำงานให้ไว ผู้ว่าก็เป็นผู้ว่า CEO ฉับไว ใครทำงานไม่ได้ย้าย ส่วนทูตก็ต้องขายของเอาเงินเข้าประเทศด้วย พวกหน่วยงานราชการไม่ให้เช้าชามเย็นชาม นั่นเลยทำให้ลุงโทนี่โดนข้าราชการเกลียดเยอะครับ เพราะเขาอยู่สบายๆมาก่อนแล้วแม่มเหนื่อยขึ่้นเฉยเลย ไหนจะ30บาทอีก หมอ พยาบาลงานเพิ่มสุดๆ ส่วนยุคนี้เค้าเอาใจข้าราชการครับ เพราะลุงจะอยุ่ได้ต้องพึ่งระบอบแบบรัฐราชการไทย จริงๆผมเลยมองว่าภาครัฐจะดีไม่ดี ไวไม่ไว อยู่ที่ตัวหัวด้วยครับ ถ้าเป็นแนวลุงโทนี่นักธุรกิจ ก็จะทำให้ระบบราชการทำงานไว แต่ถ้าเป็นแบบสไตล์ทหารซึ่งก็เป็นราชการเดิมมาก่อน ก็จะสไตล์แบบราชการ ช้าๆ เจ้ายศเจ้าญานี่หละ ประชาชนก็รับเคราะห์