ใครไม่อายผมอาย!! จิ้งจอกเจ็บเกือบ 10 เบียด ’หงส์’ หงายเงิบ 1-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนฯซิตี้ ส่อแววเข้าป้ายคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก หลัง ลิเวอร์พูล ยางแตกเล่นไม่สมราคาทีมลุ้นแชมป์เมื่อพ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ผู้เล่นชุดใหญ่หายไปถึง 8 ตัวโดย อเดโมล่า ลุ๊คแมน ลงมาเป็นซูเปอร์ซับและเป็นการยิงเข้ากรอบครั้งแรกของเจ้าถิ่นก่อนลงกลอนชนะไปเลย 1-0
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-1-2
10.
เจมส์ แมดดิสัน

68'
6
20.
ฮัมซ่า เชาดูรี่

56'
6.5
22.
เคียแมน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์
7
14.
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

56'
6
ตัวสำรอง
8.
ยูรี ทีเลอมันส์

56'
6
11.
มาร์ค อัลไบรท์ตัน

68'
6
37.
อเดโมล่า ลุ๊คแมน

56'
7
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
อังคารที่ 28 ธันวาคม 2564
กรรมการ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
เลสเตอร์ ซิตี้
1
0
ลิเวอร์พูล
เลสเตอร์ ซิตี้ มีปัญหานักเตะเจ็บเพียบ แต่วันนี้ได้เจมี่ วาร์ดี้ กลับมาเป็นตัวจริงคู่กับเคเลชี่ อิเฮียนาโช่ในแดนหน้าและยังไม่เจมส์ แมดดิสันทำเกมด้านหลัง ส่วนลิเวอร์พูลได้พักมาเต็มๆ ทว่าธิอาโก้ อัลคันทาร่าที่เพิ่งหายโควิด ยังไม่พร้อมทำให้อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงแทน แดนหน้ายังเป็น ดิโอโก้ โชต้าที่ลงมาเล่นกับซาลาห์และมาเน่
ซูมาเร่ลองส่องไกลข้ามคาน
เริ่มเกมมาในช่วงแรกยังสูสี เลสเตอร์มีโอกาสลุ้นทำประตู แมดดิสันจ่ายบอลไปถึงซูมาเร่ ได้หวดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลโด่งเกินไปยังไม่ตรงกรอบ
แคสเปอร์เดาถูก!บังโมพลาดโทษเซ็ง
อาร์โนลด์ทุ่มเร็วมาให้เฮนเดอร์สันป้ายกลับมาให้ซาลาห์เกี่ยวบอลก่อนลากหาช่องยิงแต่โดนเอ็นดิดี้เกี่ยวจากด้านหลังล้มลงไปกรรมการเป่าทันที แล้วเป็น ซาลาห์รับอาสายิงเองด้วยซ้ายไปติดเซฟของแคสเปอร์ ดาวเตะอียิปต์พยายามโขกซ้ำก็ไปชนคานอีก
OX ตักให้เฮนโด้แคสเปอร์ต้องปัด
แชมเบอร์เลนตักบอลแนวลึกเข้าไปในกรอบเขตโทษเฮนเดอร์สันมาโขกแต่ไม่ถึงทว่าบอลเข้ากรอบทำให้แคสเปอร์ต้องผวาปัดออกไปนิดเดียวไม่งั้นเข้าประตูได้เลย
โชต้าจับนิ่งๆ ยังติดเซฟแคสเปอร์
มาเน่วางบอลจากนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายเข้ากลาง เฮนเดอร์สันโขกเสยไปให้ โชต้าที่อยู่เสาไกล พยายามจับนิ่งๆ ก่อนยิงไปติดเซฟของแคสเปอร์แล้วไลน์แมนยกธงขึ้นมาด้วย ทว่าภาพช้านั้นไม่น่าจะล้ำ
เหนียวโว้ย!บังโมกดเหน่งติดมือแคสเปอร์
เฮนเดอร์สันเบิ้ลบอลไปหาซาลาห์แต่คาสตานเญ่เคลียร์ไปติดขาโธมัสบอลย้อนมาให้ซาลาห์แปด้วยซ้ายเหน่งๆ ทว่าก็ยังไปติดเซฟของแคสเปอร์ปัดข้ามคานไปอีก
มาติปมาทัน!วาร์ดี้ลากยิงติดบล็อค
กลับมาเป็นเจ้าถิ่นได้ลุ้น คาสตานเญ่ตอกส้นให้วาร์ดี้เลี้ยงลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วพอจังหวะจะยิงยังมีมาติปที่แหย่ขามาหวางเอาไว้จังหวะสุดท้ายเลย
แมดดิสันยิงตามน้ำโดนไม่ดี
วาร์ดี้ได้สวนหลุดขึ้นมาทางขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนไหลให้แมดดิสันที่เติมมาแต่ดันยิงด้วยขวาโดนไม่ดีเท่าไหร่สุดท้ายมาติปช่วยเคลียร์ทิ้งออกไป
เฮนโด้ยิงสวนยังไม่ตรงกรอบ
ต่อเนื่องจากเตะมุมด้านซ้ายของลิเวอร์พูล เทรนท์เปิดบอลเข้ามาแต่โดนโขกทิ้งเลยไปถึงเฮนเดอร์สันตวัดยิงสวนเข้าไปบอลพุ่งน่ากลัวแล้วแต่ก็ยังข้ามคานออกไปอีก
โชต้ายิงไม่จับหลุดเสาได้ลุ้น
ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีก เทรนท์เปิดเข้ามาเชาดูรี่โขกเคลียร์ไม่ดีมาเข้าทางของโชต้าตวัดยิงด้วยขวาตรงจุดโทษแต่โดนไม่เต็มหลุดเสาซ้ายมือไปนิดเดียว
เสียดาย!มาเน่หลุดซัดขุดดิน
โอกาสทองของ หงส์แดง โชต้าไหลบอลให้มาเน่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วแต่จังหวะยิงดันงัดโด่งจะให้ข้ามแคสเปอร์แล้วก็ข้ามคานออกไปด้วย
มาเน่ลากมายิงตรงตัวแคสเปอร์
มาเน่ลากบอลทะลุมาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงแต่กำลังจะล้มพอดีบอลเข้ากรอบแต่ก็ไปตรงตัวของแคสเปอร์รับไว้ไม่มีปัญหา
ลงมาได้เรื่อง!ลุ๊คแมนหลุดกดเสาแรกจิ้งจอกนำ 1-0
กลายเป็นเลสเตอร์ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนลุ๊คแมนจ่ายบอลให้โธมัสลากขึ้นมาก่อนคืนมาให้ลุ๊คแมนลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงเบียดเสาแรกผ่านอลิสซอนเข้าไป 1-0!!!
วาร์ดี้เดี้ยงยังฝืนเล่นไหว
เลสเตอร์มีปัญหาแล้วเมื่อวาร์ดี้ ได้รับบาดเจ็บลงไปนอนกุมต้นขาด้านขวาต้องให้หมอลงมาดูอาการอยู่นานแล้วสามารถลุกขึ้นมาเล่นต่อไปได้
บังโมวอลเล่ย์น่าผิดหวัง
ลิเวอร์พูลยังมีปัญหาในจังหวะสุดท้าย ฟรีคิกริมเส้นด้านขวาเทรนท์โยนยาวไปทางเสาไกล ซาลาห์วางเท้าวอลเล่ย์ด้วยซ้ายแต่โดนไม่ดีออกหลังไปไกล
โชต้าโขกยังไม่ดีพอ
คอนเนอร์ทางขวาของทีมเยือน ชิมิกาสโยนมาลุ้นหน้าปากประตูบอลลอยโด่ง โชต้ากระโดดสุดตัวได้โหม่งแล้วแต่หลุดเสาสองออกไปอีก
แคสเปอร์เซฟอีก!VvD ยัดเสาแรกไม่ผ่าน
มิลเนอร์โยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษเลยไปทางเสาไกล ฟาน ไดจ์จับนิ่งๆ ก่อนกดด้วยซ้ายแต่แคสเปอร์ยังใช้ขาเตะทิ้งไปได้อีกที
หงส์สะดุดพ่ายจิ้งจอก 0-1
สุดท้ายลิเวอร์พูลเจาะไม่เข้าจริงๆ ทำให้บุกมาแพ้ เลสเตอร์ 0-1 พลาดโอกาสไล่จี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตำแหน่งจ่าฝูง แถมนัดหน้าต้องไปเยือนเชลซีอีกต่างหาก
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
6
3.
ฟาบินโญ่

64'
6.5
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

70'
6
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

56'
6
ตัวสำรอง
7.
เจมส์ มิลเนอร์

64'
6
8.
นาบี เกอิต้า

56'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

70'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Wed Dec 29, 2021 04:57, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ