และคิดว่าแผนนี้ล้าสมัยหรือเปล่ากับฟุตบอลยุคปัจจุบัน?

หลัง 3 ตัวต้องเรียกว่าเข้าขารู้ใจเลยอ่ะ ว่าใครจะเข้า ใครจะซ้อน และวิงแบ็คต้องเทพ รับเหมาทั้งรุกรับ ขึ้นสุดลงสุด แถมเวลาเกมรับ มีโอกาสโดนรุม 2-1 บ่อย ถ้าปีก/หน้า กับแบ็คอีกทีมเติมมาก ต้องจัดระเบียบเกมรับดีๆ

ข้อดีน่าจะเป็นเรื่องการชิงพื้นที่ตรงกลางสนามได้ เพราะอัดตัวกลางไปเยอะ

จุดยากของแผน 3-5-2 สมัยนี้คือมันต้องหาวิงแบ็คที่มันเล่นได้นีแหละ

หา WB เก่งๆ ยาก

แน่นอนในลีคไม่โหดเท่าไหร่ กดทีมเล็กไม่ค่อยลง

วิงแบคต้องฟิตมาก

ถ้าวิงแบคกากจบเลย

ข้อดี ไว้ใช้โอเวอร์โหลดตัวผู้เล่นได้ดี พวกวิงแบคจะสอดไปเพิ่มจำนวนผู้เล่นให้ ไม่ก็กองหลังข้างซ้ายขวาช่วยเติมอีก
กลางส่วนใหญ่จะเป็นตัวไล่บอลกับคุมจังหวะ(ไม่ค่อยมีบทเด่นมากในเกมรุก)

ข้อเสีย ต้องมีวิงแบคที่มีเซ้นส์เกมรุกจัดๆ+วิ่งได้90นาทีเต็ม เพราะถ้าทำไม่ได้ แผนหลัง3จะกลายเป็นเหมือนหลัง5ทันที กองหลัง3ตัวต้องรู้ใจกันมาก ใครเข้าบวกใครซ้อน หรือใครจะเติมไปช่วยเกมรุก ทำให้ต้องมีสกิลเกมรุกเพิ่มเติม บางครั้งเกมตันๆจะไม่มีตัวรุกธรรมชาติพอที่จะสร้างความแตกต่างได้

ข้อเสีย เสียโควต้าเกมรุกไปตัว ดูvvdลิเวอร์พูล ดิอาซซิตี้ที่เขาโคเวอร์หลังสองได้ แล้วพอเหลือโควต้ายัดกลางลงไปได้สามตัวนี่กดทุกทีมที่เจอไม่ว่าเล็กใหญ่ ขณะที่เชลซีมีกลางแค่สองในเกมที่เจอทีมอุดมีปัญหาแดนกลางทุกที ต้องถ่ายบอลไปให้แบ็กเป็นแกนบุกแทน ถ้าในลีกไม่มีคู่แข่งที่เอาสามแต้มนัดต่อนัดแบบปีนี้คงไหว แต่ปีนี้มันมีซุปเปอร์ทีมที่กดสามมแต้มทุกนัด ระยะยาวจะไม่ไหวเอา

ประเด็นแบ็กไม่ต่างกันหรอกครับแผนหลังสองหลังสาม ดูซิตี้ลิเวอร์พูลสิหลังสองแบ็กเขาก็เติมเกมรุกไม่ได้ต่างแผนหลังสามเลย สมการง่ายๆกลาง3+แบ็ก2 > กลาง2+แบ็ก2

center เพิ่มมา 1 คนก็คือเสียโควต้าตำแหน่งอื่นไป 1 คน

ถ้า 3-4-3 ก็คือเหลือกลางแค่ 2 คน.. 2 คนนั้นต้องเทพจริงๆ ไม่งั้นก็โดนฝั่งตรงข้ามที่ตัวเยอะกว่ากด

(นั่นน่าจะเป็นอีกเหตุผลที่สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครใช้ 4-4-2 เพราะกลางสู้ทีมที่เล่น 3 คนลำบาก)

ถ้า 3-5-2 ก็แปลว่าแนวรุกด้านบนหายไป 1 คน หรือง่ายๆคือริมเส้นด้านข้างต้องอาศัยวิงแบคเพียวๆในการโจมตี

สำคัญคือแทคติก+ความสามารถของผู้เล่น หลัง 3 ไม่ใช่ปัญหาถ้าทั้ง 2 อย่างพร้อม

ถ้าหลังสามแบบยืนรับอย่างเดียว ก็แค่เน้นรับ ก็มีประโยชน์แค่นั้น

แต่ถ้าหลังสามแบบโหลดเป็นกองกลางในเกมรุกได้ เป็นแบ็กซ้ายขวาในเกมรับได้ คือโคตรโหด

ผมว่าหลังสามสำคัญที่เซนเตอร์มากกว่าวิงแบ็กนะ ถ้าเซนเตอร์เก่ง ให้วิงแบ็กบุกลอยเกมรับก็เอาอยู่

ข้อดี จัดระเบียบง่าย หน้าไล่ กลาง+วิงเซนเตอร์จับคู่กับตัวหน้าง่าย หน้า3ก็3ชน หน้า2 ตัวนึงก็ดันสูงได้

ข้อเสีย กลาง+วิงรับผิดชอบเยอะมาก ต้องช่วยหมดรุกรับ ส่วนข้อเสียที่ว่าเสียตัวรุกฟรีไป1เก็บทีมเล็กยาก
ผมว่าถ้าเกมได้บด มันดันกลาง1ตัวไปข้างบน หรือวิงข้างนึงดันขึ้นได้เลยไม่ต้องลง แล้วเซนเตอร์ตัวนึงไปแทนตำแหน่ง
มันฝืนตำแหน่งแหละ ต่างกับหลัง4ไม่ต้องหมุนเล่นปกติไม่เถียง แต่ถ้าความเข้าใจ-คุณภาพมันถึงผมว่ามันก็ทำได้นะ

ส่วนล้าสมัยผมว่าไม่นะ พวกformationหน้ากระดานมันก็วนๆอยู่แถวนี้ อยู่ที่วิธีการข้างในมากกว่า

ลิเวอร์พูล ถ้าคิดว่า ฟาบินโญ่ คือกองหลังที่ขึ้นสูงมาช่วยกองกลางและเล่นเกมรุก มันก็คล้ายๆ หลังสาม ในระบบ 3-4-3 นั้นแหละ

อลิสซอน

มาติป - ฟาบินโญ่ - ฟาน ไดจ์ค

เทรนท์ - เฮนเดอร์สัน - ติอาโก้ - โรเบิร์ตสัน

ซาลาห์ - โชต้า - มาเน่

มันแล้วแต่ไอเดียอ่ะ

หลัง3 จังหวะบุกพับสนาม เหลือเซนเตอร์ตัวเดียวยังได้ แล้วเซนเตอร์ด้านข้างขึ้นไปทำหน้าที่ inverted full back

ขณะที่หลัง 4 จังหวะบุก เซนเตอร์สองตัวจะถ่างออกจากกันเล็กน้อย ถ้าระวังจังหวะสวนกลับ มิดฟิลตัวรับจะถอยลงมายืนเป็น half back ทำให้มีสภาพการยืนคล้ายหลัง3อยู่ดี

ตานนั้น KPI ไปโหลดที่วิงแบ็คเกินไป